เพราะรักไม่จำกัดสถานะ “Still Human” รู้จักนักแสดงสาวชาวฟิลิปปินส์ “คริเซล คอนซุนจิ” และผู้กำกับหญิงเก่ง “โอลิเวอร์ ฉานสิวกุน” 21 พฤษภาคมนี้ ที่ “House Samyan” เท่านั้น

Still-Human-HK-st14

 

นักแสดงสาวชาวฟิลิปปินส์ “คริเซล คอนซุนจิ” ดูไม่เหมือนคนช่วยงานในบ้าน ซึ่งเป็นบทบาทที่เธอต้องเล่นในหนังเรื่อง “Still Human” เลยสักนิด ในชีวิตจริงเธอเป็นทั้งเจ้าของและผู้บริหาร “โบมเฮาส์ อาร์ตเซ็นเตอร์” (Baumhaus) ศูนย์การเรียนรู้ศิลปะสำหรับเด็กที่อยู่ในฮ่องกง แม้ว่าคอนซุนจิจะผ่านงานละครเวที (โดยเฉพาะละครเพลง) มาอย่างโชกโชน แต่ปัจจุบันเธอมักจะเรียกตัวเองว่า “ครู” มากกว่า

 

“ตอนเจอกันครั้งแรก ฉันบอกผู้ช่วยของฉันว่า เธอดูสง่าเกินไปหน่อย” ผู้กำกับ “โอลิเวอร์ ฉานสิวกุน” เล่าให้ฟังถึงตอนที่เจอคริเซล คอนซุนจิถูกเรียกมาออดิชั่น “แต่การทดสอบหน้ากล้องของเธอ มันยอดเยี่ยมไร้ที่ติ เธอคือ ‘เอเวอลีน’ ที่ฉันตามหาเลย”

 

ในหนัง “Still Human” คอนซุนจิเล่นบท “เอเวอลีน” สาวต่างด้าวที่เข้ามาทำงานเป็นผู้ช่วยงานในบ้านให้กับคนฮ่องกงคนหนึ่งที่ชื่อ “เหลียงจงหวิง” (แอนโทนี หว่อง) ชายผู้พิการซึ่งชอบไล่คนดูแลออกเป็นว่าเล่น เอเวอลีนพูดกวางตุ้งไม่ได้ ส่วนเหลียงก็พูดอังกฤษไม่ได้ การสื่อสารที่ติดขัดของท้ังคู่กลายเป็นสิ่งที่สร้างอารมณ์ขันให้กับหนัง เอเวอลีนไม่ได้ถนัดงานบ้าน เธอฝันอยากเป็นช่างภาพ ส่วนเหลียงก็เป็นคนฉุนเฉียวง่ายเข้ากับคนในครอบครัวไม่ได้เลย แต่ในท้ายที่สุดทั้งสองคนก็ได้ก้าวข้ามรูปลักษณ์ภายนอก มองเห็นทั้งความผิดหวัง ความหวัง ความฝัน และได้พบความจริงในเนื้อแท้ที่ซ่อนอยู่ว่าทั้งคู่ต่างก็เป็นสิ่งที่ชื่อหนังได้บอกไว้

 

Still-Human-HK-st04

 

หนังเรื่องนี้เป็นหนังในโครงการ “FFFI” (First Feature Film Initiative) ซึ่งเป็นโครงการที่ดูแลโดยกองทุนพัฒนาภาพยนตร์ของรัฐบาลฮ่องกง (สร้างออกฉายก่อนหน้านี้แล้ว 2 เรื่อง) เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมหนังในฮ่องกง สนับสนุนคนทำหนังหน้าใหม่ หลังจากที่ทศวรรษที่ผ่านมาหนังฮ่องกงซบเซาเพราะคนแห่ไปทำหนังที่จีนแผ่นดินใหญ่

 

