คุณว่ามนุษย์เราจะมีวิธีรวยทางลัด หาเงินได้หลายร้อยล้านได้ในเวลาอันรวดเร็วได้อย่างไร? โดยที่ไม่ต้องโกงใคร

 

ครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์โลกได้รู้จักกับกลุ่มเศรษฐีหน้าใหม่ไฟแรงจากธุรกิจรูปแบบใหม่ที่ยั่วน้ำลายนักลงทุนอย่าง “Billionaire Boys Club” (BBC) ซึ่งเกิดขึ้นช่วงฤดูร้อน ในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาปี 1984 และบริษัทที่ว่านี้คือคลับของคนมีเงิน รสนิยม และอนาคตที่สดใสพร้อมพรั่งทั้งเงินถุงเงินถัง รวมไปถึงเงื่อนงำลับที่มีเดิมพันเป็นเงินกว่าร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซ่อนอยู่เบื้องหลังที่สวยงามของพวกเขาและเหตุการณ์ดังกล่าวนี้กำลังจะกลายเป็นภาพยนตร์ดราม่า -ทริลเลอร์สุดเข้มข้นเรื่องใหม่ที่คอหนังไม่ควรพลาดชม!

 

“Billionaire Boys Club” คือเรื่องราวอันเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นจริงของชายหนุ่มที่ชื่อว่า “โจ ฮันต์” (รับบทโดย แอนเซล เอลกอร์ต) หนุ่มนักลงทุนไฟแรงและฉลาดปราดเปรื่อง ผู้สร้างเรื่องอื้อฉาวจาก การทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่ในชื่อ Billionaire Boys Club เขาคืออดีตเด็กชนชั้นกลางที่เคยได้รับ ทุนให้เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้ซึ่งผันตัวมาเป็นนักลงทุนผู้เชี่ยวชาญเรื่องตัวเลขในเวลาต่อมา หลังเรียนจบ โดยตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่ในฮาร์วาร์ด ฮันต์เฝ้ามองดูชีวิตของเด็กๆ บ้านรวยเสมอมาและนำชีวิตของผู้คนเหล่านั้นมาผลักดันให้เขาหาวิธีที่จะ “รวยทางลัด“

 

โจ ฮันต์ใช้เสน่ห์ในวิธีเจรจาและความน่าเชื่อถือของเขารวมไปถึงการจับมือกับเพื่อนซี้ที่เป็น นักเทนนิสมืออาชีพอย่าง “ดีน คาร์นีย์” (ทารอน อีเกอร์ตัน) หาผู้ร่วมลงขันและ หาผู้ร่วมทุนในการเริ่มต้นของ Billionaire Boys Club โดยคาร์นีย์เองก็ใช้มิตรภาพที่ดีและคอนเน็คชั่นที่เขามี เพื่อเชื้อเชิญให้กลุ่มหนุ่มๆ ที่เป็นลูกหลานของนักธุรกิจเบอร์ใหญ่ๆ ของลอสแอนเจลิสเข้ามาระดม ทุนสร้างคลับแห่งนี้จนได้มาถึง 30 คน

 

 

ชั้นเชิงการทำธุรกิจของกลุ่ม BBC คือประเด็นที่น่าสนใจที่สุดและเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ พวกเขาต้องฟาดฟันห้ำหั่นกันอย่างถึงพริกถึงขิง ซึ่งธุรกิจที่ว่านั้นฉาบด้วยเบื้องหน้าที่สวยหรูด้วยคำว่า “ธุรกิจลงทุน” ในวลีขายฝันของฮันต์ที่ว่า Billionaire Boys Club คือ “องค์กรที่จะควบรวมเรื่องธุรกิจและความสุข ดำเนินงานโดยหนุ่มรุ่นใหม่ที่จะร่วมกันแชร์ไอเดีย ผลประโยชน์ และการใช้ชีวิตร่วมกัน” เพื่อกลบซ่อนคำว่า “แชร์ลูกโซ่“ ไว้ เพราะในความเป็นจริง แล้วตัวเงินที่คุณลงทุนไปนั้นก็เพื่อเป็นการแชร์เงินต่อไปยังผู้ลงทุนก่อนหน้า รอคอยวันที่เงินจะหมุนมาถึงคุณ…ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ โดยโจ ฮันต์ได้ให้ความมั่นใจกับผู้ร่วมลงทุนคนอื่นๆ ถึงการดำ เนินงานของ Billionaire Boys Club ว่าพวกเขาจะสร้างบริษัทให้เป็นผู้นำเรื่องการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือนำเข้ารถสปอร์ตสุดหรู โดยที่สมาชิกทุกคนจะกินดีอยู่ดี แต่จะไม่ได้รับเงินเดือนเป็นค่าตอบแทน แต่เขาเลือกใช้วิธีการ “ปันผลร่วม“ แทน

 

แน่นอนว่าวิธีการโกงเงินผู้ร่วมลงทุนทำให้ชีวิตของฮันต์และคาร์นีย์ผู้ร่วมก่อตั้ง Billionaire Boys Club พลิกผันไปในพริบตาจากเงินลงทุนเหล่านั้น พวกเขากลายเป็นสองหนุ่มที่ถูกจับตามองทั้งในเรื่องของธุรกิจ รสนิยม และไลฟ์สไตล์ ทั้งยังชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเมือง แต่ทุกอย่างที่ได้มามันไม่จีรังยั่งยืนเท่าไรนัก

