เมื่อ 6 ปีก่อน “โรเบิร์ต เอกเกอร์ส” ทำงานเป็นดีไซเนอร์ออกแบบฉากให้กับคณะละครแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก เขาพูดถึงตัวเองว่า
“ผมเป็นแค่ฮิปสเตอร์ไว้เครา เต๊ะท่านั่งกินสลัดกับควินัวไปวันๆ”
แต่ชีวิตเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อเขาตัดสินใจหาทุนทำหนังเรื่องแรกของเขา “The VVitch” (2015) หนังสยองขวัญทุน 4 ล้านเหรียญฯ ที่กลายเป็นหนังฮิตทำเงินไปกว่า 40 ล้านเหรียญฯ แถมนักวิจารณ์ยังชมเปาะว่าเป็น “ความหวังใหม่ของวงการหนังสยองขวัญ”
ปีนี้ “โรเบิร์ต เอกเกอร์ส” กลับมาอีกครั้งกับหนังที่ท้าทายกว่าเดิม “The Lighthouse” หนังที่เขาขอใช้ทุนสร้างเท่าเดิม และใช้นักแสดงหลักแค่ 2 คนคือ “วิลเลม เดโฟ” และ “โรเบิร์ต แพตทินสัน” เอกเกอร์สยังทำหนังสยองขวัญเหมือนเดิม แต่หนังสยองของเขาก็ไม่เหมือนหนังสยองของชาวบ้าน มันอึดอัดกว่า กดดันกว่า รบกวนจิตใจมากกว่าจะสร้างความบันเทิง
เอกเกอร์สเกิดและโตในแถบนิวอิงแลนด์ (6 รัฐทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนักเขียนเรื่องสยองขวัญ 2 คนคือ “เอชพี เลิฟคราฟต์” และ “สตีเวน คิง”
“มองเผินๆ นิวอิงแลนด์ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอก แต่มันก็มีอะไรบางอย่างที่ชวนขนลุกอยู่ไม่น้อย” เอกเกอร์สอธิบายว่าทำไมทั้ง “The VVitch” และ “The Lighthouse” ถึงใช้ฉากหลังเป็นนิวอิงแลนด์ยุคโบราณ
“คุณจะได้ยินตำนานพื้นเมืองเรื่องแม่มด เรื่องมนุษย์หมาป่าอยู่ตลอดเวลา” เอกเกอร์สเล่า “หลายอย่างในหนังก็สะท้อนความรู้สึกที่ผมมีในวัยเด็ก”
เอกเกอร์สบอกว่าเขาชอบหนังสยองขวัญ แต่เขาปฏิเสธที่จะทำหนังสยองขวัญแบบที่คนอื่นๆ ทำกัน
“ผมทำในสิ่งที่ผมรู้สึกว่าผมกลัว ผมดูหนังเยอะมาก เพื่อดูว่าคนทำหนังเก่งๆ ทำฉากน่ากลัวๆ ออกมาอย่างไรบ้าง และผมก็เลือกมาใช้ในหนังของผมเอง”
เขายอมรับว่า “The VVitch” นั้นเครียดเกินไป “ผมเลยพยายามทำให้ ‘The Lighthouse’ มีอารมณ์ขันมากกว่าเดิม” แต่กลายเป็นว่าอารมณ์ขันร้ายๆ ของเขานั้น ทำให้ “The Lighthouse” กลายเป็นหนังที่แปลกประหลาดจนคนดูหลายคนอธิบายความรู้สึกไม่ถูก
“The Lighthouse” ถ่ายด้วยฟิล์มขาวดำ และใช้เลนส์แบบเดียวกับที่ถ่ายหนังในยุค 30 (เมื่อเกือบ 100 ปีก่อน) เพราะต้องการภาพที่ “โบราณ” จริงๆ เอกเกอร์สพยายามออกแบบฉาก มุมกล้อง การตัดต่อ และออกแบบเสียง… ในแนวทางที่หลุดไปจากความคาดหวังของผู้ชม
“ผมต้องการให้หนังรบกวนจิตใจคนดูสุดๆ ไปเลย”
“The Lighthouse” จะรบกวนจิตใจคนดูแค่ไหน จิตจะกระเจิดกระเจิงอย่างไร ต้องมาพิสูจน์ในโรงภาพยนตร์ด้วยตนเอง ตั้งแต่ 16 มกราคมนี้เป็นต้นไป เฉพาะที่โรงภาพยนตร์ “House สามย่าน” เท่านั้น (ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ – MRT สถานีสามย่าน)
ดูรอบฉายและซื้อตั๋วได้ที่ www.housesamyan.com และทางแอปฯ House Cinema