“เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต ครั้งที่ 43” (2018 Toronto International Film Festival – TIFF) สิ้นสุดไปแล้วเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (6-16 ก.ย. 61) พร้อมกับการประกาศผลผู้ได้รับรางวัลในสาขาต่างๆ โดยภายในงานภาพยนตร์ดราม่าที่สร้างมาจากเค้าโครงเรื่องจริงอย่าง “Green Book” ได้กลายเป็นม้ามืดที่ทุกคนล้วนต้องจับตาในทันทีเมื่อสามารถคว้า “รางวัลขวัญใจมหาชน” (People’s Choice Award) มาครอบครองไว้ได้สำเร็จ พร้อมกวาดคำชมจากทุกสื่อใหญ่มาแล้วอย่างท่วมท้น 100% บนเว็บไซต์รวมคำวิจารณ์ชื่อดังอย่าง Rotten Tomatoes
สำหรับการคว้ารางวัลภายในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโตนี้ยังส่งให้ “Green Book” ได้กลายเป็นตัวเก็งในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีรางวัลออสการ์ที่กำลังจะมาถึงไปเป็นที่เรียบร้อยด้วยเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ภาพยนตร์ที่เคยคว้ารางวัลขวัญใจมหาชนในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต รวมทั้งสามารถคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์มาแล้วได้แก่ “Chariots of Fire” (1981), “American Beauty” (1999), “Slumdog Millionaire” (2008), “The King’s Speech” (2010) และ “12 Years a Slave” (2013) หรือแม้กระทั่งรางวัลขวัญใจมหาชนในปีก่อนๆ อย่าง “La La Land” (2016), “Three Billboards Outside Ebbing, Missouri” (2017) ล้วนแล้วแต่มีบทบาทสำคัญด้วยการคว้ารางวัลในสาขาใหญ่จากเวทีออสการ์ด้วยกันทั้งสิ้น
“Green Book” คือผลงานที่นำแสดงโดยสองนักแสดงฝีมือคุณภาพ “วิกโก มอร์เทนเซน” ผู้เข้าชิงสองรางวัลออสการ์จาก “Eastern Promises” (2007) และ “Captain Fantastic” (2016) ร่วมด้วย “มาเฮอร์ชาลา อาลี” เจ้าของรางวัลออสการ์นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก “Moonlight” (2017) เล่าถึงเรื่องราวของสองคู่หูต่างขั้วที่จับพลัดจับผลูตระเวนเดินทางไปทั่วตอนใต้ของอเมริกาด้วยกัน “โทนี ลิป” (วิกโก มอร์เทนเซน) พี่ล่าขาใหญ่เชื้อสายอิตาเลียน-อเมริกันจากย่านบรองซ์ในนิวยอร์กต้องมาเป็นคนขับรถให้ “ดอน เชอร์ลีย์” (มาเฮอร์ชาลา อาลี) นักเปียโนคลาสสิกผิวสีระดับโลก ระหว่างที่เขาออกเดินสายขึ้นแสดงในยุค 60 สิ่งเดียวที่นำทางทั้งคู่คือ “สมุดปกเขียว” ที่บอกสถานที่ที่เป็นมิตรกับคนผิวสี พวกเขาต้องฝ่าทั้งกำแพงแห่งสีผิว ภัยอันตรายต่างๆ เช่นเดียวกับน้ำใจจากเพื่อนมนุษย์ในการเดินทางครั้งสำคัญนี้
“Green Book” มีกำหนดเข้าฉายให้คอหนังเมืองไทยร่วมพิสูจน์ความยอดเยี่ยมไปพร้อมกัน เร็วๆ นี้ ในโรงภาพยนตร์