“Shoplifters” เจ้าของรางวัลชนะเลิศเมืองคานส์ กลายเป็น “หนังที่ทำเงินสูงสุด” ของผู้กำกับ “ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ” และยังเดินหน้ากวาดเงินต่อไปเรื่อยๆ แบบที่อะไรก็ฉุดไม่อยู่ ล่าสุดทำเงินไปถึงระดับ 3,200 ล้านเยน (ประมาณ 950 ล้านบาท) แล้ว หลังจากเข้าฉายครบ 1 เดือน โดยมียอดผู้ตีตั๋วเข้าชมสูงถึง 2.65 ล้านคน
หนังที่เล่าถึงครอบครัวขี้ขโมยเรื่องนี้ ได้ทำเงินผ่านหลัก 3,180 ล้านเยน ซึ่ง “Like Father, Like Son” ผลงานที่ถือว่าทำเงินสูงสุดของโคเรเอดะเคยสร้างสถิติไว้ และเป็นหนังที่คว้ารางวัลรองชนะเลิศมาจากเมืองคานส์ในปี 2013 รวมทั้งยังทำให้หนังญี่ปุ่นผงาดขึ้นในเวทีนานาชาติอีกครั้งในรอบ 20 ปี นับจากหนังเรื่อง “The Eel” ของ “โชเฮย์ อิมามุระ” เคยได้ปาล์มทองจากเมืองคานส์เมื่อปี 1997
เนื่องด้วยโอกาสพิเศษที่โรงภาพยนตร์ “House RCA” ครบรอบ 14 ปี และหนัง “Shoplifters” เตรียมเข้าฉายในไทย “มงคลซีนีม่า – โรงภาพยนตร์ House RCA – เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ” จึงได้ร่วมกันจัดงาน “KORE-EDA RETROSPECTIVE 2018” (โคเรเอดะ เรโทรสเปคทีฟ) ขึ้นในวันที่ 27-30 กรกฎาคมนี้ เพื่อจัดฉาย 8 ภาพยนตร์ผลงานชิ้นเยี่ยมที่พวกเราไม่เคยลืมของ “ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ” ผู้กำกับที่เรารักที่แฟนๆ ไม่ควรพลาด
รายละเอียดการจำหน่ายบัตร
บัตรเข้าชมภาพยนตร์ในเทศกาลฯ ราคาใบละ 100 บาท พิเศษกับแพคเกจบัตรสุดคุ้มราคา 650 บาท สามารถชมภาพยนตร์ได้ทั้ง 8 เรื่อง พร้อมรับฟรี Exclusive Poster “Shoplifters” พร้อมรับสิทธิ์ซื้อเสื้อยืด “Shoplifters” ในราคาเพียง 180 บาท จากราคาปกติ 250 บาท จำกัดจำนวนเพียง 100 ชุดเท่านั้น
เริ่มเปิดจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่โรงภาพยนตร์ House RCA (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 02-6415177)
ภาพยนตร์ทั้ง 8 เรื่อง ได้แก่
“Nobody Knows” (2004)
เด็ก 4 คนที่ถูกแม่ทิ้งให้ใช้ชีวิตกันตามลำพัง นี่เป็นหนังที่โด่งดังที่สุดของโคเระเอดะ และส่งให้ “ยูยะ ยางิระ” คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ รวมทั้งกลายเป็นนักแสดงชายที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถคว้ารางวัลนี้ไปครอง
“Air Doll” (2009)
นักแสดงสาวชาวเกาหลี “เบดูนา” รับบทตุ๊กตายางที่จู่ๆ ก็มีชีวิตขึ้นมาเหมือนมนุษย์ แต่ความเป็นมนุษย์นั้นซับซ้อนจนเธอเองกลับไม่อาจเข้าใจมัน หนังได้รับเลือกให้ฉายในสาย Un Certain Regard ของเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 2009
“I Wish” (2011)
หนังที่พิสูจน์ให้เห็นว่าโคเระเอดะกำกับนักแสดงเด็กได้เก่งกาจเพียงไร นี่เป็นหนังเด็กที่ลึกซึ้งและชาญฉลาด เล่าเรื่องของสองพี่น้องที่ต้องอยู่ห่างกันคนละจังหวัดเพียงเพราะพ่อกับแม่แยกทางกัน พวกเขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้ง
“Like Father, Like Son” (2013)