“โอลิเวอร์ ฉาน” ดีใจมากที่เกิดโครงการนี้ขึ้นมา “ฉันนึกไม่ออกเลยว่าจะมีนายทุนคนไหนจะยอมให้เงินสร้างหนังเรื่องนี้” เธอกล่าวก่อนจะเล่าต่อไปว่า แม้การที่หนังมี “แอนโทนี หว่อง” แสดงนำจะทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ได้เข้าฉายในจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากหว่องไปสนับสนุน “Umbrella Movement” จึงทำให้รัฐบาลจีนแบนหนังที่เขาเล่น

 

“แต่ถึงแม้หนังจะไม่ได้ฉายในจีน แต่ฉันยังหวังว่าหนังน่าจะมีโอกาสไปฉายในประเทศอื่นๆ ในโลก” ฉานกล่าวเสริมว่า “สำหรับฉันแล้ว การเลือกแอนโทนี หว่องถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะคนดูในต่างประเทศรู้จักและชื่นชอบเขา แม้แต่คนที่ค้านฉันในตอนแรกว่า อย่าเอาเขามาเล่นเลย ก็ยังบอกว่าเขาเล่นเรื่องนี้ได้ดีมากๆ”

 

ในหลายๆ จุด “Still Human” เป็นหนังที่สำคัญมากๆ สำหรับคนฮ่องกง แม้แก่นเรื่องจะเป็นสากลมากๆ ก็ตาม ดูจากฉากหนัา หนังก็ดูคล้ายหนังคู่หูที่ไม่มีอะไรเข้ากันได้เลย และหาจุดลงตัวได้ในท้ายสุด แต่เมื่อมองลึกลงไปกว่านั้นเราก็จะมองเห็นประเด็นทางสังคมที่เกิดขึ้นจริงในฮ่องกง ฉานเล่าว่าประเด็นเรื่องคนพิการและสาวรับใช้ชาวฟิลิปินส์ (ซึ่งมีจำนวนสูงมาก) เป็นพลเมืองชั้นล่างที่ไม่ได้รับการเหลียวแลนั้น เป็นเรื่องที่คนฮ่องกงไม่ค่อยอยากรับฟัง

 

หนังเรื่องนี้เป็นการรวมอะไรหลายๆ อย่างจากประสบการณ์ของฉานเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ภาพคนแก่ที่ต้องนั่งรถเข็น นิสัยที่สนใจประเด็นสังคม และความเป็นเฟมินิสต์ของเธอเอง “คนฮ่องกงเฉยชากับเรื่องพวกนี้มาก” ฉานอธิบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพที่แม่บ้านฟิลิปปินส์นับพันคนออกมารวมตัวกันในที่สาธารณะทุกวันอาทิตย์ (ซึ่งเป็นวันหยุดงาน)

 

“มันเป็นภาพที่เห็นจนชินตา แต่ฉันมักจะสงสัยว่าพวกเขามานั่งทำอะไรกันตรงนี้นะ ฉันไม่เข้าใจเลย จนฉันเริ่มต้นหาข้อมูลก็พบว่าทุกอย่างเป็นปัญหาที่สะสมมาเรื่อยๆ พวกเขามาที่นี่ทำไม ที่นี่มีโอกาสอะไรให้พวกเขางั้นเหรอ และทำไมคนงานฟิลิปปินส์ถึงมีแต่ผู้หญิง ถึงแม้ประเด็นเหล่านี้จะไม่ได้พูดถึงตรงๆ ในหนัง วันหนึ่งฉันมองเห็นคนแถวบ้านสองคน พวกเขาคุยเล่นกันน่ารักมาก แต่ฉันรู้สึกแปลกๆ ยังไงชอบกล ฉันคิดว่านายจ้างกับลูกจ้างไม่ควรสนิทสนมกันขนาดนี้หรือเปล่านะ แต่แล้วฉันก็เตือนสติตัวเองว่า ทำไมล่ะ ทำไมนายจ้างกับลูกจ้างจะสนิทกันไม่ได้ ถ้าเกิดว่าลูกจ้างคนนั้นไม่ได้เป็นแค่คนใช้ล่ะ ภาพที่ฉันเห็นนั้นได้สะท้อนมุมมองบางอย่างในตัวฉันเอง”