 

ทุกอย่างดูเหมือนจะเข้าที่เข้าทางไปเสียหมดให้พวกเขาได้แอบฉ้อโกงคนอื่นๆ ไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง ความอื้อฉาวเรื่องการโกงของพวกเขาถึงทางตัน เม็ดเงินเริ่มร่อยหรอ และเริ่มมีปัญหากับผู้ร่วมลงทุนคนอื่นๆ การมาถึงของ “รอน เลวิน” (เควิน สเปซีย์) นักลงทุนรายใหม่จึงเป็นจุดพลิกผันของโลกการลงทุนใน BBC รอนเข้ามามีบทบาทสำคัญในกลุ่มในเวลาอันรวดเร็ว จากการสร้างความไว้ใจให้พวกเขาในเรื่องของเงินลงทุนในจำนวนมหาศาล ก่อนจะสร้างความปั่นป่วนให้กลุ่ม ทั้งการหลอกให้ลงทุนในตัวเลขที่ไม่มีอยู่จริงการไม่จ่ายส่วนแบ่ง ให้ตามตกลง หรือแม้แต่การหลอกล่อให้นักลงทุนลงขันกันเพื่อจัดทำ “สารคดีชีวิตของโจ ฮันต์” และเชิดเงินหนีไปดื้อๆ จนทำให้แผนการดำเนินงานของ Billionaire Boys Club ย่อยยับไปต่อหน้าต่อตา

 

เมื่อคนโกงถูกโกงต่ออีกทอดหนึ่งและความโลภที่ไม่เข้าใครออกใคร พวกเขาจึงต้องจัดการ กับสถานการณ์นี้ด้วยทุกวิธีทางที่มีเพื่อให้ได้ “เงิน“ ของพวกเขาคืนมา แม้ว่ามือจะต้องแปดเปื้อนเลือดก็ตาม และเมื่อหุ้นส่วนทุกคนตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เรื่องราวทั้งหมดจึงเลยเถิดไปจนถึงคดีฆาตกรรมสุดอื้อฉาว ที่คนทั้งโลกต่างสงสัยว่า แท้จริงแล้ว “เงินของพวกเขาอยู่ที่ไหน และใครคือฆาตกร?”

 

 

นอกจากความดราม่าระทึกขวัญของเรื่องราวที่น่าสนใจแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้ทีมนักแสดง หนุ่มๆ มากมายที่มาวาดลีลาฝีมือทางการแสดงอย่างเฉียบขาด แถมพวกเขายังดูดีและน่ามองทั้งทีมจริงๆ ตั้งแต่สองนักแสดงหนุ่มเลือดใหม่มาแรงทั้ง “แอนเซล เอลกอร์ต” (Ansel Elgort) หนุ่มบ้าดีเดือดจาก Baby Driver และ The Fault in Our Stars ที่จะมาพลิกบทบาททางการแสดงอีกครั้งในมาดผูกไทด์สุดเนี้ยบ ส่วนอีกหนึ่งหนุ่มคือ “ทารอน อีเกอร์ตัน” (Taron Egerton) อดีตสายลับวัยละอ่อนจากภาพยนตร์ชุด Kingsman ที่ครั้งนี้เขาจะพลิกเกมการแสดงเพื่อแสดงศักยภาพของเขาอย่างแท้จริง

 

“Billionaire Boys Club” ยังเสริมทัพอย่างแข็งแรงด้วยนักแสดงมากฝีมือเจ้าของสอง รางวัลออสการ์อย่าง “เควิน สเปซีย์” (Kevin Spacey) ซึ่งมาในบท “รอน เลวิน“ ตัวละครสำคัญผู้พลิกผันชะตาของกลุ่ม BBC ไปตลอดกาล รวมถึงอีกหนึ่งสาวสวยอย่าง “เอมมา โรเบิร์ตส” (Emma Roberts) จากภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่อง Nerve หนึ่งสาวสุดเซ็กซี่ท่ามกลางหมู่หนุ่มๆ ที่จะมาร่วมการโกงสุดอื้อฉาวนี้ด้วย

 

นอกจากนี้ยังมีนักแสดงหนุ่มสุดฮอตอีกมากมายทั้ง “เจอเรมี เออร์ไวน์” (Jeremy Irvine), “ไรอัน ร็อตต์แมน” (Ryan Rottman) และ “โธมัส ค็อคเคอเรล” (Thomas Cocquerel) มาร่วมทีมให้ภาพยนตร์เข้มข้นยิ่งขึ้น

 

พวกเขาโกงกันอย่างไร ทำไปเพื่ออะไร และทำไมเหตุการณ์นี้ถึงถูกจารึกไว้ในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ ร่วมสัมผัสบันทึกการแฉกลโกงจากเรื่องราวจริงของเหล่าหนุ่มๆ “Billionaire Boys Club รวมพลรวยอัจฉริยะ” ในรูปแบบภาพยนตร์ดราม่า-ทริลเลอร์ที่คุณไม่ควรพลาดชม 19 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

อ้างอิง:

• lmu.edu/cgi/viewcontent.cgi?article=1193&context=elr
• com/2018/04/the-billionaire-boys-club-money-murder-a-missing-corpse-in-the-american-psycho-80s/