คุยกับ “ทอม-อิสรา นาดี” ผู้กำกับ “ไทยแลนด์โอนลี่ #เมืองไทยอะไรก็ได้” หนังตลกจัดหนักที่จะมาสร้างเสียงหัวเราะลั่นโรง ฮาโขมงสนั่นเมือง

“ทอม-อิสรา นาดี” อีกหนึ่งผู้กำกับมากฝีมือของวงการภาพยนตร์ไทยที่เคยฝากผลงานเรื่องดังมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ลองของ” (2548), “ตีสาม 3D ตอน O.T.” (2555), “ตีสาม คืนสาม 3D ตอนกงเต็ก” (2557), “O.T. ผี Overtime” (2557) ล่าสุด เขากำลังจะมาสร้างเสียงฮาจัดหนักรับลมร้อนกับ “ไทยแลนด์โอนลี่ #เมืองไทยอะไรก็ได้” ภาพยนตร์คอเมดี้เล่นใหญ่สายฮาแห่งปี 27 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

จุดเริ่มต้นของ “ไทยแลนด์โอนลี่ #เมืองไทยอะไรก็ได้”

จำได้ว่าครั้งแรกที่ทางโปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์เรียกมาคุยเกี่ยวกับโปรเจกต์ว่า มีไอเดียหนึ่งอยากให้ทำชื่อว่า “Thailand Only” เป็นเรื่องเกี่ยวกับไกด์ไทยกับทัวร์จีน พอได้ยินแค่นี้ผมก็ขำขึ้นมาก่อนเลย และพอมองเห็นภาพของความสนุกที่มันน่าจะเกิดขึ้นได้ และรู้สึกว่าน่าสนใจ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เชื่อว่าพวกเราต่างคุ้นเคย เคยได้ยิน แต่แปลกตรงที่ว่ายังไม่เคยมีใครคิดหยิบไอเดียนี้ขึ้นมาทำ ผมมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาโปรเจกต์ให้เป็นภาพยนตร์ได้ หนังคอเมดี้ที่เกี่ยวกับทัวร์ พอเราพูดถึงทัวร์ มันก็ต้องมีเรื่องของการเดินทาง ระหว่างการเดินทางมีเรื่องโกลาหลบนรถ เดินทางจะต้องไปเจอกับอะไรบ้าง มีปั้มน้ำมัน มีร้านอาหาร แล้วกลุ่มคนที่เหมือนมาจากดาวอังคารกลุ่มนี้ที่จะต้องลงไปป่วนทุกที่  ป่วนนี่เขาไม่ได้ตั้งใจป่วน ป่วนด้วยความไม่รู้ ส่วนสถานที่ที่คนเหล่านี้ที่ต้องแวะไป ก็ไม่เข้าใจในวัฒนธรรมของคนเหล่านี้ เรื่องโกลาหลก็เลยเกิดขึ้นไปตลอดทาง เริ่มตั้งแต่ที่พวกเขาเหยียบประเทศไทย ตั้งแต่สุวรรณภูมิเลยที่เขาเริ่มสร้างวีรกรรมเท่านั้นยังไม่พอ เสร็จแล้วต้องไปวัดพระแก้ว สนามหลวง สถานที่ซึ่งเป็นใจกลางของประเทศไทย ต่อด้วยพัทยายันไปถึงเมืองกาญจน์ฯ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ผมว่าเรามีวิธีที่จะทำให้หนังมันออกมาสนุกได้ สุดท้ายแล้วหนังเรื่องนี้จะมีแง่มุมอีกมุกที่ทุกคนอาจจะไม่เคยนึกถึง

 

