นับถอยหลังหนึ่งสัปดาห์! เตรียมตัวก่อนออกไปดู “The Desperate Hour” กับ “10 เรื่องสุดพีก” เมื่อ “นาโอมิ วัตต์ส” ห้ามหยุดวิ่ง! ลุยปกป้องลูกจากเหตุก่อการร้ายด้วยโทรศัพท์เครื่องเดียว

กลายมาเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่น่าจับตาในช่วงเดือนมีนาคมปีนี้ “The Desperate Hour ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย ที่นำแสดงโดย “นาโอมิ วัตต์ส” ในบทบาทของแม่ที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือลูกชายที่ติดอยู่ในสถานการณ์เหตุกราดยิงในโรงเรียน ซึ่งความน่าสนใจของภาพยนตร์คือการเล่นกับเรื่องของเวลาแบบเรียลไทม์! เรื่องราวที่คุณเห็นบนจอ 84 นาทีที่เธอช่วยเหลือลูกจะตรงกับความยาวของภาพยนตร์จริงๆ แปลว่าคุณจะลุ้นแบบนาทีต่อนาทีไปพร้อมตัวละคร ไม่เพียงแค่นั้นยังลุ้นไปกับข้อจำกัดที่ว่าเธอต้องห้ามหยุดวิ่ง และมีโทรศัพท์แค่เครื่องเดียวเท่านั้นที่เป็นตัวช่วย!

 

The-Desperate-Hour-Still03

 

วอร์มร่างกายรอกับ “10 เรื่องราวสุดพีก” ก่อนออกวิ่งฝ่าวิกฤตหนีตายใน “The Desperate Hour” 10 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

1) การันตีคุณภาพ! เปิดตัวรอบปฐมทัศน์ใน “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโทรอนโต 2021” 

สนุกจริง ลุ้นจริง เสียงจากผู้ชมจริงและนักวิจารณ์ เพราะ “The Desperate Hour” การันตีคุณภาพด้วยการได้รับเลือกให้ฉายใน “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโทรอนโต ครั้งที่ 46” (2021 Toronto International Film Festival) ในฟอรัมภาพยนตร์และการแสดงที่ต้องดู! โดย“EW Entertainment” แล้วแบบนี้แฟนๆ ชาวไทยจะพลาดได้ไง

 

2) ทุกบทบาทคือความท้าทาย! เพราะนี่คือ “นาโอมิ วัตต์ส” 

หนีตายจาก “The Impossible” (2012) มาสู่วิ่งฝ่าวิกฤตกราดยิงใน “The Desperate Hour” นาโอมิได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าเธอคือนักแสดงที่ทุ่มเทสุดๆ “บทบาทครั้งนี้ทำให้ฉันเหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจ ฉันทำเตรียมตัวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเทรนร่างกาย สำหรับฉากวิ่งอย่างต่อเนื่อง และทำความเข้าใจตีความบทคุณแม่ที่พยายามทำทุกวิถีทางให้ลูกชายปลอดภัย” เธอให้สัมภาษณ์กับ “HeyUGuys”

 

3) เธอเกิดมาเพื่อบทนี้

แจ้งเกิดมาแล้วกับ “Mulholland Drive” (2001) ภาพยนตร์ระทึกขวัญแนวจิตวิทยาของ “เดวิด ลินช์” และได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์จากบทนักข่าวสาวใน “The Ring” (2002) และบทคุณแม่สุดแกร่งใน “The Impossible” (2012) ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอคือนักแสดงเจ้าบทบาท “เรารู้ว่ามันเป็นเรื่องราวที่ท้าทายและยากในการเล่าเรื่อง เรารู้สึกขอบคุณมากที่นาโอมิก็เชื่อในเรื่องนี้เช่นกัน” โปรดิวเซอร์ “แซ็ก ชิลเลอร์” และ “แอนดรูว์ คอร์คิน” กล่าว

 

4) ถ้าคุณคือแฟน “Salt” (2010) คุณต้องไม่พลาดเรื่องนี้!

ผู้กำกับ “ฟิลลิป นอยซ์” โดดเด่นมาก ผู้ชมและนักวิจารณ์มากมายกล่าวถึงเขาในฐานะปรมาจารย์ภาพยนตร์ระทึกขวัญ เขาประสบความสำเร็จมานับไม่ถ้วน ตัวอย่างเช่นภาพยนตร์สายลับ “Salt” (2010) ที่แสดงโดย “แอนเจลินา โจลี” ซึ่งครั้งนี้เขากลับมาหยิบเอาเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกชายมาเล่าภายใต้เงื่อนไขเรื่องระยะทาง เมื่อลูกตกอยู่ในอันตรายแต่ตนเองอยู่ไกลออกไปหลายไมล์ สิ่งเดียวที่เชื่อมเธอกับลูกไว้คือโทรศัพท์! ทุกวินาทีคือเส้นตาย ลุ้นทุกวินาทีจนลืมหายใจ

 

5) ทุ่มเทเทรนร่างกายเป็นเวลาหลายเดือน!

