“เอมิเลีย โจนส์” รับบท “รูบี” สาวน้อยเสียงมหัศจรรย์ผู้ที่ต้องเลือกระหว่างความฝันกับคนที่รัก
“เอมิเลีย โจนส์” เคยร้องเพลงมาบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดกับที่ต้องเจอใน “CODA” มาก่อน
เธอไม่ได้แค่ต้องร้องเพลงแต่ต้องร้องให้เข้าไปถึงหัวใจของผู้ชม
“ฉันไม่กล้าบอกว่าตัวเองเป็นนักร้องที่มีความมั่นใจนักนะคะก่อนจะเล่น ‘CODA’
ฉันเองตื่นเต้น กังวล แต่สิ่งที่ดึงดูดฉันมากๆ ให้เข้าถึงบทรูบี
เพราะว่าเธอแตกต่างจากฉันทุกประการจริงๆ ฉันคิดว่ามันคือความท้าทาย และเป็นสิ่งที่ฉันรักมากๆ ค่ะ”
“มาร์ลี แมตลิน” นักแสดงหูหนวกคนแรกของโลกที่ได้รับรางวัลออสการ์
จากภาพยนตร์ “Children of a Lesser God” (1986) รับบท “แจ็กกี” คุณแม่อารมณ์ดี
“แจ็กกี” เป็นคุณแม่ที่น่ารัก แต่เธอเองก็มีปัญหาในการเข้าถึง “รูบี”
แจ็กกีคิดภาพตัวเองและครอบครัวเอาตัวรอดไม่ออกหากรูบีจากพวกเธอไปเพื่อไปทำตามความฝันของตัวเอง
“ตลอดชีวิตของรูบี เธอเป็นล่ามให้กับครอบครัวมาโดยตลอด ในฐานะของพ่อแม่พวกเขาไม่ได้สังเกตว่าเธอทำงานหนักแค่ไหน
ตอนเธอยังเป็นวัยรุ่น เธอค้นพบชีวิตและค้นพบสิ่งที่เธอรักซึ่งก็คือการร้องเพลง ตอนที่เธอรวบรวมความกล้าเพื่อบอกพ่อแม่ว่า
หนูอยากร้องเพลง หนูอยากไปซ้อม ทำให้ทั้งคู่ไม่ทันตั้งตัว”
“ทรอย คอตเชอร์” รับบท “แฟรงก์” คุณพ่อจอมโวยวาย
บทที่ได้รับการคาดหมายว่าจะทำให้เขาคว้ารางวัลออสการ์!
“ทรอย คอตเชอร์” เป็นนักแสดงฝีมือดีในคณะละครของคนหูหนวกในลอสแอนเจลิส
“แฟรงก์ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมรูบีถึงรักในเสียงดนตรี เขาพยายามหาคำตอบว่าเพราะเหตุใด
แต่เขาใช้เวลานานกว่าจะได้สติและตระหนักว่า เขาลืมไปว่ารูบียังเป็นเด็ก
และที่ผ่านมาเธอไม่ได้ใช้ชีวิตวัยเด็กเลย เธอรู้สึกแบกรับภาระอันใหญ่หลวงจากพ่อแม่
แต่บางครั้งเธอก็อยากออกไปทำตามความฝันในสิ่งที่เธอค้นพบว่าตัวเองรัก”
คอตเซอร์ตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้ร่วมงานกับแมตลิน
“นานมาแล้วตอนผมอายุ 17 ปี ผมดูหนังเรื่องแรกที่นำแสดงโดยคนหูหนวก
หนังเรื่องนั้นชื่อ ‘Children of a Lesser God’ (1986) และคนที่แสดงเป็นตัวละครนั้นคือ ‘มาร์ลี แมตลิน’
ผมน่าจะเรียนอยู่สักมัธยมต้o เพื่อนผมบอกว่าในที่สุดก็มีบทที่นักแสดงหูหนวกได้เล่นบทเด่นบ้างซะที
เธอเป็นแรงบันดาลใจให้ผม และทำให้ผมเกิดความหวังว่าสักวันหนึ่งผมจะได้นำแสดงในหนังบ้าง
แล้วก็เหมือนพรหมลิขิตครับที่ผมได้ร่วมงานกับมาร์ลี การเล่นเป็นคู่สามีภรรยากับเธอถือเป็นเกียรติของผมมากๆ”