เริ่มต้นการหาข้อมูล

ก่อนเขียนบทแน่นอนว่าเราต้องทำการบ้านอย่างหนัก หาข้อมูลกันมาก่อนว่าทัวร์จีนที่มาเมืองไทยส่วนใหญ่จะนิยมไปไหนกันบ้าง อย่างพวกที่มาครั้งแรก เขาจะไปสามที่หลักๆ ที่เขาต้องไปคือ วัดพระแก้ว, พัทยา, สะพานข้ามแม่น้ำแคว  หรือส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวบ้านเราก็ชอบมาเที่ยววัด หาของอร่อยๆ ทานกันแล้วก็ดูโชว์ทิฟฟานี่ อัลคาซ่า หรืออย่างเวลาที่ทัวร์จีนมากันบรรยากาศเป็นยังไง เขาแต่งตัวกันแบบไหน คุยอะไรดูอะไร ซึ่งมันก็โอเคในระดับหนึ่งครับ แล้วบังเอิญว่าในกลุ่มนักแสดง ทัวร์จีน ของผม “ปู่ชิว” (รุ่งโรจน์ สงวนสัตย์) เขาทำอาชีพไกด์จริงๆ อยู่แล้วด้วย พอเขาได้เห็นภาพบรรยากาศ การแต่งตัว คาแรคเตอร์ของแต่ละคนเขายังบอกผมเลยว่า ทัวร์จีนของจริง ซึ่งตรงนี้แสดงว่าข้อมูลที่เราหามามันใช้ได้จริงๆ

 

เรื่องราวของภาพยนตร์ “ไทยแลนด์โอนลี่ #เมืองไทยอะไรก็ได้”

เป็นเรื่องของ “แจ๊ค” (แจ๊ส ชวนชื่น), “ไข่ย่น” (แน็ก ชาลี) และ “ซิ่งหลง” (ค่อม ชวนชื่น) คนสามคนเป็นเพื่อนกัน เป็นไกด์เถื่อนอยู่ตรอกข้าวสาร วันหนึ่งพวกเขาไม่อยากทำงานเป็นไกด์เถื่อน อยากทำงานแบบจริงๆ จังๆ เค้าจึงรวมตัวกันประกอบร่างสร้างบริษัททัวร์จำเป็น และปฏิญาณตนว่าจะทำทัวร์นี้ให้ดีจนโลกต้องจารึก โดยความตั้งใจของเขาคือก็อยากทำทัวร์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย อยากให้ลูกทัวร์มีความสุข ใครจะรู้ว่าทางเดินของเขาจะซ่อนขวากหนามไว้มากมาย เมื่อกรุ๊ปทัวร์จีนทั้ง 7 คนล้วนคัดมาแล้วว่าโคตรไม่ธรรมดา! แจ๊คเลยต้องขอให้ “พี่เวย์น” (โหน่ง ชะชะช่า) ไอดอลในดวงใจช่วย และก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เค้าได้ “ติช่า” (รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น) มาร่วมในทัวร์กรุ๊ปนี้ด้วย เพียงแต่…ยิ่งช่วยยิ่งยุ่งเหยิงไปกันใหญ่ทุกเรื่อง! ความโกลาหลอลหม่านของไกด์และลูกทัวร์จึงเริ่มขึ้น

 

