ถ้าภาพยนตร์ “Train to Busan” เคยทำให้ผู้ชมหวาดกลัวเหตุการณ์กับพื้นที่จำกัดบนรถไฟแล้ว “Train To Busan: Peninsula” ก็จะมาทำให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ใหม่ในการเข้าพื้นที่ที่ไม่รู้จัก สถานการณ์ที่ไม่เคยเจอบนพื้นที่ขนาดใหญ่และยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยในครั้งนี้ได้ “คังดงวอน” 1 ใน 4 สมบัติแห่งชาติเกาหลีที่แฟนๆ ชาวไทยต่างชื่นชอบและถือเป็นนักแสดงคุณภาพอีกหนึ่งคนที่มีผลงานมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “Golden Slumber” (2018), “The Secret Reunion” (2010), “Romance of Their Own” (2004) มารับบท “จองซอก” ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อ 4 ปีก่อนที่สามารถหลบหนีออกจากภัยพิบัติครั้งนั้นได้ทันเวลา เขาต้องกลับมาที่คาบสมุทรเกาหลีอีกครั้งเพื่อภารกิจครั้งสำคัญ เมื่อเชื้อซอมบี้แพร่กระจายรุนแรงจนกลายเป็นดินแดนนรกร้าง เตรียมรับมือมหันตภัยซอมบี้ครั้งใหม่ เพียงสิ่งเดียวที่ทุกคนต้องทำคือ “จงรอดตาย”
“Train to Busan: Peninsula” ได้รับเลือกอย่างเป็นทางการจาก “เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ประจำปี 2020” ฝีมือผู้กำกับ “ยอนซังโฮ” ที่แฟนหนังทั่วโลกต่างตั้งตารอ โดยก่อนหน้านี้ “Train to Busan” เองก็เคยได้รับคัดเลือกและสร้างเสียงฮือฮาในคานส์ปี 2016 มาแล้ว ซึ่งยอนซังโฮกล่าวถึงคาแร็กเตอร์และเหตุผลที่เลือกคังดงวอนมารับบทนำในครั้งนี้ว่า “จองซอกเป็นตัวละครที่มีอารมณ์ซับซ้อน ผมว่าคังดงวอนเป็นนักแสดงคนเดียวที่ถ่ายทอดบทนี้ออกมาได้ เขาเล่นฉากบู๊ด้วยตัวเอง ความทุ่มเทของเขาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักแสดงคนและทีมงานคนอื่นๆ ในกอง”
ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ “คังดงวอน” ทุ่มเททางการแสดงเพื่อความสมจริงตามที่ผู้กำกับต้องการ โดยร่วมแสดงฉากแอคชั่นเองทั้งหมด รวมถึงต้องซ้อมกับนักแสดงที่รับบทเป็นซอมบี้ เพื่อให้ชินกับการเคลื่อนไหวผิดมนุษย์ของพวกเขา
อยากให้พูดถึงความน่าสนใจของ “Train to Busan: Peninsula” ที่ทำให้คุณตัดสินใจร่วมงาน
ความสนุกจริงของภาพยนตร์ไม่ใช่แค่การสู้กับซอมบี้ครับ แต่คือการสร้างสถานการณ์ในหนังมากกว่า และที่ผมสนใจมาเล่นใน “Train to Busan: Peninsula” ก็คือในฐานะนักแสดง ผมว่ามันเป็นหนังที่ดีมากกว่าที่จะคิดถึงเรื่องค่าตัวครับ
คุณรับบทเป็นใครใน “Train to Busan: Peninsula”
ผมรับบท “จองซอก” ครับ ตัวละครที่ชื่อจองซอกถึงแม้ว่าจะหลบหนีจากสถานการณ์ภัยพิบัติจากเกาหลีไปได้ แต่เขาก็สูญเสียความหวังไปครับ จากนั้นเขาก็ได้กลับมาที่เกาหลีอีกครั้งหลังจาก 4 ปี พร้อมกับภารกิจเสี่ยงตาย และได้พบกับครอบครัวของ “มินจอง” (อีจองฮยอน) และได้พบกับความหวังครั้งใหม่อีกครั้งครับ
คาแร็กเตอร์ของคุณมีความเป็นฮีโร่แอคชั่นมากๆ ได้มีการเตรียมตัวหรือฝึกซ้อมอย่างไรบ้างก่อนถ่ายทำ
