นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักนักแสดงสาวสวยหน้าเด็กตลอดกาลอย่าง “พัคโบยอง” โดยเฉพาะแฟนๆ ซีรีส์ต้องรู้จักเป็นอย่างดี เพราะเธอถือเป็นนักแสดงมากความสามารถที่ฝากผลงานไว้มากมาย โดยเธอได้เข้าวงการตั้งแต่เด็กในภาพยนตร์สั้นเรื่อง “Equal” (2005) รวมถึงมีงานโฆษณาออกมาตั้งแต่ที่เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น ก่อนที่จะได้เดบิวต์ ทางการแสดงครั้งแรกในซีรีส์ไฮสคูล “Secret Campus” เมื่อปี 2006
ต่อมาก็มีผลงานการแสดงออกมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ “The King and I” (2007), “Star’s Lover” (2008) และที่โดดเด่นเป็นพิเศษเมื่อเธอแสดงนำในซีรีส์ชื่อดัง อย่าง “Oh My Ghost” (2015), “Strong Woman Do Bong-soon” (2017), “Abyss” (2019) และ “Doom at Your Service” (2021) ที่เธอถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและน่ารักสมจริงทำให้เธอได้รับการขนานนามเป็น “ราชินีโรแมนติกคอมเมดี้” นอกจากนี้เธอยังมีผลงานภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เช่น “A Werewolf Boy” (2012), “Hot Young Bloods” (2014), “On Your Wedding Day” (2018) ฯลฯ
และในปีนี้ แฟนๆ เตรียมพบกับผลงานเรื่องใหม่ของนักแสดงสาวสวยฝีมือดี “พัคโบยอง” ใน “Concrete Utopia คอนกรีต ยูโทเปีย วิมานกลางนรก” ภาพยนตร์มหาภัยพิบัติฟอร์มยักษ์ที่เปิดตัวถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศเกาหลีและเป็นตัวแทนหนังเกาหลีใต้เข้าชิง “รางวัลออสการ์ปี 2024” ในสาขา “ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม” หนังบอกเล่าเรื่องราวการเอาตัวรอดของผู้รอดชีวิตหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในเกาหลี และต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันใน “ฮวังกุงอะพาร์ตเมนต์” แหล่งพำนักเดียวที่ยังคงรอดพ้นจากหายนะ ซึ่งเธอขยายขอบเขตการแสดงกับบท “มยองฮวา” หญิงสาวที่ไม่เคยสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ไม่ว่าสถานการณ์จะบีบคั้นให้แสดงสันดานดิบของมนุษย์แค่ไหนก็ตาม เธอคือลูกบ้านที่คอยช่วยเหลือผู้อื่นให้รอดพ้นนรกไปด้วยกัน หลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ได้ทำลายทุกสิ่งเหลือเพียงซาก สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเธอคือการพยายามรักษาความเป็นคนของตัวเองเอาไว้จนถึงที่สุด และหาทางรอดไปพร้อมกับ “มินซอง” (พัคซอจุน) สามีสุดที่รัก มยองฮวาแบ่งปันห้องของเธอโดยไม่ลังเลให้กับคนนอกที่อาจจะหนาวตายนอกกำแพง ดูแลผู้บาดเจ็บทุกคนเสมือนเป็นพยาบาล แต่เธอเริ่มวิตกเมื่อเธอสังเกตพบความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคมลูกบ้าน
