เฉิ่ม (Midnight My Love)
เรื่องย่อ
“บัติ” (หม่ำ จ๊กม๊ก) โชเฟอร์ขับแท็กซี่กะดึก ผู้มีรสนิยมเฉพาะตัวชอบฟังแต่วิทยุช่อง AM ที่มีละครวิทยุและเพลงเก่า ใส่น้ำมันใส่ผมเรียบแปล้ ชอบอมโบตัน และกินต้มเลือดหมูเจ้าประจำทุกคืน บัติเหมือนมนุษย์ที่หลุด พ.ศ. ยืนยิ้มแปล้ท้าทายโลกปัจจุบันที่หมุนไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจ เพราะโลก AM ทำให้เขาหลุดไปอยู่ในโลกแห่งความหวังที่สวยงาม โลกที่ทำดีได้ดี โลกที่ไม่ต้องสนใจยุคสมัย แม้ใครจะมองว่าเขา “เฉิ่ม”
จนกระทั่งวันที่บัติได้พบและตกหลุมรัก “นวล” (วรนุช วงษ์สรรค์) หญิงสาวที่มีอาชีพหมอนวด ชายที่หมกมุ่นอยู่แต่ในโลกแห่งความฝันกับหญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้ายอมรับชีวิตจริงจึงเป็นเสมือนสิ่งที่เติมเต็มให้แก่กัน
ความผูกพันของทั้งสองที่ก่อตัวขึ้นมาพร้อมกับบททดสอบของชีวิต ความปรารถนาดีและโลกแห่งความฝันของบัติก็ถูกโลกแห่งความจริงสั่นคลอนจนทั้งคู่ต้องพรากจากกัน สุดท้ายปลายทางของทั้งสองจะลงเอยอย่างไร…
จากผลงานการกำกับของ “คงเดช จาตุรันต์รัศมี” ผู้เขียนบท-ร่วมกำกับ “สยิว” (2546) และเขียนบท “The Letter จดหมายรัก” (2547) กับการเผชิญหน้าของสองซูเปอร์สตาร์ชื่อดังแห่งเมืองไทยอย่างเจ้าพ่อตลกตลอดกาล “หม่ำ จ๊กม๊ก” กับการประกาศกล้ารับบทรักโรแมนติกอิ่มเอมใจเป็นครั้งแรก ปะทะสุดยอดนักแสดงหญิงชื่อดังจากวิกหมอชิต “นุ่น-วรนุช วงษ์สวรรค์” กับบทหมอนวดสาวครั้งแรกในชีวิตการแสดง ในเรื่องราวของหนุ่มแท็กซี่ผู้ปิดตัวอยู่กับโลกแห่งความฝันและความสวยงามของวิทยุ AM และสาวโรงนวดที่อยู่ในโลกของแสงสีและความเป็นจริงอย่างเดียวดาย เส้นขนานของ 2 โลกที่ต่างกันสุดทาง กลับมาบรรจบกันลงตัวแบบไม่น่าเชื่อ
กลางปี พ.ศ.2546 ระหว่างที่ “คงเดช จาตุรันต์รัศมี” ต้องขับรถกลับจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ ทุกวัน มีอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เขาบังเอิญเปิดวิทยุฟังเพลงจากสถานี AM และสะดุดเข้ากับเพลงไทยเก่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลง “ปองใจรัก” ของ “สุนทราภรณ์” หลังจากนั้นคงเดชเกิดอาการติดอยู่ในห้วงของการหวนระลึกอดีต โลกของวิทยุ AM ที่เคยฟังในอดีตเมื่อหลายปีก่อนถูกรื้อฟื้นกลับมาในความทรงจำและความรู้สึกอีกครั้ง ที่สำคัญคือมันไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยจากเมื่อ 20 กว่าปีก่อนที่เขาเคยฟังจนถึงทุกวันนี้ คงเดชรู้สึกว่าโลกของ AM ถูกฟรีซไว้ ณ ห้วงเวลานั้น มันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังคงเดิม ทั้งสปอตวิทยุ ละครวิทยุ เสียงประกอบที่ใช้ในละคร รวมไปถึงเนื้อหาและเรื่องราวที่ล้วนทำให้โลกในคืนวันอันแสนงามจากอดีตผุดขึ้นมาในความทรงจำอีกครั้ง โลกที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นโลกในอุดมคติ จากนั้นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกของ AM ได้นำแรงบันดาลใจมาสู่เขาต่อยอดออกมาเป็นเรื่องราวของคนขับแท็กซี่ที่หลงใหลในวิทยุ AM และหลงรักหมอนวดสาวที่เขาเพียรรับส่งทุกค่ำคืน ผู้กำกับคงเดชตั้งคำถามกับภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้ว่า
“ถ้าหากว่าเราค้นพบสิ่งที่เรารักแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะหยุดเวลาและหัวใจไว้ที่นั่น”
ด้วยความที่เป็นเจ้าโปรเจกต์และเขียนบทหนังออกมาได้อย่างรวดเร็ว เวลานั้นคงเดชมีหนังที่เขาอยากทำอยู่ 2-3 เรื่อง แต่เมื่อเขาส่งโปรเจกต์ผ่านไปยังโปรดิวเซอร์ ทางทีมโปรดิวเซอร์อันได้แก่ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว, สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์, ศิวาภรณ์ พงษ์สุวรรณ” เห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องที่น่าจะทำมากที่สุดในเวลานี้คือ “เฉิ่ม” โดยดูจากความน่าสนใจของเรื่องราวและการคัดเลือกนักแสดงนำซึ่งคือ “หม่ำ จ๊กมก” และ “วรนุช วงษ์สวรรค์” ซึ่งทั้งสองต่างเป็นซูเปอร์สตาร์ของไทย
อีกทั้งเนื้องานในหนังเรื่องนี้ เป็นแนวทางที่ทั้งคู่ไม่เคยทำมาก่อน หม่ำต้องพลิกบทบาทจากตลกหน้าตายมาสวมบทชีวิตคนขับแท็กซี่ที่มีโลกส่วนตัว แถมยังต้องมีฉากจูบอีกต่างหาก ส่วนนุ่น วรนุชนางเอกระดับแนวหน้าของวงการละครกับงานภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตแถมยังต้องรับบทหมอนวดสาว ระหว่างที่รอความคืบหน้าของโปรเจกต์ โดยที่คงเดชปรับปรุงบทภาพยนตร์ไปด้วยนั้น ทางศิวาภรณ์ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมโปรดิวเซอร์ได้รับการติดต่อจากผู้ประสานงานฝ่ายวัฒนธรรมของสถานทูตฝรั่งเศสว่า น่าจะส่งโปรเจกต์ที่มีอยู่เพื่อเข้าร่วมสัมมนา A Seminar for Young Producer (Produire au Sud) ใน “เทศกาลภาพยนตร์เมืองนองต์ ประเทศฝรั่งเศส” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปลายปี 2003 ปรากฏว่าโปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่อง “เฉิ่ม” หรือ “Midnight My Love“ ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมสัมมนาซึ่งเป็น 1 ใน 7 โปรเจกต์จาก 3 ทวีปคือ เอเชีย, แอฟริกา และ อเมริกาใต้
ในส่วนของทีมงานหลักของภาพยนตร์ คงเดชยังคงได้ร่วมงานกับทีมงานเดิม อาทิ ผ็กำกับภาพ “สยมภู มุกดีพร้อม” (สุดเสน่หา, แจ๋ว ฯลฯ) ซึ่งเคยร่วมงานกันมาตั้งแต่เรื่อง “สยิว” (2546), ผู้กำกับศิลป์ “ศิระ ตาลทอง” (สยิว, คน ผี ปีศาจ) ซึ่งเหมาะกับงานกำกับศิลป์แบบเหมือนจริง รวมทั้งคนตัดต่อ “ลี ชาตะเมธีกุล” ซึ่งเป็นคนตัดต่อรุ่นใหม่ที่ฝากผลงานไว้กับภาพยนตร์ชั้นนำมากมาย (สัตว์ประหลาด, สุดเสน่หา, สยิว, คืนไร้เงา, ชัตเตอร์ กดติดตาย) และที่น่าสนใจอีกส่วนหนึ่งคือ ทีมงานออกแบบเสียงซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีการ “เล่น” กับเสียงมาก ซึ่งทางผู้กำกับคงเดชประทับใจและสนุกกับทีมออกแบบเสียง “อุโฆษสตูดิโอ” เป็นอย่างมาก
และหลังจากการสัมมนาเสร็จสิ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เริ่มถ่ายทำทันทีในเดือนธันวาคม 2546 บทของ “สมบัติ ดีพร้อม” ถูกวางตัวเป็น “หม่ำ จ๊กม๊ก” แต่แรก ส่วน “นวล” นั้นถูกปรับเปลี่ยนและควานหาตัวนักแสดงหลายคนกระทั่งชื่อของ “นุ่น วรนุช” ถูกนำเข้ามายังที่ประชุม หลายคนรู้สึกว่าน่าสนใจ ไม่มีใครกังขากับการแสดงของเธอ กระทั่งได้พบตัวจริงและร่วมแสดงในหนัง นุ่นสามารถทำให้บทของนวลซึ่งเป็นบทของผู้หญิงธรรมดาที่ไม่มีอะไรน่าสนใจกลับดูน่าสนใจและเย้ายวนใจขึ้นมาได้อย่างประหลาด ทุกคนต่างทึ่งไปกับการแสดงของเธอ รวมทั้งบทสมบัติของหม่ำด้วยเช่นกัน ซึ่งเขาสามารถแสดงออกมาได้อย่างน่ารักและน่าสงสารอย่างคาดไม่ถึง
ปัญหาที่ตามมาก็คือ การจัดคิวแสดงให้ลงตัวระหว่างนางเอกและพระเอกคิวทองของหนัง เพราะทั้งคู่ต่างก็มีงานแสดงที่รัดตัว กระทั่งภาพยนตร์ได้ถ่ายทำเสร็จสิ้นลงและปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งขณะที่ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในระหว่างการตัดต่อก็ได้รับการทาบทามจากหลายเทศกาลภาพยนตร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ…
Midnight My Love คงเดช จาตุรันต์รัศมี คืนสิทธิ์ สุวรรณวัฒกี ปรัชญา ปิ่นแก้ว ลี ชาตะเมธีกุล วรนุช วงษ์สรรค์ ศิวะ แตรสังข์ ศิวาภรณ์ พงษ์สุวรรณ สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ สยมภู มุกดีพร้อม เฉิ่ม เพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา
นักแสดง
ผู้กำกับ
คงเดช จารุรันต์รัศมีรางวัล
รางวัล “ชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 14” (ประจำปี 2548) – ผู้กำกับยอดเยี่ยม (คงเดช จารุรันต์รัศมี), บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (คงเดช จารุรันต์รัศมี), นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (วรนุช วงษ์สวรรค์) / รางวัล “คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 3” – นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (วรนุช วงษ์สวรรค์) / รางวัล “STARPICS Thai Film Awards ครั้งที่ 3 (2548) – นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (วรนุช วงษ์สวรรค์)