ตอนที่เตรียมตัวถ่ายทำหนังเรื่องนี้ยังไม่ได้มีการเตรียมแอคชั่นอะไรเป็นพิเศษครับ เพราะเรามีทีมแอคชั่นที่เคยร่วมงานกันมาตลอด เราจะตกลงกันก่อนตอนถ่ายทำ แต่มีฉากหนึ่งครับที่มีซีนแอคชั่นแบบลองเทก เราก็เลยตกลงกันหน้างานครับเพื่อเขาจะได้ป้องกันได้ ซึ่งปกติผมจะออกกำลังกายตลอดอยู่แล้ว จึงไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อยครับ แต่ปกติผมจะต่อสู้กับคนครับ รอบนี้ต้องเข้าซีนต่อสู้กับซอมบี้ เรื่องนี้จึงค่อนข้างยากกว่าทีคิด ผู้กำกับบรีฟว่าตัวของจองซอกต้องเข้าซีนแอคชั่นในสถานการณ์ที่สุดขั้วมากๆ ในการถ่ายทำผมจึงพยายามทำอารมณ์ให้ดูจริงจังมากๆ ครับ
ระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ คุณเจอปัญหาอะไร มีความลำบากด้านไหน
บรรยากาศกองถ่ายดีมากๆ แค่ได้เห็นความสุขในการทำงานของทีมงานก็ทำให้ผมรู้สึกอารมณ์ดีมากๆ ครับ แน่นอนครับว่าการถ่ายหนังเรื่องหนึ่งมันก็ต้องมีเหนื่อยบ้าง แต่มันก็มีความสุขมากๆ โดยเฉพาะเรื่องนี้การถ่ายทำราบรื่นและเห็นทุกคนสนุกไปกับมัน ซึ่งโดยปกติของการถ่ายทำจะมีปัญหาเกิดขึ้นบ่อย แต่ในกองนี้ไม่เคยมีเลย ผมไม่รู้นะว่าตอนที่ผมไม่อยู่จะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า แต่เอาจริงๆ มันไม่มีเลย ผมรู้สึกแฮปปี้มากๆ เลยครับ
การทำงานกับนักแสดงเป็นอย่างไรบ้าง
ผมสนุกมากๆ ครับ และนักแสดงทุกก็เข้ากันได้ดี และยังแสดงกันได้ดีมากครับ สำหรับน้อง “อีเร” กับ “เยวอน” ก็เป็นเด็กที่สดใสมาก เวลาเข้าฉากก็เลยทำให้ผมรู้สึกสนุกไปด้วยเลยครับ
เหตุผลที่ผู้ชมจะต้องไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์
คือถ้าใครที่เคยชอบ “Train to Busan” ก็คงจะชอบเรื่องนี้มากๆ ครับ แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ดู “Train to Busan” ก็ยังจะสนุกไปกับหนังแน่นอนครับ เพราะมันเป็นคนละส่วนกับ “Train to Busan” ผมคิดว่าผู้ชมจะได้รับประสบการณ์ความสนุกแน่นอนครับ
หลังจากที่ภาพยนตร์ “Train to Busan: Peninsula” ถูกรับเลือกโดย “เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์” คุณรู้สึกเสียใจหรือไม่ที่ไม่ได้มีโอกาสไปร่วมในงานเปิดตัวที่นั่น
ก็เสียใจครับ แต่ช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังลำบาก ถือว่าเป็นโอกาสที่ผมจะได้ทำผลงานที่ดีกว่าต่อไป ถึงแม้ปีนี้งาน “เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์” จะไม่ถูกจัดขึ้น แต่การที่หนังได้รับเลือกเข้าไปก็ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ
ฝากผลงานภาพยนตร์ “Train to Busan: Peninsula” กันหน่อย
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลกลำบากกันมากครับ และเราทุกคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ก็คงจะลำบากไม่แพ้กัน ภาพยนตร์ “Train to Busan: Peninsula” ถือเป็นภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์เรื่องแรกที่ฉาย จึงอยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นตัวแทน เป็นความหวังของทุกคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมหนังทั่วโลก และขอเป็นกำลังใจให้หนังที่จะฉายต่อไปครับ
“Train to Busan: Peninsula ฝ่านรกซอมบี้คลั่ง” 23 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์