“พัคโบยอง” มอบความอ่อนโยนและความแข็งแกร่งพร้อมพลังบวกให้กับตัวละครนี้ผ่านทางสีหน้าและแววตาของเธอได้เป็นอย่างดี โดยเธอกลับมาแสดงภาพยนตร์อีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานกว่า 5 ปี เธอท้าทายความสามารถของตัวเองด้วยการรับบทในภาพยนตร์ภัยพิบัติเป็นครั้งแรก
“ฉันชอบเนื้อเรื่องและตัวละคร มันเป็นบทที่ฉันไม่เคยเล่นมาก่อน ฉันเป็นคนโทรหาผู้กำกับเองด้วยนะ ฉันมักถามตัวเองว่าถ้าฉันต้องไปตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ฉันจะทำยังไง ‘มยองฮวา’ เป็นคนมีเหตุผล เลือกที่จะทำเพื่อส่วนรวม เวลาพูดคำว่า ‘ภัยพิบัติ’ มันรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องใหญ่โตมากๆ แต่จริงๆ แล้วในแต่ละวันมีเรื่องให้ฉันใช้คำนี้ไม่น้อย เวลาเจอเรื่องที่รับมือไม่ทัน ฉันก็เรียกมันว่าเป็นภัยพิบัติเหมือนกัน ฉันว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย ไม่มีคนเลว แค่พวกเขาต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง”
เมื่อพูดถึงการร่วมงานกับ “อีบยองฮอน”
“ฉันร่วมโปรเจกต์นี้ 50 เปอร์เซ็นต์เพราะเนื้อเรื่อง ส่วนอีก 50 เพราะโอกาสที่ฉันจะได้ร่วมงานกับ ‘อีบยองฮอน’ มีหลายครั้งที่การแสดงของเขาทำให้ฉันอ้าปากค้าง ฉันถึงกับจดลงไดอารีส่วนตัวว่า ‘เธอเป็นนักแสดงที่ไม่เอาไหนเลยพัคโบยอง เธอควรเรียนรู้จากเขาซะ’ เขาเป็นนักแสดงมากประสบการณ์แบบไม่ต้องวอร์มอัปเลย มาถึงก็รับบทได้ทันที การได้เห็นการทำงานในแต่ละวันแอบทำให้ฉันจิตตกเหมือนกัน ฉันใช้เวลาพอสมควรเพื่อให้เข้าถึงตัวละคร ‘มยองฮวา’ มันมีอุปสรรคไม่น้อย มันทำให้ฉันรู้สึกว่ายังขาดอะไรไปอยู่เสมอ ‘อีบยองฮอน’ ทำได้ดีทุกครั้ง เขาไร้ที่ติจริงๆ การแสดงร่วมกับเขาทำให้ฉันคิดว่าตัวเองไม่เก่งพอ”
เธอเล่าถึงวิธีที่ใช้เพื่อก้าวข้ามความรู้สึกดังกล่าว
“ฉันบอกตัวเองเสมอว่าฉันไม่ใช่ ‘อีบยองฮอน’ การแสดงของเขาไร้ที่ติ แต่เขาเป็นคนเอื้อเฟื้อ มีน้ำใจ และพร้อมช่วยเหลือทุกคนไม่ว่าจะเป็นทีมงานหรือนักแสดง ด้วยความที่เขาเคย ร่วมงานกับผู้กำกับมาแล้วหลายครั้ง เขาคิดว่าผู้กำกับคงอยากได้อะไรใหม่ๆ เขามักถามผู้กำกับเสมอว่าอยากให้เขาลองปรับการแสดงตรงไหนบ้างไหม ฉันสนิทกับเขามากขึ้นหลังปิดกล้อง ด้วยธรรมชาติของบทของพวกเรา เราไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์มากนักในกอง ตัวละครของฉันกลัว ‘ยองทัก’ (ตัวละครของอีบยองฮอน) ฉันคิดว่ามันน่าจะช่วยเพิ่มความสมจริงให้การแสดงถ้าเราไม่สนิทกันเกินไปในชีวิตจริง”
เตรียมพบกับอีกหนึงความท้าทายครั้งใหม่ของนักแสดงสาวมากความสามารถ “พัคโบยอง” ในภาพยนตร์หายนะภัยพิบัติฟอร์มยักษ์ “Concrete Utopia คอนกรีต ยูโทเปีย วิมานกลางนรก” 31 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