 

Still-Human-HK-st15

 

ท้ายที่สุด หนังเรื่องนี้ก็พูดถึงเรื่องมนุษยธรรมที่คนฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็นคนกระแสหลักหรือคนชายขอบก็เข้าใจได้ (หนังเรื่องนี้ได้ “ฟรุต ชาน” เป็นโปรดิวเซอร์ ซึ่งงานของเขาก็มักพูดถึงคนชายขอบเช่นกัน) บทหนังที่ฉานสิวกุนเขียนโดยการใส่ความมีศักดิ์ศรีให้ตัวละคร ทำให้คอนซุนจิเกิดความสนใจอยากเล่น

 

ตอนแรกฉานอยากได้นักแสดงฟิลิปปินส์มืออาชีพมาเล่นบท “เอเวอลีน” แต่หลังจากติดต่อไปแล้วพบว่าอาจทำให้งบประมาณบานปลาย เธอจึงตัดสินใจลองหาคนฟิลิปปินส์ที่อยู่ในฮ่องกงมาเล่นแทน ใครสักคนที่ไม่ต้องดังมากก็ได้ “เวลาคุณอยากจะพูดแทนคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คุณคงไม่อยากให้พวกเขาคิดว่า แหม เอาคนดังๆ มาเล่นเลยเหรอ เพราะมันไม่เกิดแรงกระเพื่อมอะไร”

 

คอนซุนจิอาศัยในฮ่องกงมาตั้งแต่ปี 2008 เธอมาที่นี่ครั้งแรกเพราะเป็นหนึ่งในทีมนักแสดง “High School Musical Live!” ที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ จริงๆ แล้วเธอเกิดและเติบโตในมะนิลา ทั้งเรียนและทำงานในคณะละครเพลงตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แต่เรียนจบปริญญาโทสาขารัฐศาสตร์ และหลังเรียนจบเธอก็ได้รับการทาบทามจากดิสนีย์ให้มาร่วมแสดงละครเพลงทันที “คุณนึกภาพออกไหมว่า นักศึกษาวิชาการเมืองเปรียบเทียบแล้ววันรุ่งขึ้นก็ต้องไปร้องเพลงบนเวทีทุกวัน”

 

คอนซุนจิบอกตัวเองว่า เธอคงบอกลางานแสดงอย่างจริงจัง หลังจากหมดสัญญากับดิสนีย์ แต่ไม่นานเพื่อนๆ ของเธอก็บอกให้เธอลองไปออดิชั่น แรกๆ ก็ยังไม่อยากไป แต่เมื่อคอนซุนจิอ่านบทของฉานแล้วชอบมาก เธอจึงลองไปทดสอบหน้ากล้อง “ฉันคิดว่าเราต้องการหนังที่พูดเรื่องศักดิ์ศรีของมนุษย์ซึ่งไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก เพราะเวลาที่คนพูดถึงประเด็นเหล่านี้ก็มักจะไปเน้นที่ความยากจน ชีวิตรันทดอะไรพวกนั้น พอมีเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ฉันจึงอยากมีส่วนร่วมด้วย”

 

คอนซุนจิอธิบายก่อนจะเสริมว่า เธอเองก็เคยถูกมองว่าเป็นคนใช้เหมือนกัน ทั้งจากคนฮ่องกงและคนฟิลิปปินส์ด้วยกันเอง “ทั้งคนฮ่องกงและคนฟิลิปปินส์เข้าใจว่าฉันมาทำงานเป็นคนรับใช้ ตอนแรกฉันหงุดหงิดมาก ช่วงที่มาฮ่องกงใหม่ๆ มันสะท้อนว่าวัฒนธรรมในสังคมที่เราเติบโตมาเป็นเช่นไร แต่หลังจากอยู่ที่นี่มา 11 ปี หลายอย่างก็เปลี่ยนไป มันกำลังเปลี่ยนแปลงไป”

