ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์มากฝีมือ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” ปลุกปั้นสองผู้กำกับใหม่ไฟแรงอย่าง “ป้อ-ณภัทร จิตวีรภัทร” และ “เบน-อัศวนัยน์ กลิ่นเอี่ยม” นั่งแท่นผู้กำกับภาพยนตร์ครั้งแรกใน “15+ ไอคิวกระฉูด” ภาพยนตร์วัยรุ่นทะลึ่งฮาเรื่องล่าสุดของค่าย “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” ซึ่งเขาเห็นแววความสามารถของผู้กำกับคู่นี้จากงานหนังสั้นนักศึกษาที่เป็นแนวตลกทะลึ่งเช่นเดียวกัน จึงชักชวนมาทำงานและให้โอกาสเสนอไอเดียภาพยนตร์ที่อยากจะทำ ซึ่งโปรเจกต์เรื่อง “15+” นี้ก็ผุดขึ้นมาเป็นความคิดแรกของทั้งคู่อยู่เสมอ และในที่สุดก็ได้มาร่วมกันปล่อยพลังฮาสายดาร์กจนออกมาเป็นภาพยนตร์วัยรุ่นแตกหื่นตื่นฮาเรื่องนี้
“ผมได้มีโอกาสคุยกับผู้กำกับสองคนนี้คือ ‘ป้อ‘ และ ‘เบน’ ที่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกับ ‘ฝน ขนิษฐา’ ผู้กำกับ ‘อาปัติ’ มาหลายปีแล้ว คือผมเห็นแววทั้งคู่ในหนังสั้นของเค้าครับ ตอนนั้นเคยคุยกันถึงโปรเจกต์ว่าน่าจะทำหนังใกล้เคียงกับตอนที่เค้าทำหนังสั้น ซึ่งหลังจากนั้นเค้าก็มาเล่าไอเดียหนังเรื่อง 15+ ให้ฟัง คือเป็นหนังทะลึ่งแบบใช้ไอเดียที่ก่อให้เกิดเรื่องราวของเด็กวัย 15 ที่กำลังอยากรู้อยากเห็นโดยเฉพาะเรื่องทางเพศ เรื่องเซ็กส์ๆ ในหมู่ของเด็ก ซึ่งผมฟังแล้วก็คิดว่ามันเป็นโปรเจกต์ที่น่าสนใจแล้วก็อยากจะทำเรื่องนี้ ซึ่งหนังไทยก็ยังไม่ค่อยมีเนื้อหาแบบนี้ คือเราอยากเห็นหนังไทยที่เล่าเรื่องทะลึ่งอย่างมีเนื้อหา ไม่ใช่เอาความทะลึ่งมาเล่นกันอย่างเดียวจนเกินขีดความพอดี คือเราก็ยังเชื่อว่า หนังเรื่องไหนก็ตามที่มีความแตกต่างจากที่คนดูเคยเห็นแล้ว มันก็สามารถสร้างความน่าสนใจได้ และเราก็คิดว่าบทหนังเรื่องนี้เป็นบทหนังที่เราพอใจกัน และน่าจะทำออกมาเป็นหนังที่สนุกได้ครับ”
นอกจากนี้ ปรัชญายังดึงผู้กำกับหญิงน่าจับตาอย่าง “ขนิษฐา ขวัญอยู่” (ผู้กำกับ “อาปัติ”) มาเสริมทีมเป็นโปรดิวเซอร์ร่วมที่ช่วยดูแลบทภาพยนตร์และควบคุมการสร้างในทุกกระบวนการ เพื่อสร้างสรรค์ให้หนังวัยรุ่นเรื่องนี้มีทั้งสาระและบันเทิงกันอย่างเต็มที่
“เรื่องนี้ฝนก็รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับพี่ปรัชนะคะ ก็จะช่วยดูแลตั้งแต่เรื่องบท, หน้าหนัง, แคสติง, กระบวนการโปรดักชันทั้งหมด รวมไปถึงตอนโพสต์ แทบจะอยู่ในทุกโพรเซสเลยค่ะ จริงๆ ตัวไอเดียของเรื่องนี้มันขายผ่านมาหลายปีแล้ว แต่การพัฒนาบทมันยังไม่ผ่านและเราก็ต้องปรับให้ทันสมัยอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาเจอกันอีกทีตอนที่ฝนทำ ‘อาปัติ’ (2558) เราก็เอาไอเดียนี้มารื้อฟื้นกันอีกที ซึ่งก็ยังเป็นก้อนไอเดียที่พี่ปรัชสนใจอยู่ ก็เลยเกิดการพัฒนากันอีกรอบหนึ่งจนเกิดเป็นบทในร่างนี้ที่ได้ทำออกมา คือเด็กอายุ 15 ซึ่งเป็นช่วงที่อะไรก็ดูสดใหม่ ร่างกายเราเติบโตขึ้น ความคิดเราโตขึ้น ความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น เราได้รับสิทธิ์ในความมีโลกส่วนตัวมากขึ้นอะไรอย่างงี้ มันก็เลยเป็นจุดที่เราหยิบเรื่องของอายุ เรื่องของวัย และอินสไปเรชันของตัวป้อ-ผู้กำกับเองมาขยำให้เป็นเรื่องของกลุ่มเด็กอายุ 15 ที่มันกำลังวุ่นวายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเอง และก็ความหมกมุ่น ความขี้เห่ออะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเซ็กส์ เรื่องเพศ เรื่องฮอร์โมนต่างๆ อะไรที่มันเกิดขึ้นกับคนช่วงอายุนี้ ก็เลยเกิดเป็นหนังเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ ซึ่งการทำงานของทั้งคู่ก็ดีค่ะ คือเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว แม้คาแรคเตอร์จะต่างกันมาก แต่ว่าพอมาอยู่ร่วมกันปุ๊บก็จะเห็นเคมีบางอย่างที่เค้าต้องทำงานคู่กันซึ่งลงรอยบ้างไม่ลงรอยบ้าง มันก็จะเกิดเคมีประหลาดอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่น่าจะเกิดมิติอะไรใหม่ๆ เกิดหนังใหม่ๆ เกิดลูกเล่นใหม่ๆ เพราะด้วยความที่สองคนนี้มีความถนัดกันคนละสไตล์ แต่ว่ามีทักษะของการอยากเล่าเรื่องเหมือนๆ กัน เหมือนสามีภรรยาที่แต่งงานกันมานานมากๆ มันก็จะทะเลาะกันอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่เลิกกันซักที อารมณ์ประมาณนี้สำหรับคู่นี้นะคะ”
“15+ ไอคิวกระฉูด” เล่าเรื่องราวสุด(กลัด)มันส์ของแก๊งเด็กเนิร์ดอย่าง “ฉลาดเลิศ” (ยอร์ช ยงศิลป์), “โอหยอง” (ยูโร ธนเศรษฐ์) และ “โอบื้อ” (ดีดี จิรกิตติ์) ที่อยู่ในวัยกำลังโตฮอร์โมนพลุ่งพล่าน และหมกมุ่นเป็นพิเศษกับเรื่องรักและเซ็กส์ที่พวกเขายังไม่ค่อยเข้าใจและไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน กับภารกิจติดเรตที่ต้องใช้ “ค (คิด) ว (วางแผน) ย (แยบยล)” เพื่อเอาชนะ (ใจ) สองสาวดาวเด่นของโรงเรียนอย่าง “สุดารัตน์” (พลอย ศรนรินทร์) และ “เชอร์รี” (อิงแลนด์ ลิตา) ให้จงได้ จนเกิดเป็นเรื่องราวฮากระฉูดหื่นกระจายแบบไม่มียั้ง และทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ประสบการณ์วัยคะนอง, การรับมือกับความผิดพลาด และการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกขั้น…อย่างไม่คาดคิด
#15บวกไอคิวกระฉูด พร้อมแตกหื่นตื่นฮา 3 สิงหานี้ ในโรงภาพยนตร์