คิดว่าตัวเองกับ “ชินทานิ เรียวสุเกะ” ตัวละครที่เล่นมีอะไรที่เหมือนกันและมีผลต่อการรับบทยังไง
ตัวละครนี้ที่ผมเล่นมีแค่ในฉบับภาพยนตร์ครับ ผมเลยต้องคุยกับทางผู้กำกับ “ซึกาฮาระ” แล้วก็คิดไปด้วยว่าถ้าผมมีโอกาสได้คลุกคลีกับเพื่อนที่แถวบ้านเกิด ผมจะทำตัวยังไง สำหรับตัวละครชินทานิ ทุกคนก็น่าจะเห็นอกเห็นใจเขาง่ายอยู่นะครับ เพราะผมก็เล่นโดยให้เขามีความใกล้เคียงกับคนที่คอยดูแลผม
ในส่วนการแสดง ผมให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในกองมากครับ ผมเลยพยายามแสดงอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่าที่จะไปโฟกัสเรื่องการสวมบทเป็นเขา เรื่องตัวละครชินทานิ ผมก็คุยกับผู้กำกับว่าเธออยากให้ผมเล่นออกมายังไง ที่สำคัญเลยคือต้องให้ตรงกันข้ามกับคาซึจัง เพราะคาซึจะเป็นคนที่เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ในขณะที่ชินทานิค่อนข้างกระตือรือร้น แต่ถึงจะต่างกัน ต่างฝ่ายต่างก็ช่วยส่งเสริมให้ภาพยนตร์มันออกมาดีครับ
ได้แสดงกับนักแสดงรุ่นใหญ่ทั้งนั้นเลย รู้สึกเครียดหรือประหม่าบ้างไหม
ก่อนเข้าฉากผมเห็นชื่อนักแสดง มีแต่คนที่เก่ง ๆ ทั้งนั้นเลยครับ ทำเอาเครียดอยู่บ้างเหมือนกัน แต่พอเข้าฉากบรรยากาศในกองกลับดูอบอุ่นมาก ผมก็เลยหายเครียดไปได้บ้าง เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากเพราะได้ดูนักแสดงรุ่นใหญ่เขาแสดงกันอย่างใกล้ชิด ถึงกับจับตาดูแบบไม่รู้ตัวเลยครับว่าตัวเองจริงจังมาก (หัวเราะ)
พูดถึง “อาริมุระ คาสึมิ” ที่แสดงด้วยกันครั้งแรก
ผมเพิ่งจะได้แสดงกับเธอครั้งแรก ก็เลยคิดนั่นคิดนี่หลายอย่าง แต่เธอก็มาแสดงด้วยแบบไม่ถือตัวเลย จะว่าไปความสัมพันธ์ของเราก็คล้ายๆ กับของตัวละครคาซึกับชินทานิเลยนะครับ รู้สึกว่าเราค่อยๆ สนิทกันขึ้นโดยปริยาย ซึ่งมันก็มีผลกับการแสดงในเรื่องด้วย
อยากให้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยความรู้สึกแบบไหน
พอรับชมไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่าเรื่องนี้มีตอนที่ชวนให้เกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ ตอนที่ชวนให้ขบคิด รวมไปถึงตอนที่เราสามารถแทนตัวเองลงไปในนั้นได้ พอชมแล้วก็จะนึกถึงใครสักคนจนอยากให้ความสำคัญกับการให้เวลากับครอบครัว เพื่อน และคนที่เรารัก นอกจากนี้บรรดานักแสดงรุ่นใหญ่ก็แสดงกันได้อย่างสุดยอด ภาพที่ถ่ายออกมาก็สวยมากๆ ดูแล้วจะได้ค้นพบอะไรหลายๆ อย่างแน่นอนครับ
เตรียมหัวใจอุ่นไปกับ 4 เรื่องรัก 1 ร้านกาแฟใน “Café Funiculi Funicula เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น”
21 กุมภาพันธ์ ในโรงภาพยนตร์