ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 4 ศึกนันทบุเรง (The Legend of King Naresuan 4)
เรื่องย่อ
ภาพยนตร์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ในทุกบทตอนที่ผ่านมาตราบถึงตอนที่ 4 “ศึกนันทบุเรง” ล้วนมุ่งฟื้นอดีตอันเป็นวีรกรรมของวีรกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรอยุธยา ซึ่งได้ทรงประกอบพระราชภารกิจอันเป็นคุณูประการต่อแผ่นดินเป็นสำคัญ นั่นคือการประกาศเอกราชและการรักษาเอกราช
หลักฐานในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาและพงศาวดารพม่าระบุตรงกันว่า ภายหลังการประกาศเอกราชในปี พ.ศ. 2127 แล้วนั้น “พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง” ได้โปรดให้
กรีฑาทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาคืนเป็นเมืองขึ้นถึง 4 ครั้งคราว คือ
- “ศึกพระยาพะสิมและพระเจ้าเชียงใหม่เมงนรธาสอ” (พ.ศ. 2127-28)
- “ศึกนันทบุเรง” (พ.ศ. 2129)
- “ศึกมหาอุปราชา” (พ.ศ. 2133)
- “ศึกยุทธหัตถี” (พ.ศ. 2135)
ในศึกทั้ง 4 ครั้งตามกล่าว ศึกที่นำพาให้ราชอาณาจักรอยุธยาต้องเผชิญกับวิกฤติการณ์อันสุ่มเสี่ยงต่อการสิ้นสูญแผ่นดินคือ “ศึกนันทบุเรง” กระนั้นก็ดี เมื่อออกนามศึกนันทบุเรงจะมีคนไทยน้อยคนที่เคยได้ยินหรือระลึกได้ แต่หากระบุถึงวีรกรรมของ “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ไม่ว่าจะเมื่อครั้งออกปล้นค่ายพม่า จนเป็นที่มาของเรื่องพระแสงดาบคาบค่าย หรือการออกรบบนหลังอาชาจนสังหารลักไวทำมูทหารเอกข้างหงสาวดี ทั้งหมดเป็นวีรกรรมที่ล้วนอุบัติในคราวศึกนันทบุเรงทั้งสิ้น
ด้วยเหตุประการฉะนี้ “หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล” จึงมุ่งพลิกฟื้นวีรกรรมแห่งการปกป้องเอกราชของวีรกษัตริย์ผู้เรืองนามพระองค์นี้ในคราวศึกนันทบุเรงให้ปรากฏบนแผ่นฟิล์ม เพื่อจารึกเกียรติประวัติครั้งนั้นไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทย และเพื่อความสมบูรณ์ของมหากาพย์การสร้างตำนานสมเด็จพระนเรศวร
ภาพยนตร์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 4 ศึกนันทบุเรง” ดำเนินเรื่องตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์โดยนำแสดงที่มาแห่งศึกซึ่งยึดโยงจากผลการปราชัยของหงสาวดีในคราวศึกพระยาพะสิมและพระเจ้าเชียงใหม่ ความพ่ายแพ้ครั้งนั้น ทำให้พระเจ้านันทบุเรงทรงตระหนักในพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวรและในความเข้มแข็งของกองทัพอยุธยา จึงทรงตัดสินพระทัยยกทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์มาย่ำยีราชธานีสยามให้ราบเป็นหน้ากลองเพื่อเป็นการแก้มือและเพื่อรักษาซึ่งพระเกียรติยศมิให้เป็นที่ดูแคลนแก่เหล่าเจ้าประเทศราชในขอบขัณฑสีมาพุกามประเทศ
ภาพยนตร์ได้ตีแผ่ให้เห็นว่าศึกนันทบุเรงครั้งนั้นพม่ายกเข้ามาเป็นทัพกษัตริย์ กองทัพจึงมีความสมบูรณ์ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามกว่าทุกศึก หลักฐานข้างพม่าระบุว่ากองทัพพระเจ้านันทบุเรงประกอบด้วยช้าง 3,200 ทัพม้า 12,000 และไพร่ราบซึ่งมีจำนวนถึง 252,000 ในกองทัพนี้ยังมีนายทัพผู้ปรีชาสามารถตามติดมาร่วมรบ ไม่ว่าจะเป็น “พระมหาอุปราชา”, “มังจาปะโร” หรือแม้แต่ “ลักไวทำมู” ทหารกล้า
