
“โชว์ของผมเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์, ยาเสพติด และเพลงร็อกแอนด์โรล มันคือความตื่นเต้นและความขนลุก ผมอยากหัวใจวาย ผมอยากขึ้นไปอยู่บนรถพยาบาล” – อเล็กซานเดอร์ แม็คควีน
“McQueen” คือภาพยนตร์สารคดีที่พาไปตามติดชีวิตอันน่าอัศจรรย์ เส้นทางอาชีพ และความเป็นศิลปินของยอดดีไซเนอร์นามว่า “อเล็กซานเดอร์ แม็คควีน” ผ่านการให้สัมภาษณ์ของเครือญาติมิตรสหายผู้ใกล้ชิด ภาพเก่าๆ ที่ถูกเก็บไว้ และภาพและเสียงอันน่าตื่นตา “McQueen” คือการเฉลิมฉลองและการจับภาพอันน่าทึ่งของผู้ที่ทั้งมอบแรงบันดาลใจและปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของวงการแฟชั่นอย่างแท้จริง
หนังแบ่งเนื้อหาถ่ายทอดออกมา 5 บทด้วยกัน โดยแต่ละช่วงจะนำเสนอผลงานอันน่าทึ่งของเขาแต่ละชุดซึ่งเขาได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวเองที่สุด ประกอบไปด้วย…
“Jack the Ripper Stalks His Victims” ผลงานในปี 1992 ของเขาสมัยเรียนมหาวิทยาลัย
“Highland Rape” ผลงานในยุคแรกที่อื้อฉาวที่สุดของเขา
“Search for the Golden Fleece” ผลงานชุดแรกที่เขาทำให้กับ Givenchy แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของวงการแฟชั่น
“Voss” ผลงานที่พาทุกคนไปสำรวจความงดงามและความบ้าคลั่งในเวลาเดียวกัน
และบทสุดท้าย “Plato’s Atlantis” ผลงานที่เขาอุทิศให้กับเพื่อนที่แสนดีของเขา “อิซาเบลลา โบลว์” หลังจากที่เธอฆ่าตัวตาย และนี่ยังเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของเขาไปโดยปริยาย เนื่องจากหลังจากนั้นไม่นานเขาได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองตามไป
ถ้าพูดถึงชื่อ “McQueen แม็คควีน” สายแฟชั่นคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก “ลี อเล็กซานเดอร์ แม็คควีน” ดีไซเนอร์คนดังที่มีจุดเริ่มต้นจากลูกชายคนขับแท็กซี่ที่มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน / อายุ 16 เขาลาออกจากโรงเรียนเพื่อไปฝึกงานเป็นช่างตัดสูท / แม็คควีนเคยตัดสูทให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และแอบปักคำหยาบไว้ใต้ซับใน / ปี 1996 เขาคือดีไซเนอร์คนดังแห่งแบรนด์ Givenchy (จีวองชี) / สร้างแบรนด์ตัวเองในปี 1992 และขายหุ้นทิ้งให้ Gucci (กุชชี) ในปี 2000 / ต่อมาในปี 2006 เขาสร้างแบรนด์ใหม่ที่มาพร้อมโชว์ที่สะกดสายตาทุกคนในทุกคอลเลกชัน / และปี 2010 เขาจบชีวิตตัวเองด้วยวัยเพียง 40 ปีในยุคที่รุ่งเรืองที่สุด
และเพื่อสำรวจทุกความดาร์กเบื้องหลังแฟชั่นระดับโลกให้ออกมาอย่างสมจริงที่สุด “เอียน บอนโฮต” ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างโฆษณา มิวสิควิดีโอ และงานเกี่ยวกับแฟชั่นมือรางวัล และยังร่วมกำกับ-เขียนบทโดย “ปีเตอร์ เอตเทดกุย” จะพาผู้ชมร่วมสำรวจผ่านฟุตเทจงานแฟชั่นโชว์ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง พร้อมสัมภาษณ์ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างโชว์สุดตื่นตาทั้ง 7 คน ได้แก่ “เซบาสเตียน พอนส์” (ดีไซเนอร์), “แกรี เจมส์ แม็คควีน” (หลาน), “บ็อบบี้ ฮิลล์สัน” (ครูของแม็คควีน), “แอนดูรว์ โกรฟส์” (แฟนและดีไซเนอร์), “มิรา ไช ไฮด์” (สไตลิสต์), “เดตมาร์ โบลว์” (สามีของอิซาเบลลา โบลว์), “โจดี้ คิด” (พิธีกรรายการทีวีและโมเดลระดับโลก) เพื่อให้เข้าใจถึงไอเดียและตัวตนของแม็คควีนให้มากยิ่งขึ้นในการสร้างสรรค์แต่ละคอลเล็กชันขึ้นมา
นอกจากนั้นยังมีบทสัมภาษณ์บางส่วนในอดีตของ “อิซาเบลลา โบลว์” ผู้ล่วงลับซึ่งเป็นทั้งเพื่อนและผู้ถ่ายทอดวิชาให้กับเขา รวมทั้งดาวเด่นของเรื่องอย่างตัวของ “แม็คควีน” เอง โดยคนทำหนังตั้งใจที่จะตามหาบทสัมภาษณ์ทุกชิ้นที่แม็คควีนเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้บนโลก เช่นเดียวกับการตามหาฟุตเทจผลงานของเขาที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน
“เราต้องการที่จะคุยกับผู้คนที่ทำงานใกล้ชิดกับเขา รวมไปถึงเข้าถึงความคิดในการสร้างสรรค์ของเขา” ผู้กำกับเอียน บอนโฮตเผย
“เรากำลังทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน หลังจากที่ 1 หรือ 2 คนตกลงที่จะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย พวกเขาก็จะส่งข้อความที่บอกว่าพวกเราสามารถไว้ใจได้จริงๆ สำหรับการเล่าเรื่อง แล้วพวกเขาก็ให้เราเข้าไปสำรวจเรื่องราวกับเขา” – ผู้กำกับปีเตอร์ เอตเทดกุยกล่าว
“McQueen แม็คควีน” ว่าด้วยเรื่องราวการไต่เต้าจากดินสู่ดาวของ “อเล็กซานเดอร์ แม็คควีน” สุดยอดดีไซเนอร์ผู้มีแนวทางเป็นของตัวเอง ผลงานของเขาสะท้อนความโหดร้ายท่ามกลางสิ่งสวยงาม ซึ่งภาพยนตร์จะพาไปสำรวจตัวตนของแม็คควีน รวมไปถึงเบื้องหลังความคิดสร้างสรรค์ในการดีไซน์ชุดทั้งหมดออกมา
“ผมอยากจะเข้าไปให้ถึงด้านมืดที่ลึกที่สุดในตัวผม และดึงเอาน้ำตาและความกลัวทิ้งไปให้หมด บนรันเวย์ไม่มีที่เหลือให้ความอ่อนแอ” แม็คควีนกล่าว
“McQueen แม็คควีน” 27 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์