“แดเนียล ดูแรนต์” นักแสดงหูหนวกผู้เคยสร้างชื่อจาก “Switched at Birth” (2011-2017)
รับบทเป็น “ลีโอ” พี่ชายของ “รูบี”
“แดเนียล ดูแรนต์” เคยร่วมงานกับ “ทรอย คอตเซอร์” ในคณะละคร “Deaf West”
และร่วมงานกับ “มาร์ลี แมตลิน” ในซีรีส์เรื่อง “Switched at Birth” (2011-2017) มาก่อน
“พวกเราต่างมีเคมีที่เข้ากันดีโดยอัตโนมัติครับ ผมรู้สึกเหมือนพวกเขาเป็นพ่อแม่ของผมจริงๆ
ทรอยและผมใช้เวลาส่วนใหญ่ด้วยกัน พออยู่นอกกองถ่ายเราก็ยังใช้ชีวิตราวกับตัวละคร
ทรอยชอบหยอกล้อคนอื่นไปเรื่อย ชอบทำให้เราหัวเราะ ส่วนมาร์ลีก็มีด้านที่โก๊ะๆ ด้วยเช่นกัน
ทั้งคู่เป็นนักแสดงที่วิเศษมากๆ ครับ”
สำหรับบท “ลีโอ” ของแดเนียล เขาเป็นชายหนุ่มผู้มีความมุ่งมั่น และอยากประสบความสำเร็จตามแนวทางของตัวเอง
และควบคุมชะตาชีวิตตัวเอง แต่เขาก็ผูกพันกับครอบครัวมากๆ ลีโอเชื่อมั่นในตัว “รูบี” ว่าเธอควรวิ่งตามความฝันของตัวเอง
“ยูจีนิโอ เดอร์เบซ” นักแสดงอารมณ์ดี รับบท “แบร์นาร์โด วิลลาโลโบส” ครูสอนวิชาดนตรีของ “รูบี”
“ยูจีนิโอ เดอร์เบซ” โด่งดังจากหนังฮอลลีวูดหลายเรื่อง อาทิ “Overboard” (2018),
“The Nutcracker and the Four Realms” (2018) และ “Dora and the Lost City of Gold” (2019)
“เขาค้นพบว่ารูบีมีศักยภาพซุกซ่อนอยู่ภายใต้ความเขินอายจากเปลือกนอก เขาเลยตัดสินใจจะช่วยขัดเกลา
และเจียระไนความสามารถของเธอ เขามองเห็นเพชรในตมในตัวของรูบี จึงตัดสินใจเป็นเมนเทอร์ให้เธอ
เขาห่วงใยเธอ และมองเห็นความสามารถที่ยากจะหาใครเทียบได้”
“เฟอร์เดีย วอลช์-พีโล” จาก “Sing Street” (2016) รับบท “ไมลส์” เด็กหนุ่มผู้หลงรักเสียงเพลง
“ไมลส์คือผู้ชายที่รูบีแอบชอบและสมัครเข้าชมรมประสานเสียงเพื่อให้ได้ใกล้ชิดเขา
ทั้งคู่ต่างคิดว่าตัวเองเป็นพวกเข้ากับใครไม่ได้ ทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์ผ่านเสียงดนตรี
และเยียวยาหัวใจซึ่งกันและกัน”
ผู้กำกับ “ฌาน เฮเดอร์” เลือก “เฟอร์เดีย วอลช์-พีโล” มารับบทนี้เพราะเคยดู “Sing Street” เมื่อปี 2016
เมื่อเขารับบทเป็นเด็กในยุค 1980 ที่เริ่มตั้งวงดนตรีก็เพื่อให้สาวหันมามอง
“ฉันดูเฟอร์เดียใน Sing Street แล้วคิดว่าเขายอดเยี่ยมมากๆ ค่ะ เขาทั้งงุ่มง่ามและน่ารักไปพร้อมๆ กัน
ฉันตกหลุมรักเขาในทุกฉากของหนังเรื่องนั้น และคิดว่าคงจะสมบูรณ์แบบมากทีเดียวหากเขามารับบทไมลส์ในหนังเรื่องนี้”
“CODA หัวใจไม่ไร้เสียง” 30 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างซับไทย: https://youtu.be/csZB1-_cqMk
คุยกับ “เอมิเลีย โจนส์”: https://youtu.be/eDY1nVDlLK8