“Evil Does Not Exist” เป็นผลงานเขียนบทและกำกับเรื่องใหม่ของ “ริวสุเกะ ฮามากุจิ” ผู้กำกับ “Drive My Car” (หนังออสการ์ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม 2022) เขากำลังจะพาผู้ชมเข้าไปสัมผัสแง่มุมอันละเอียดอ่อนและซับซ้อนอีกครั้ง โดยครั้งนี้ไม่ได้พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคนด้วยกัน แต่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
หนังคว้ารางวัล “รองชนะเลิศ” (Grand Jury Prize) จาก “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส ครั้งที่ 80” (Venice International Film Festival 2023)
เดิมทีผู้กำกับ “ริวสุเกะ ฮามากุจิ” ตั้งใจทำหนังสั้นความยาวไม่เกินครึ่งชั่วโมง ถ่ายภาพวิถีชีวิตของคนที่อยู่บนหมู่บ้านเนินเขาโดยไม่มีบทพูด เพื่อใช้เป็นภาพเคลื่อนไหวประกอบการแสดงดนตรีสดของ “เอย์โกะ อิชิบาชิ” (เคยทำดนตรีประกอบให้กับ “Drive My Car” มาก่อน) แต่เมื่อถ่ายไปเรื่อยๆ เขาก็เริ่มให้ตัวละครพูด และเรื่องราวก็พัฒนาขึ้นเป็นหนังยาว เพราะฉะนั้นหนังจึงมี 2 เวอร์ชันด้วยกันคือ “ฉบับหนังยาว” เรื่อง “Evil Does Not Exist” นี้ และ “ฉบับหนังสั้น” ที่ไม่มีบทพูดเรื่อง “Gift” โดยทั้งสองเรื่องจะไม่ใช้ฟุตเทจซ้ำกัน
หนังถ่ายทำในพื้นที่ทางตะวันออกของจังหวัดนากาโนะ ห่างจากโตเกียวไปราว 2 ชั่วโมง ที่ซึ่งธรรมชาติยังไม่ถูกรบกวนจากความเจริญมากนัก
ผู้กำกับฮามะกุจิให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่คิดว่าตนเองจะประสบความสำเร็จขนาดนี้กับ “Drive My Car” (2021) แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกดดันเท่าใดนัก “ก่อนที่ผมจะทำ ‘Evil Does Not Exist’ ผมตั้งใจอยู่ก่อนแล้วว่างานชิ้นต่อไปผมอยากทำอะไรที่แตกต่างจากที่เคยทำมา ทำสิ่งที่สำคัญต่อชีวิตของผม และมันก็ออกมาอย่างที่ผมต้องการ”
ผู้กำกับยังเล่าให้ฟังอีกว่าปกติแล้วเขามักเขียนบทสนทนาก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อทำความเข้าใจเรื่องราวที่จะทำเป็นหนังและเพื่อเข้าใจความคิดของตัวละคร จากนั้นเขาจะคิดเรื่องภาพเป็นอย่างสุดท้าย แต่กับ “Evil Does Not Exist” นั้นเริ่มต้นคนละแบบกัน “ผมไม่สามารถใช้บทพูดเป็นตัวตั้งต้นได้อีก ผมจำเป็นต้องใช้ภาพเป็นแกนในการเล่าและตรึงความสนใจจากผู้ชม ให้ภาพเป็นตัวเล่นหลักในหนังเรื่องนี้”
“ฮิโตชิ โอมิกะ” ผู้รับบทนำของเรื่องไม่เคยต้องแสดงหนังมาก่อน (นอกจากร่วมเข้าฉากเล็กๆ น้อยๆ) หน้าที่หลักของเขาคือเป็น “ผู้จัดการกองถ่าย” (เขาเคยเป็นผู้จัดการกองถ่ายของ “Wheel of Fortune and Fantasy” (2021)) ฮามะกุจิเล่าว่า “เขาเป็นคนขับรถพาผมและ ‘โยชิโอะ คิตะกาวะ’ (ตากล้อง) ไปดูโลเคชันต่างๆ และบางทีเราก็ให้เขาไปยืนบล็อกช็อตด้วย จนผมสลัดภาพเขาไม่ออกเลยต้องขอให้เขามารับบทนี้ แต่ถึงแม้เขาจะไม่มีทักษะการแสดงเลย เขากลับแสดงออกได้ดีมาก เพราะเขามีจิตวิญญาณเดียวกับตัวละคร ตลกดีที่ตอนเราถ่ายเรื่องนี้ พอไม่อยู่หน้ากล้อง เขาก็ยังต้องไปทำงานเป็นผู้จัดการกองถ่ายให้เราเหมือนเดิม”
“Evil Does Not Exist” ได้รับคำชมอย่างมากตอนฉายใน “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส” ปีล่าสุด และส่วนหนึ่งของความฮือฮานั้นมาจากตอนจบที่ดูคลุมเครือ ผู้กำกับฮามะกุจิอธิบายไว้ว่า “ผมคาดหมายอยู่แล้วว่าอยากจบแบบให้ผู้ชมตีความกันเอาเอง ก่อนหน้านี้ผมเคยฉายรอบทดลองไปบ้าง และประหลาดใจกับการตีความหลายแบบของผู้ชม อันที่จริงผมมีคำอธิบายบางอย่างว่าเกิดอะไรขึ้นในฉากนั้นอยู่ในใจแล้ว แต่ผมอยากให้ทุกคนเพลิดเพลินไปกับมัน ลึกๆ แล้วผมชอบเวลาผู้ชมรู้สึกไม่แน่ใจกับภาพที่เกิดขึ้นในหนัง ผมคิดว่าความไม่แน่ใจและยากจะชี้ชัดนั่นแหละ คือเสน่ห์ของภาพยนตร์”
“Evil Does Not Exist ที่นี่ไม่มีปีศาจ” เปิดรอบพิเศษพิสูจน์ความยอดเยี่ยมก่อนใคร 8-13 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่ 1 ทุ่มเป็นต้นไป และฉายจริง 14 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์