1) ผู้กำกับภาพยนตร์ “สเตฟาโน ซอลลิมา” สร้างชื่อจากทีวีซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเรื่อง Gamorrah ที่ได้เสียงตอบรับจากนักวิจารณ์ถึง 92% Rotten Tomatoes และผลงานชิ้นต่อไปหลังจากนี้คืองานกำกับภาพยนตร์แอคชั่นที่สร้างจากวิดีโอเกมส์อันโด่งดังเรื่อง Call of Duty
2) มือเขียนบท “เทย์เลอร์ เชอร์ริแดน” จาก Sicario ภาคแรกกลับมาตรึงผู้ชมด้วยบทภาพยนตร์ที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม เขายังเป็นเจ้าของบทภาพยนตร์ในหนังแอคชั่นคุณภาพเยี่ยมอย่าง Hell or High Water และ Wind River อีกด้วย
3) เทย์เลอร์ เชอร์ริแดนมือเขียนบทให้ความเห็นต่อการได้สเตฟาโน ซอลลิมามารับหน้าที่ผู้กำกับว่า “หนังมันจริงมาก ไร้ซึ่งความเห็นอกเห็นใจ เราต้องการผู้กำกับที่พร้อมตีแผ่ความจริง คนที่ไม่หวั่นเกรงที่จะนำเสนอประเด็นช็อกโลก และไม่ทำให้มันซอฟต์เพื่อเอาใจใคร”
4) “จอช โบรลิน” ยืนยันตัวละคร “แมตต์ เกรเวอร์” จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เขาดิบขึ้นกว่าเยอะ และยอมให้มือตัวเองสกปรกกว่ามากยิ่งขึ้น
5) “เบนิซิโอ เดล โทโร” ศึกษาบทหนังอย่างละเอียดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างคาแรคเตอร์ “อเลฮานโดร” ออกมาให้มันสมจริงมากที่สุด
6) สาวดาวรุ่ง “อิซาเบลา โมเนอร์” จาก Transformers: The Last Knight ร่วมเสริมความระอุด้วยบท “อิซาเบลา เรเยส” ลูกสาวราชายาเสพติดที่ถูกลักพาตัว จนเกิดเป็นความขัดแย้งเดือดระหว่างแก๊ง
7) ฝีมือถ่ายภาพที่ทั้งงดงาม สร้างสรรค์ และช็อกผู้ชม เป็นฝีมือของผู้กำกับภาพ “ดาริอุส วอลสกี้” ผู้กำกับระดับหัวแถวจากภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง The Martian, Prometheus และ Pirates of The Caribbean
8) ผู้กำกับและผู้กำกับภาพวางแผนการถ่ายโดยใช้เทคนิค “ลองเทก” (Long Take) ติดตามตัวละคร เพื่อให้ผู้ชมไม่ต้องละสายตาไปจากตัวละคร เกิดเป็นความท้าทายในการถ่ายทำแบบลองเทกโดยเฉพาะใน “ฉากขบวนรถฮัมวีโดนซุ่มโจมตี” ซึ่งเป็นฉากการปะทะที่ยาวนานที่สุดในเรื่อง ประกอบด้วยตัวละครหลายตัว, สาดกระสุนแบบนันสต๊อป และระเบิดที่สมจริง
9) เดือดแบบถึงใจแน่ เพราะทีมงานแทบไม่พึ่ง CG ใดๆ ในฉากแอคชั่นเลย
10) ดนตรีประกอบที่เข้มขลังและสะกดผู้ชมตลอดเส้นทางปฏิบัติการล้างบาง เป็นผลงานของ “ฮิลเดอร์ กัวนาดอตเตียร์” เจ้าของเครดิตดนตรีประกอบในภาพยนตร์ที่เข้าชิงออสการ์อย่าง The Revenant และ Arrival ซึ่งครั้งนี้มีการเสริมแนวทางใหม่ของดนตรีที่ให้อารมณ์ต่างออกไป แต่ยังคงเอกลักษณ์ความลึกล้ำชวนตรึงอารมณ์เหมือนเช่นเคย
11) ปฏิบัติการครั้งใหม่ใน “Sicario: Day Of The Soldado” เป้าหมายคือหยุดขบวนการลักลอบค้ามนุษย์ข้ามชายแดนผ่านทางพรมแดนเม็กซิโก-สหรัฐฯ ซึ่งเป็นฝีมือของสองแก๊งค้ายาเสพติดรายยักษ์ในเม็กซิโก
12) ทีมงาน “Sicario: Day Of The Soldado” ถ่ายทำกันในช่วงฤดูหนาวที่เย็นยะเยือกและเผชิญภูมิประเทศอันทรหดของรัฐนิวเม็กซิโก ทั้งทะเลทรายสถดลูกหูลูกตาพื้นที่กว่า 500,000 เอเคอร์ ดินลูกรัง แม่น้ำอันเย็นเฉียบ และฝูงสัตว์ที่ถูกเลี้ยงอย่างอิสระ
13) กองทัพสหรัฐฯ ส่งยุทโธปกรณ์ของจริงมาให้ทีมงานใช้ในการถ่ายทำ ทั้งเฮลิคอปเตอร์แบล็ฮอว์ก, รถถังฮัมวี, ปืนกล, เสื้อกันกระสุน, กล้องสอดแนม และกล้องจับความร้อน
“Sicario: Day of the Soldado ทีมพิฆาตทะลุแดนเดือด 2″ ฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