 

Still-Human-HK-st02

 

ฉานสนใจอยากทำหนังมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ถูกคนอื่นคัดค้านมาโดยตลอด เธอเล่าว่าเธอโตมากับการเรียนหนังสือที่อยู่ในกรอบมากๆ “เพราะว่าตอนเด็กๆ ฉันเรียนเก่งมาก พอฉันบอกใครๆ ว่าฉันอยากเรียนทำหนัง ครูหลายคนของฉันก็จะถามว่า ฉันยังสติดีอยู่หรือเปล่า” ทั้งๆ ที่เธออยู่ในสถานะที่สามารถเรียนแพทย์ได้ เธอกลับบอกปัด และเลือกเรียนบริหารธุรกิจแทนที่ไชนีสยูนิเวอร์ซิตี้ออฟฮ่องกง (มหาวิทยาลัยลำดับต้นๆ ของฮ่องกง) “ฉันได้เป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่แคลิฟอร์เนียและที่โคเปนเฮเกน ฉันสนุกมาก และฉันได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างที่กลายมาเป็นทักษะติดตัวมาจนถึงทุกวันนี้” 

 

หลังเรียนจบ ฉานสิวกุนไปทำงานธนาคารอยู่ 3 ปี แต่ระหว่างนั้นเธอก็ทำหนังสั้นควบคู่ไปด้วย และจุดหักเหก็มาถึง เมื่อเธอได้รับการเลื่อนตำแหน่งและกำลังจะกลายเป็นนักการเงินมืออาชีพ เธอตัดสินใจลาออกจากงานและสมัครเข้าเรียนต่อปริญญาโทวิชาภาพยนตร์แทน “นั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตของฉัน ฉันได้ทำงานพาร์ตไทม์ให้กับสมาคมนักเขียนบท” ฉานเล่าว่าที่นั่นได้ทำให้เธอพบปะคนทำหนังหลายคน “และทำให้ฉันตัดสินใจทำงานนี้เป็นอาชีพจริงๆ สักที”

 

“Still Human” ได้รับการคัดเลือกให้ไปฉายในเทศกาลต่างๆ ทั่วโลก แต่สิ่งที่ฉานสิวกุนหวังไว้ก็คือ มันจะได้ฉายให้คนในฮ่องกงได้ดู “ฉันเชื่อว่าคนเราไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์อันยากแค้นใดก็ตาม พวกเขาควรได้พบกับสิ่งดีๆ พวกเขามีสิทธิที่จะฝัน ได้เจอความสัมพันธ์ที่ดีและได้เจอกับความรัก” เธอทิ้งท้าย “ไม่มีใครมีสิทธิไปดูถูกดูแคลนใครทั้งนั้น ไม่ว่าเขาคนนั้นจะแตกต่างจากเรา หรือคนๆ นั้นจะมีฝันอะไร จะฝันเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ก็ไม่ควรไปเหยียดหยามความฝันของเขา”

 

“Still Human เพราะรักไม่จำกัดสถานะ”

21 พฤษภาคมนี้ เฉพาะที่ House Samyan เท่านั้น

 

Still-Human-Poster-TH

Still Human

Still Human

“ในช่วงเวลาที่ท้อแท้ที่สุด ใครคือคนที่รักเรา…”   เมื่อคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในแทบทุกด้านแต่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ส่งผลให้เปิดมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่เคยคิดมาก่อน “เหลียงจงหวิง” (หวงซิวเซิง/แอนโทนี หว่อง) เป็นชายสูงอายุที่ป่วยเป็นอัมพาต...

รายละเอียดภาพยนตร์

Featured News