ได้รับรางวัลจูรีไพรซ์จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ พล็อตว่าด้วยสองครอบครัวที่มีฐานะความเป็นอยู่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ต้องมาสานสัมพันธ์กันเพราะความผิดพลาดของโรงพยาบาลที่ดันสลับตัวลูกชายของทั้งคู่ตั้งแต่เกิด
“Our Little Sister” (2015)
สร้างจากมังงะของ “อะกิมิ โยชิดะ” เล่าเรื่องสี่สาวพี่น้องต่างวัยในบ้านหลังเดียวกัน ฉากหลังคือเมืองคามาคุระอันแสนอบอุ่น นอกจากจะทำรายได้จากการขายตั๋วเกินกว่าพันล้านเยน หนังยังเข้าชิงรางวัลเจแปนอะคาเดมีถึง 12 สาขา
“After the Storm” (2016)
“ฮิโรชิ อาเบะ” รับบทชายวัยกลางคนผู้ไม่เอาไหนเลยสักอย่างที่ต้องติดอยู่ในบ้านแม่ พร้อมกับอดีตภรรยาและลูกชาย ในคืนที่พายุพัดกระหน่ำ หนังได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากนักวิจารณ์ทั้งในญี่ปุ่นและระดับนานาชาติ
“The Third Murder” (2017)
ทนายความผู้หนึ่งเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ถึงแม้วัตถุพยานจะค้านกับคำให้การของเขาก็ตามที โคเระเอดะตั้งคำถามต่อคนดูว่า อะไรคือความจริง และอะไรคือความยุติธรรมได้อย่างเปี่ยมชั้นเชิง ในหนังที่คว้ารางวัลเจแปนอะคาเดมีถึง 6 รางวัล
“Shoplifters” เข้าฉายจริงเริ่ม 2 สิงหาคม เฉพาะที่ “House RCA” และ “สกาลา”
“โอซามุ” (ลิลี แฟรงกี้) ทำงานรับจ้างรายวัน เขายังลักเล็กขโมยน้อยเป็นอาชีพเสริมด้วย โดยมีลูกชาย “โชตะ” (ไคริ โจว) เป็นผู้ช่วย วันหนึ่งขณะทั้งคู่กลับจากการขโมยของ โอซามุได้เจอกับ “ยูริ” (มิยุ ซาซากิ) เด็กหญิงตัวน้อยอยู่ตัวคนเดียว เขาจึงตัดสินใจพาเธอกลับมาบ้านด้วยแม้ว่า “โนบุโยะ” (ซากุระ อันโดะ) ภรรยาของเขาจะไม่พอใจที่เขาพาเด็กที่ไหนมารู้มาอยู่อาศัยด้วย ถึงอย่างนั้นตัวเธอและรวมถึงสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวอย่าง “อากิ” (มายุ มัตสึโอกะ) น้องสาวของโนบุโยะ และ “คุณยายฮัตสุเอะ” (คิริน กีกิ) ก็ดูแลเด็กหญิงคนนี้เป็นอย่างดี ถึงแม้พวกเขาจะเป็นครอบครัวเล็กๆ จนๆ แต่พวกเขาก็เป็นครอบครัวที่มีความสุข ทว่าในช่วงเวลาที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย ความลับบางอย่างก็เปิดเผยออกมาทำให้ทั้งครอบครัวต้องสั่นคลอน “Shoplifters” คว้ารางวัลปาล์มทองคำ รางวัลสุงสุดจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ และเป็นภาพยนตร์คนแสดงที่ทำรายได้ทะลุหลัก 1,000 ล้านเยนได้เร็วที่สุดอีกด้วย
ตารางการฉายภาพยนตร์
27 กรกฎาคม 2018
12.00 น. – Air Doll
14.20 น. – Nobody Knows
17.00 น. – After the Storm
19.15 น. – Our Little Sister
28 กรกฎาคม 2018
12.00 น. – I wish
14.30 น. – Like Father, Like Son
16.45 น. – Air Doll
19.20 น. – The Third Murder
29 กรกฎาคม 2018
12.00 น. – Our little Sister
14.30 น. – Air Doll
16.50 น. – After the storm
19.10 น. – Like Father, Like Son
30 กรกฎาคม 2018
12.00 น. – Like father, Like Son
14.15 น. – Our Little Sister
16.40 น. – Nobody knows
19.15 น. – Shoplifters