“โรบินฮูด” ชื่อนี้อาจเป็นที่รู้จักของผู้คนมานานนับศตวรรษทั้งในแวดวงวรรณกรรม ละคร มาจนถึงวงการภาพยนตร์ เรื่องราวของจอมโจรปล้นคนรวยช่วยคนจนได้รับการเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่น และได้รับการถ่ายทอดบนจอภาพยนตร์มาหลายต่อหลายเวอร์ชั่น จนมาถึงปี 2018 การผจญภัยของโรบินฮูดกำลังจะกลับมาอีกครั้งในฐานะภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ส่งท้ายปี แต่ตำนานของลูกผู้ชายคนนี้จะปรากฏสู่สายตาคนทั้งโลกในภาพที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิงโดยฝีมือการผนึกกำลังกันของทีมงานคนรุ่นใหม่ 3 หัวเรือหลักของโปรเจกต์ “Robin Hood” ปี 2018 ที่พร้อมนำเสนอสิ่งใหม่ให้กับผู้ชมทั้งลีลาการต่อสู้ด้วยธนูคู่ใจที่มีสไตล์ดุดันราวกับหนังแอคชั่นอย่าง “John Wick” ถ่ายทอดจุดพลิกผันสู่เส้นทางของจอมโจรที่โลกยังไม่เคยรู้ และเปิดเผยเสน่ห์เฉพาะตัวของโรบินฮูดคนใหม่ที่ซ่อนความขี้เล่น วิญญาณขบถ และหัวใจมุ่งมั่นแบบเด็กหนุ่ม เป็นการปักหมุดประวัติศาสตร์หน้าใหม่จาก “วีรบุรุษจอมโจร” สู่ “พยัคฆ์ร้ายโรบินฮู้ด”
ความหลงใหลในเรื่องราวของ “Robin Hood” ที่ว่าด้วยการลุกขึ้นมาปฏิวัติโลกที่เต็มไปด้วยความโลภ เปลี่ยนสิ่งที่ผิดให้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง คือสิ่งที่ทำให้นักแสดงหนุ่มระดับซูเปอร์สตาร์แถวหน้าและเจ้าของรางวัลออสการ์ “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” สนใจที่จะสร้างจินตนาการใหม่เข้าไปในตำนานอันไร้กาลเวลาเรื่องนี้ สำหรับลีโอแล้ว โรบินฮูดไม่เพียงแต่เป็นตัวละครที่จุดประกายประชาชนคนยากแห่งนอตติงแฮม แต่ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา เรื่องราวของจอมโจรผู้นี้ยังเป็นตัวจุดประกายความท้าทายให้กับนักเขียน ศิลปิน และคนทำหนังในการสร้างสรรค์ตำนานโรบินฮูดให้เข้ากับแต่ละยุคสมัย เช่นเดียวกับที่เวอร์ชันปี 2018 ซึ่งนับเป็นโจทย์ท้าทายที่น่าตื่นเต้นของลีโอในฐานะผู้อำนวยการสร้างด้วยเช่นกัน กับการปฏิวัติเรื่องราวของโรบินฮูดที่คนคุ้นเคยดีให้กลายเป็น “ความบันเทิงที่สดใหม่” สนุกสนานเป็นที่ถูกอกถูกใจของคนดูหนังในเจเนอเรชันปัจจุบัน
ในขณะที่ผู้กำกับภาพยนตร์ “ออตโต แบเธิร์สต” ผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรงที่รับประกันฝีมือในฐานะผู้ชนะรางวัล BAFTA มีความสนใจที่จะเจาะลึกเข้าไปในตัวตนและอุดมคติของผู้ชายที่ชื่อโรบินฮูด เขาอยากโชว์ให้โลกเห็นว่าศรัทธาในความถูกต้อง และเลือดรักชาติในตัวโรบินฮูดได้เป็นตัวผลักดันให้ผู้ชายคนนี้สร้างวีรกรรมที่ไม่ใช่แค่ในฐานะของฮีโร่แต่เป็นวีรกรรมที่เป็นตำนานของโลก เขายังเชื่อว่าตัวละครเก่าแก่อย่างโรบินฮูดไม่มีทางตกยุคไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เพราะโรบินฮูดคือ “สัญลักษณ์เสี้ยนหนามของคนชั่ว” ที่ซ่อนตัวอยู่ในสังคมและการเมืองที่มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย อย่างไรก็ดี ในภาพยนตร์ “Robin Hood” เวอร์ชันใหม่ภายใต้การกำกับของเขา โรบินฮูดคนนี้ต้องได้รับการปฏิวัติโฉมใหม่ทั้งหมด ลุกส์ที่มีสไตล์เต็มไปด้วยพลังงาน ป๊อปในหมู่สาวๆ และที่สำคัญที่สุดจะต้องมาพร้อมทักษะการต่อสู้ด้วยธนู ทั้งหมดนี้รับรองว่าโรบินฮูดเวอร์ชัน 2018 จะแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับเวอร์ชันก่อนหน้าและจะทำให้ผู้ชมต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน
และขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่จะมาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เปลี่ยนโฉมหน้าจอมโจรจากผืนป่าให้เป็นพยัคฆ์ร้ายผู้มีอะดรีนาลีนนักรบพลุ่งพล่าน “ทารอน อีเกอร์ตัน” นักแสดงหนุ่มสัญชาติอังกฤษที่แฟนหนังทั้งโลกต่างจดจำเขาจากบทนำเต็มตัวในบทบาทของสายลับเหลือร้ายจาก “Kingsman” และบทบาทของหนุ่มอัจฉริยะสุดเจ้าเล่ห์ในภาพยนตร์เรื่อง “Billionaire Boys Club” ทารอนได้รับการคัดเลือกให้มารับบทเป็น “โรบินฮูดคนใหม่” ผู้ที่พลิกผันชีวิตตนเองจากนายทหารหนุ่มที่เพิ่งกลับจากการเข้าร่วมรบในสงครามศาสนาที่ซีเรีย แต่กลับพบว่าเมืองบ้านเกิดของเขาไม่ใช่เมืองในแบบที่เขาเติบโตมาอีกต่อไป ซึ่งเขาจะเลือกนิ่งเฉยหรือจะเลือกสู้กลับในแบบฉบับของตนเอง และนั่นคือที่มาของจอมโจรในนาม “The Hood” ที่ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างเคี่ยวกรำทั้งทักษะการใช้อาวุธอย่างธนูจัดการกับศัตรูในแบบที่ใกล้เคียงกับคำว่าเพอร์เฟกต์ให้มากที่สุด รวมทั้งทักษะการขโมยที่ถือเป็นโลกใหม่ของนายทหารเช่นเขา สิ่งที่โรบินฮูดต้องฝึกฝนล้วนแต่เป็นสิ่งใหม่ที่ตัวนักแสดงอย่างทารอนเองต้องรับมือและทุ่มเทอย่างหนักในบทบาทที่ได้รับเช่นดียวกัน จากคนที่ไม่เคยมีทักษะของการยิงธนูเลย ถึงตอนนี้ทารอนสามารถยิงธนูได้พร้อมกัน 3 ดอกได้ในเวลาเพียง 2 วินาที!
ภารกิจปฏิวัติโฉมหน้าวีรบุรุษจอมโจรครั้งนี้ให้กลายเป็นความบันเทิงระดับมาสเตอร์พีซของปี 2018 สำหรับหัวเรือหลักทั้งสาม ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน แต่ด้วยความเชื่อมั่นแรงกล้าที่พวกเขามีต่อชีวิตของลูกผู้ชายที่กลายมาเป็นตำนาน ผสมผสานกับจิตวิญญาณและวิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่ พวกเขาพร้อมจะปักหมุดโรบินฮูดปี 2018 ให้เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังและความบันเทิงสำหรับแฟนหนังทุกคน “Robin Hood พยัคฆ์ร้ายโรบินฮู้ด” ปล้นคืนให้คนทั้งโลก 22 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