ไม่ใช่จะมีแต่ความวุ่นวาย ความสนุกและความน่ารักที่คาดไม่ถึงก็มี

ความสนุกของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่มันมีเส้นเรื่องที่มันเป็นความโกลาหลของเหล่าทัวร์ และความกะล่อนไม่ธรรมดาของไอ้พวกชาวไกด์ เพราะฉะนั้นตอนคิดบทเราต้องคิดก่อนเลยว่าเราจะพาไอ้ลูกทัวร์ไปไหน ความต้องการของลูกทัวร์คือมีอะไรบ้าง เสร็จปุ๊บทีมบทก็ต้องไปคิดแทนชาวแก๊งหรือไอ้ไกด์ว่าเราจะแก้สถานการณ์ได้อย่างไร จะด้นสดจะแถไปทางไหน จะตอแหลจะเนียน หรือจะยังไง เสร็จปุ๊บพอแก้แล้ว เราก็ต้องกลับไปคิดแทนในฝั่งของลูกทัวร์อีกว่า พอเขาแก้แล้วไอ้ลูกทัวร์นี้จะเชื่อหรือไม่เชื่อ หรือจะยอมรับ หรือจะอย่างไรต่อไป หรือจะโวยกลับ คราวนี้ความสนุกมันอยู่ที่ตรงนี้ที่ต่างฝ่ายต่างต้องประชันกัน ทางฝากทัวร์จีนก็ต้องมีคนที่คอยแบบจับผิด คอยจี้เลย คอยจี้จับผิดเลยสงสัยตั้งแต่ต้นเรื่อง ซึ่งในมุมของผม สิ่งเหล่านี้มันเป็นเพราะความต่างของวัฒนธรรม เราอาจมองว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่โอเค ซึ่งไม่น่าใช่นะ ต่างคนต่างก็มีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ซึ่งเราต่างก็ต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน มันไม่ใช่เรื่องถูกหรือว่าผิด แต่ที่ผ่านมาเราเข้าใจวัฒนธรรมของคนชาติอื่นมากน้อยขนาดไหนต่างหาก นี่แหละครับคือความสนุกของเรื่องนี้

 

ทำไม ไกด์จอมกะล่อนต้องเป็น “แจ๊ส ชวนชื่น”

พอเริ่มหาตัวพระเอกคือ “แจ๊ค” เราก็นึกถึง “แจ๊ส ชวนชื่น” เขามีคาแรคเตอร์ค่อนข้างตรงกับตัวเอกในรื่อง มีความพลิ้ว มีความกะล่อน ตัวจริงเขาอาจไม่กะล่อนนะครับ แต่ด้วยหน้าตาและคาแรคเตอร์มันคือใช่เลย เขามีคาแรคเตอร์ของคนรุ่นใหม่ที่พยายามเดินไปสู่ฝัน ซึ่งมันค่อนข้างตรงกับตัวะครในเรื่อง ก็เลยมีการนัดพูดคุยกัน

 

เมื่อเหล่านักแสดงตลกขั้นเทพรวมตัวกันมันจะสนุกขนาดไหน

ความสนุกของหนังเราคือ การได้เห็นการรวมตัวของนักแสดงตลกชั้นนำของเมืองไทยอย่าง “คุณแจ๊ส ชวนชื่น, น้าค่อม ชวนชื่น, คุณโหน่ง ชะชะช่า, คุณรัศมีแข” แล้วก็ยังมีคนหน้าตาดีที่สุดในหนัง “คุณแน็ก ชาลี” นะครับ นี่เป็นครั้งแรกในการทำงานของผมเหมือนกันที่ไม่ค่อยมีคนปกติเล่น มีแต่คนประหลาดๆ ทั้งนั้นเลยมาอยู่ในหนัง เวลาที่พวกเขาอยู่รวมกันมันเหมือนผมนั่งดูหนังเรื่อง “เอ็กซ์แมน” มันเป็นความประหลาดอยู่รวมกัน ต้องทันพวกเขา มันจะมีอะไรมหัศจรรย์ให้ผมได้อึ้งตลอดเวลา กล้องนี่อาจจะต้องรันตลอด เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรออกมาที่เหนือความคาดหมายให้เราได้อึ้งและฮาอยู่เสมอ ยิ่งเวลาที่พวกเขาอยู่หน้าเซ็ตแล้วเตรียมจะถ่าย บางทีผมต้องแอบกระซิบให้ตากล้องรันกล้องไปก่อน หรือบางทีผมบอกคัตแล้วต้องบอกพี่ตากล้องว่าหลังจากคัตอย่าเพิ่งปิดกล้องนะ รันกล้องต่อไป แล้วเชื่อมั้ยครับสิ่งเหล่านี้ผมได้เอามาใช้ทุกทีเลยในหนัง หลังจากที่นำเอาฟุตเทจที่ถ่ายไปแล้วมาเรียงดูทั้งหมดถูกนำเอามาใช้ได้เยอะมาก เพราะว่ามันค่อนข้างสดแล้วดูจริง

 

