หากจะพูดถึงภาพยนตร์แฟรนไชส์สายระทึกขวัญ-สยองขวัญอันโด่งดัง ติดตาคนดูอันดับต้นๆ คงจะหนีไม่พ้นภาพยนตร์เรื่อง “Saw“ หนึ่งในความทรงจำสุดโหดของใครหลายคน ซึ่งก่อกำเนิดมาตั้งแต่ปี 2004 และยาวนานถึง 7 ภาคด้วยกัน ทำรายได้รวมทั่วโลกกว่า 874 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยนอกจากจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีแล้ว “Saw” ยังถูกยกให้เป็นการสร้างคำจำกัดความใหม่ให้ภาพยนตร์สยองขวัญ เนื่องจากเป็นส่วนผสมระหว่างความน่ากลัว ปริศนาเกินคาดเดา และความโหดเลือดสาดเหนือคำบรรยาย
จุดเริ่มต้นของ “Saw” ถ่ายทอดเรื่องราวของ “จอห์น เครเมอร์” หรือที่รู้จักกันในตำนานแห่งชื่อ “จิ๊กซอว์” สถาปนิกผู้ใช้ชีวิตอย่างมีการวางแผนทุกขั้นตอน จนกระทั่งวันที่โจรบุกเข้ามาปล้นสถานพยาบาลของ “จิลล์ ทรัก” ภรรยาของเขา ทำให้เธอนั้นบาดเจ็บและแท้งลูก นั่นคือความสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต และเหมือนโชคชะตายังไม่เข้าข้างเมื่อเขานั้นทราบข่าวร้ายจากคุณหมอ “กอนดอว์ ลอว์แลนซ์” ว่าเขากำลังเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แน่นอนว่าเขามีชีวิตอยู่บนโลกได้อีกไม่นาน อารมณ์ชั่ววูบทำให้เขานั้นตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการขับรถพุ่งตกลงสะพาน ถึงแม้จะไม่สำเร็จ แต่ชีวิตใหม่ของเขาที่ได้มานั้นมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
“จอห์น เครเมอร์” หรือ “จิ๊กซอว์” จึงกลายมาเป็น “ผู้มอบโอกาส” หลังจากที่เขา “ได้รับโอกาส“ ให้รอดชีวิตมา เขาสร้างเกมต่างๆ ขึ้นเพื่อให้ผู้คนในสังคมได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของชีวิต ความหมายของการมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะกับคนที่ไม่เห็นค่าของชีวิต ดังประโยคเด็ดที่ดังสนั่นโลกว่า “ผู้ที่ไม่เห็นคุณของชีวิต ก็ไม่ควรได้มีชีวิต”
ส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้ภาพยนตร์ “Saw” นั้นดังกระหึ่มโลก และเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางนั่นคือ “กับดักมรณะ” เบื้องหลังจากครีเอตของ “เจมส์ วาน” และ “ลี วานเนลล์” สองทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังที่ให้กำเนิดตัวละครที่มีเอกลักษณ์ขึ้นมา เพราะต้องการให้ “จิ๊กซอว์” เป็นวายร้ายที่ใช้สมองนำ ไม่ใช่แค่ตามฆ่าคน แต่ต้องใช้วิธีที่เหนือชั้นผ่านกับดักมรณะสุดโหดเลือดสาด ทำให้คนดูเสียววาบ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะได้ทุกครั้ง แถมยังลุ้นเพราะนาฬิกาจับเวลาที่ถอยลงอย่างไม่ลดละพร้อมเดิมพันด้วยชีวิต แต่ละกับดักนั้นล้วนแล้วแต่คุณคาดไม่ถึง “จะอยู่หรือตาย คุณเลือกเอง” จึงนับว่าเป็นประโยคที่ใครเคยชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ยินเป็นต้องใจสั่นหวาดเสียวขึ้นมาทุกครั้ง
หลังจาก “Saw” ได้หายไปจอเงินไปนานกว่า 7 ปี แต่ทว่าตำนาน “จิ๊กซอว์” นั้นยังไม่หายไปไหน เพราะล่าสุดในปีนี้ตำนานแห่งเกมสยองกำลังจะกลับมาครั้งใหม่ในชื่อ “Jigsaw“ โดยถือเป็นการเริ่มเกมใหม่ ผ่านการอำนวยการสร้างโดยคู่หูผู้อยู่เบื้องหลัง “Saw” มาทุกภาคอย่าง “เจมส์ วาน, โอเรน คูเลส และ มาร์ก เบิร์ก” อีกทั้งยังได้ “จอช สโตลเบิร์ก และ พีต โกลด์ฟิงเกอร์” สองผู้เขียนบทที่จะทำให้ทุกคนตื่นตะลึงไปกับพล็อตที่เฉียบคมยิ่งขึ้นและกับดักมรณะที่โหดเหี้ยมมากกว่าเดิม
ด้านกับดักสยองไฮไลต์สำคัญใน “Jigsaw“ คือ “กับดักก้นหอย” หรือที่มีชื่อว่า “The Spiralizer“ กงจักรใบมีดขนาดยักษ์ ตรงกลางกลวงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องครัวเฉือนผักให้เป็นเส้นเกลียวบางๆ ใบมีดถูกเคลือบด้วยสีแดง ล้อกับลายก้นหอยบนแก้มของตุ๊กตาตัวแทนจิ๊กซอว์ เรียกได้ว่าสยองทะลุจอกันเลยทีเดียว แต่ทีเด็ดของการเปิดเกมโหดยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ยังมีความโหดที่จะทำให้ผู้ชมขนพองสยองเกล้า และปริศนาชวนฉงนกับคำถามที่ว่า ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุฆาตกรรมสุดสยองที่เกิดขึ้นครั้งใหม่ในรูปแบบของ “จิ๊กซอว์” ถ้า “จอห์น เครเมอร์” ตัวจริงได้ตายไปกว่าสิบปีแล้ว?
ความวิปลาสของจิ๊กซอว์ฆาตกรโรคจิตอัจฉริยะกำลังจะถูกอัปดีกรีความเหี้ยมขึ้นไปขั้น
“Jigsaw เกมต่อตัดตาย” 30 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
