
หลังจากที่สวรรค์เล่นตลกให้ “แจ๊ค” (แจ๊ส ชวนชื่น) เกือบหมดไฟกับอาชีพที่ฝันมาตลอดชีวิต “เฮียลิ้ม” ขาใหญ่ธุรกิจทัวร์จีนก็ได้หยิบยื่นทางเดินโรยกลีบกุหลาบให้แจ๊คได้เป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงอิสระ (aka ไกด์เถื่อน) อีกครั้ง งานนี้เขาจึงรวมตัวมือซ้ายมือขวาอย่าง “ไข่ย่น” (แน็ก ชาลี) เพื่อนซี้ผู้นิ่งเฉยต่อทุกสิ่งยกเว้นผู้หญิงเอ็กซ์ๆ และ “ซิ่งหลง” (ค่อม ชวนชื่น) พลขับเพื่อนรุ่นพ่อมาประกอบร่างสร้างบริษัททัวร์จำเป็น และปฏิญาณตนว่าจะทำทัวร์นี้ให้ดีจนโลกต้องจารึก
ใครจะรู้ว่าทางเดินของไอ้เฮียลิ้มที่ “เฮีย” จริงสมคำนำหน้า ซ่อนขวากหนามไว้เป็นตันๆ เมื่อกรุ๊ปทัวร์จีนทั้ง 7 คนล้วนคัดมาแล้วว่าโคตรไม่ธรรมดา! ร้อนถึง “พี่เวย์น” (โหน่ง ชะชะช่า) ไอดอลในดวงใจต้องช่วยเป็นแบ็กอัปจำเป็น และ “ติช่า” (รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น) ล่ามสาวมาคอยช่วยเสริมทัพ
เพียงแต่…ยิ่งช่วยกลับยิ่งยุ่งเหยิง ทัวร์ครั้งนี้จึง “ไม่-เหมือน-ใคร” และโกโซบิ๊ก “ไป-กัน-ใหญ่” ซะทุกเรื่อง!
เตรียมพบไกด์ทัวร์แสบกับลูกทัวร์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกแบบ “ไทยแลนด์โอนลี่” เที่ยวแบบที่ไม่เคยเที่ยว กินแบบที่ไม่เคยกิน นอนในที่ที่ไม่มีใครเคยนอน จนลูกทัวร์ต้องร้อง “โอ้ววววว-มายยยยย-ก๊อดดดดด!!!”
ฮาหนัก จัดใหญ่รับลมร้อนพร้อมกัน #ไทยแลนด์โอนลี่ #เมืองไทยอะไรก็ได้
27 เมษายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
เกร็ดหนัง “ไทยแลนด์โอนลี่ #เมืองไทยอะไรก็ได้”
Director’s Note “ทอม-อิสรา นาดี”
สำหรับตัวผมเองตั้งแต่ทำภาพยนตร์เรื่องแรก กล้าพูดเลยครับว่า มันเริ่มต้นจากความเชื่อ ความเชื่อของผมก็คือ ภาพยนตร์ที่ดีซักเรื่องหนึ่ง มันจะต้องเริ่มต้นจากการที่มีบทภาพยนตร์ที่ดี ถ้าให้ผมเปรียบว่าตัวภาพยนตร์มันคือร่างกายของมนุษย์ บทภาพยนตร์มันก็น่าจะเทียบได้กับโครงกระดูก
ลองนึกดูกันเล่นๆ ก็ได้ หากคุณมีกระดูกที่ไม่แข็งแรงแล้ว ร่างกายของคุณมันจะแข็งแรง มันจะยืดหยัดอยู่ได้อย่างไร จริงมะ ผมกับทีมงานถึงได้ซีเรียสกับการทำบทมาก โดยเฉพาะกับงานชิ้นแรกอย่าง “ลองของ” ผมและเพื่อนทำบทกันอยู่นานมากเพราะต้องละเอียดและพิถีพิถันเพื่อความสมบูรณ์ของงาน เมื่อผมบอกกับใครต่อใครว่า “ไทยแลนด์โอนลี่ #เมืองไทยอะไรก็ได้” คือภาพยนตร์ในแนวคอเมดี้เต็มตัวเรื่องแรกในชีวิตการทำหนังของผม หลายคนตกใจคิดว่า “ทอม อิสรา” จะสร้างเสียงหัวเราะได้หรือ
แต่หากว่าลองนึกดูกันดีๆ ผลงานที่ผ่านมา แม้ว่าภาพหลักมันจะดูเป็นภาพยนตร์ในแนวสยองขวัญ แต่…มันก็จะมีมุมคอเมดี้เล็กๆ ที่คอยเรียกเสียงหัวเราะจากพวกคุณซ้อนอยู่เสมอ
เมื่อได้พูดคุยกับทาง “บริษัท พระนครฟิลม์” และทราบว่าเขามีไอเดียภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับความสนุกสนานกับเรื่องราวของทัวร์จีน-ไกด์ไทย อยากให้ผมทำ แค่ได้ฟังโครงเรื่องคร่าวๆ บอกตามตรงครับว่า ผมยังขำเลย นึกภาพตามออกเลยครับว่ามันจะเป็นแบบไหน
ปัญหาที่ตามมาหลังจากที่รับปากว่าจะทำงานก็คือ ผมจะทำอย่างไรเพื่อเฉลี่ยบทให้กับตัวละครได้ครบทุกคน เพราะเมื่อเป็นเรื่องของคณะทัวร์ นักแสดงอย่างน้อยก็ต้องไม่ต่ำกว่า 5-10 คน ทีมไกด์อีก ความปวดหัวคือเราจะเล่าเรื่องกันแบบไหนให้คนดูเข้าใจในทุกตัวละครภายในเวลาไม่เกินชั่วโมงครึ่ง
ภาพยนตร์คอเมดี้มันจะมีหลายรูปแบบ แบบของตัวผมหนังมันอาจจะมีเส้นเรื่องที่ค่อนข้างมีเหตุมีผลต่อกัน ผมต้องการให้ผู้ชมลองให้โอกาสกับงานในแนวสนุกสนานอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกของผม ถ้าหากว่าใครได้เคยดู “โอที” หรือเคยดู “กงเต็ก” แล้วชอบ รู้สึกมั้ยครับว่า งานสองเรื่องนั้นมันมีแววขำอยู่
พอมาคราวนี้ พวกคุณได้ขำกันเต็มๆ แล้วครับ มันเหมือนได้ปลดปล่อย รู้สึกมีความสุขในการได้ทำเรื่องอะไรที่ตัวเองรู้สึกได้เป็นตัวเอง รู้สึกสนุก
แม้ว่าการลงมือทำงานจริงกับความฝันที่เราตั้งใจและวาดภาพต่างๆ เอาไว้เยอะแยะมากมาย มันอาจจะไม่ครบสมบูรณ์แบบตามอย่างที่คิด แต่ผมก็พยายามอย่างเต็มที่แล้วที่จะทำความจริงให้ได้ใกล้เคียงกับความฝันของผม…มากที่สุด