พูดถึงการเปลี่ยนลุกส์แปลงโฉมแบบจัดเต็ม

คาแรคเตอร์ของ “แจ๊ค” เราย้อนกลับไปเริ่มจากไอเดียแรกที่เราอยากได้ ด้วยความเป็น “แจ๊ส ชวนชื่น” เขาเป็นคนที่มีรอยสักในตัวเยอะมากเลย เราก็เอามาใช้ให้เป็นประโยชน์เอามาเป็นเสื้อผ้าซะเลย ซึ่งถามว่ามันตรงกับคาแรคเตอร์มั้ย ใช่เลยนะ เพราะตัวละครตัวนี้ถ้ามองแบบภาษาวัยรุ่นก็จะแว้นๆ หน่อย ใช่เลย

ตัวละครอย่าง “ซิ่งหลง” ที่แสดงโดย “น้าค่อม ชวนชื่น” เราอาจเคยเห็นเขาแสดงเป็นคนขับรถมาเยอะ ผมก็เลยส่งการบ้านต่อไปให้กับสไตลิสต์คิดต่อ ปรากฏว่าออกแบบมาจนผมต้องดึงสไตลิสต์ผมเอาไว้  เพราะเกรงว่าจะหลุดมากไปกว่านี้ มีการดีไซน์หนวด ให้หนวดเป็นเครื่องหมาย ? ซึ่งจริงๆ ผมชอบมากเลยนะ ซึ่งถ้าซิ่งหลงมีหนวดเป็นเครื่องหมายนั้น ซิ่งหลงคงต้องเป็นคนมีคำถามเยอะมากแน่นอน

พอมาถึง “ไข่ย่น” เราได้ “แน็ก ชาลี” มา ผมเลยต้องบอกกับสไตลิสต์และโปรดักชั่นดีไซน์ว่าผมขอให้คนๆ นี้เป็นมนุษย์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ อุตส่าห์ได้น้องแน็กมาแล้ว คนปกติที่สุดแต่ก็ยังมีคาแรคเตอร์ พอสามคนอยู่เรียงกัน มันก็จะเห็นเลยว่าคาแรคเตอร์ต่างกันเลย

แล้วยังมี “คุณโหน่ง ชะชะช่า” เป็นคนที่เมื่อปรากฏอยู่ในฉากทีไรจะต้องมีผลต่อเรื่องทุกครั้ง พี่โหน่งในภาพยนตร์มีชื่อว่า “พี่เวย์น”  เป็นพี่น้องร่วมสาบานของแจ๊ค ในคาแรคเตอร์ชอบปลอมตัว ในเรื่องเดี๋ยวหัวทองมั่ง เดี๋ยวเป็นตัวคาแรคเตอร์แบบโน้นบ้าง คาแรคเตอร์ของคนที่ยินดีกับการทำความชั่ว ชื่นชอบในการทำความชั่ว เพราะเขามีอุดมคติอยู่ในหัวใจว่า ทำดีมันทำยาก เป็นคนชอบทำอะไรง่ายๆ ก็เลยมีความสุขในการทำชั่ว เป็นคนชอบเดินมาในทางนี้ ซึ่งต่างจากแจ๊คที่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะเป็นคนดี อยากเป็นคนปกติ อยากเป็นไกด์ที่ถูกกฎหมาย

ในเรื่องก็จะมีล่ามภาษาจีนซึ่งคือ “รัศมีแข” รับบทเป็น “ติช่า” ผมอยากจะแนะนำคนดูว่าให้ดูชุดของคุณติช่า ออกมาทุกชุดนี่สุดๆ ขนาดผมเห็นตอนที่สไตลิสต์กับโปรดักชั่นดีไซน์มาเสนอ ยังคิดเลยว่านี่โอ้โห…จะเอาชุดนี้จริงๆ เหรอ  แต่พอมาเห็นใส่อยู่ในตัวของคุณรัศมีแข มันจัดจ้านดี เป็นสีสันของเรื่องก็ว่าได้เลยครับ และยังมีทัวร์จีนอีก 7 คน ซึ่งคาแรคเตอร์ของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไปเลยซึ่งทั้งหมดทั้งมวลของตัวละครลูกทัวร์จีนก็จะต้องมาปะทะกันกับแก๊งไกด์ไทย