อย่างที่ทุกคนได้เห็นจากตัวอย่าง “นาโอมิ วัตต์ส” ทุ่มเททุกนาทีเพื่อช่วยเหลือลูกของเธอ พลังการแสดงนั้นถ่ายทอดออกมาได้สุดยอดมากๆ โดยเฉพาะเบื้องหลังการถ่ายทำที่ต้องบอกว่าที่สุดของการทุ่มเทเพราะเธอต้องวิ่งเป็นเวลาหลายชั่วโมง และแบกอุปกรณ์หนักๆ พร้อมกัน จนผู้กำกับออกปากชมว่า “ผมคิดว่า ‘นาโอมิ วัตส์’ ยอดเยี่ยมมากในภาพยนตร์เรื่องนี้ เธอแข็งแกร่งและถ่ายทอดความสิ้นหวังของตัวละครออกมาได้ดีมาก เธอผลักดันตัวเองทั้งทางร่างกายและจิตใจจนถึงที่สุดในบทบาทนี้”

 

The-Desperate-Hour-Still05

The-Desperate-Hour-Still10

 

6) ความเป็นหนึ่งเดียวกันของชุมชน

เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้น เราจะหวังพึ่งใครได้บ้าง ผู้กำกับต้องการจะสื่อให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนในชุมชนขณะที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพราะสิ่งเดียวที่จะเชื่อมเธอเข้ากับลูกชายคือ “โทรศัพท์” ต้องขอบอกว่าเป็นอะไรที่ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมได้แน่นอน หลายๆ ครั้งที่เกิดเหตุไม่คาดฝันก็จะมีผู้คนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเสมอ

 

7) พลังของคนเป็นแม่

เราเคยเห็นนาโอมิในบทคุณแม่มาแล้วใน “The Impossible” (2012) บทนั้นทำให้เธอได้รับเสนอชื่อรางวัล #ออสการ์2013 ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม! นาโอมิจะมาทำให้เราทึ่งไปกับพลังของ “เอมี คารร์” แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ได้ยินข่าวกราดยิงขณะจ็อกกิงอยู่ในป่าที่ห่างไกลลึกเข้าไปเป็นไมล์ ความระทึกผสมความกระวนกระวายใจ  ลูกของเธอจะปลอดภัยหรือไม่ พลาดไม่ได้แน่นอน

 

8) การร่วมงานครั้งแรกที่น่าประทับใจ

มันไม่ง่ายเลยในการเฟ้นหานักแสดงหน้าใหม่ในช่วงนี้ “เด็กคนนี้มีบางสิ่งที่ดิบและไม่ธรรมดา คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเด็กคนนี้จะนำอะไรมาบ้าง มันคือการค้นพบเสมอ เขาวิเศษมาก” นาโอมิพูดถึงการร่วมงานกับ “โคลตัน ก็อบโบ”

 

9) การถ่ายทำอย่างยากลำบากในช่วง COVID-19

การทำงานในช่วงโควิดเปรียบเสมือนฝันร้ายของกองภาพยนตร์ แต่ “ฟิลลิป นอยซ์” ก็ผ่านมาได้อย่างสวยงาม ซึ่งเขาได้เผยว่า “จนถึงวันนี้ผมยังไม่เคยพบ ‘ฟิล ไอส์เลอร์’ คนทำดนตรีประกอบของผมเลย ทักษะของเขามันเหลือเชื่อ!”

 

10) “นาโอมิ วัตต์ส” ร่วมแคมเปญเพื่อควบคุมกฎหมายการใช้ปืน

หลายครั้งที่มีข่าวกราดยิงในโรงเรียน พ่อแม่ทุกคนต้องอยู่อย่างหวาดกลัว “นาโอมิ วัตต์ส” อ่านบทและตัดสินใจได้ในทันทีว่า “ฉันจะต้องเล่นเรื่องนี้!” เธอมองว่าตนเองเหมือนพ่อแม่ทุกคนในประเทศนี้ที่อ่านข่าวและใช้ชีวิตด้วยความหวาดผวา เราพยายามที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อกฎหมายปืน  

 

เพราะทุกวินาทีที่เวลาเดินไปข้างหน้า คือการเดินทางของความตายที่กำลังเข้าใกล้ลูกชายของเธอ “The Desperate Hour ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย” ภาพยนตร์ระทึกขวัญเรียลไทม์ชวนลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ 10 มีนาคมนี้ พิสูจน์พร้อมกันในโรงภาพยนตร์

 

ตัวอย่างซับไทยhttps://youtu.be/5ZS-Dee8Fe4

นับถอยหลังสู่ชั่วโมงโคตรวิกฤต: https://youtu.be/RDi7hfSrhx0 

The Desperate Hour ฝ่าวิกฤตวิ่งหนีตาย

The Desperate Hour ฝ่าวิกฤตวิ่งหนีตาย

เตรียมฝ่าวิกฤตระทึกทุกนาที เมื่อเธอต้อง “วิ่ง” เพื่อปกป้องคนที่เธอรักจากเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญใน “The Desperate Hour ฝ่าวิกฤตวิ่งหนีตาย” ภาพยนตร์ระทึกขวัญที่จะชวนผู้ชมตามติดเอาใจช่วยกับสถานการณ์คับขันแข่งกับเวลาและอัดแน่นไปด้วยข้อจำกัดอันน่าระทึก ผลงานกำกับล่าสุดของผู้กำกับรุ่นเก๋า “ฟิลลิป นอยซ์” (Salt, Clear and Present...

รายละเอียดภาพยนตร์

Featured News