 

พูดถึงนักแสดงที่มาร่วมเสริมทัพความฮา

เรื่องนี้เป็นการเปิดซิงขึ้นจอใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของเน็ตไอดอลนมคุณธรรมอย่าง “มันแกว-รุ่งตะวัน ชัยหา” เลยและนอกจากนี้ยังมี “โรเบิร์ต สายควัน” จาก บริษัทฮาไม่จำกัด ตลกผู้โด่งดังในโลกโซเชียล รวมถึงนักแสดงอีกมากมาย อาทิ “โจอี้ กาน่า, เจ๊ไข่มุก , อ้วน รีเทิร์น” ฯลฯ ที่มาร่วมทริปความสนุกนี้

ในกลุ่มตัวละครลูกทัวร์ที่เป็นชาวจีน ก็จะมี “เพ่ยเพ่ย” คาแรคเตอร์เป็นตัวแทนของสาวที่ชอบ และเอ็นจอยในการกินมาก คือตั้งใจมาเมืองไทยเพื่อมาทัวร์กินโดยเฉพาะ, “ปู่ชิว” ผู้ใหญ่รุ่นอากง เป็นเกษตรกรชาวจีนที่ไปไหนก็จะต้องพกซอและป้ายติดตัวตลอดเวลา  มี “อาม่า” กับ “อาปี้” ยายหลานที่ตั้งใจอยากมาเที่ยวเมืองไทย มีตัวละครเด็กสาววัยรุ่นชื่อ “ซิ่วซิ่ว” คนนี้ดูปกติสุด สาวสวย เน็ตไอดอลของจีน มีไม้เซลฟี่อยู่ติดมือและติดโซเชียลตลอดเวลา มี “อาหวัง” นักธุรกิจหนุ่มที่ชีวิตนี้ทำแต่งาน ซึ่งเราจะได้เห็นนักแสดงตลกชั้นนำของประเทศมาเจอกับนักแสดงกลุ่มนี้ที่ล้วนแล้วแต่เป็นโปรเฟสชันแนลกันทุกคน แม้ไม่เคยผ่านงานแสดงมาก่อน เขาสามารถรับมือกับตลกระดับเทพนี้ได้อย่างไม่ลดราวาศอกกันเลยทีเดียว สามารถต่อกรได้พวกเขามีความตั้งใจสูงกับภาพยนตร์เรื่องนี้นะครับ

 

สุดท้ายฝากภาพยนตร์

ภาพยนตร์ “ไทยแลนด์โอนลี่ #เมืองไทยอะไรก็ได้” เป็นภาพยนตร์คอเมดี้ ฮาฉบับเต็ม พร้อมมีแง่มุมดีๆ ที่อยากให้ทุกคนได้มาชมกัน รับรองสนุกฮาแน่นอน 27 เมษายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ครับ

 

 

 

 

รูปภาพ

ไทยแลนด์โอนลี่ #เมืองไทยอะไรก็ได้ (Thailand Only)

ไทยแลนด์โอนลี่ #เมืองไทยอะไรก็ได้ (Thailand Only)

หลังจากที่สวรรค์เล่นตลกให้ “แจ๊ค” (แจ๊ส ชวนชื่น) เกือบหมดไฟกับอาชีพที่ฝันมาตลอดชีวิต “เฮียลิ้ม” ขาใหญ่ธุรกิจทัวร์จีนก็ได้หยิบยื่นทางเดินโรยกลีบกุหลาบให้แจ๊คได้เป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงอิสระ (aka ไกด์เถื่อน) อีกครั้ง งานนี้เขาจึงรวมตัวมือซ้ายมือขวาอย่าง...

รายละเอียดภาพยนตร์