ภาพยนตร์ยังได้ตีแผ่ให้เห็นว่า กิตติศัพท์ความยิ่งใหญ่ที่น่าเกรงขามของทัพหงสาวดีที่ยกเข้ามาครั้งนั้นส่งผลให้เจ้าเมืองกรมการเมืองในขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักรอยุธยาข้างฝ่ายเหนือประหวั่นพรั่นพรึงถึงกับสมคบคิดกันแปรพักตร์เข้าสมานสมัครพระเจ้านันทบุเรงรบสมเด็จพระนเรศวร เป็นเหตุให้สมเด็จพระนเรศวรต้องเผชิญทั้งศึกนอกและศึกใน สถานการณ์กลับยิ่งบีบคั้นให้คับขันยิ่งขึ้นเมื่อ “พระศรีสุธรรมราชา” พระอนุชาเจ้ากรุงละแวกซึ่งขัดพระทัยสมเด็จพระนเรศวรแต่กาลก่อน ได้ยุยงให้พระเชษฐาตัดสัมพันธไมตรีกับอยุธยาจนเป็นเหตุให้ละแวกกลายมาเป็นหอกข้างแคร่ที่พร้อมจะกระหน่ำซ้ำเติมกรุงสยามให้ย่อยยับหากมีอันพลาดท่าเสียทีในศึกนันทบุเรง
ภาพยนตร์ได้ลำดับให้เห็นถึงภัยรอบด้านที่บีบรัดให้สมเด็จพระนเรศวรทรงต้องเผชิญศึกอย่างโดดเดี่ยว แต่เคราะห์กลับทับทวีคูณเมื่อสหายศึก เช่น “เลอขิ่น” และกำลังเมืองคัง ซึ่งร่วมกรำศึกกันมาแต่เบื้องต้นคิดถอนตัวตีจากเนื่องจากพิษรักระหว่างรบที่จบลงด้วยความร้าวฉานระหว่างเลอขิ่นกับ “พระราชมนู” ขุนศึกคู่พระทัย ความขัดแย้งด้วยเหตุส่วนตัวได้บานปลายกลายเป็นภัยของแผ่นดินในคราวคับขันเมื่ออยุธยาต้องเผชิญศึก ซึ่งประมาณได้ว่าเป็นมหาสงครามภายใต้โทสะจริตของพระเจ้านันทบุเรง
ด้วยข้อจำกัดที่รุมเร้าหลายประการ ผสานกับจำนวนไพร่พลที่เป็นรองหงสาวดีอยู่หลายขุม ทำให้สมเด็จพระนเรศวรทรงจำต้องปรับยุทธศาสตร์การตั้งรับทัพหงสาวดีเสียใหม่ โดยทรงใช้พระนครศรีอยุธยาซึ่งมีทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบเป็นฐานบัญชาการรบแต่เพียงแห่งเดียว โดยทรงส่งกำลังออกไปปักปราการ วางแนวป้องกันมิให้พม่าเข้ามาปลูกค่ายใกล้ขอบคูพระนครและกำแพงเมือง ทั้งยังแต่งกำลังเป็นกองโจรเข้าปล้นค่ายข้าศึกอย่างอาจหาญ
“หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล” ได้ทรงถ่ายทอดยุทธนาการครั้งสำคัญนั้นลงบนแผ่นฟิล์มได้อย่างเต็มตาตื่นใจโดยเฉพาะตอนที่สมเด็จพระนเรศวรทรงคาบพระแสงดาบขึ้นปีนปล้นค่ายพม่า ภาพห่าธนูเพลิงที่สาดซัดและกองทัพนับพันนับหมื่น ปีนพระองค์ขึ้นชิงค่ายทั้งหมด คือความอลังการที่ผู้ชมจะได้สัมผัสใน “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 4 ศึกนันทบุเรง” นี้
เมื่อศึกเหนือเสือใต้รุมกระหน่ำ ขุนนางผู้ใหญ่ขาดสามัคคีคิดคดคำนึงแต่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง จอมทัพผู้รั้งราชบัลลังก์และความอยู่รอดของแผ่นดินก็มาพลาดท่าต้องศาสตรากลางสมรภูมิศึก ยอดทหารเอกกรุงศรีถูกขุนศึกผู้ชาญณรงค์กว่าจับเป็นเชลย ชะตากรรมกรุงศรีอยุธยาและสมเด็จพระนเรศวรจะลงเอยฉันใด เชิญร่วมเป็นประจักษ์พยานในภาพยนตร์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 4 ศึกนันทบุเรง”
King Naresuan 4 The Legend of King Naresuan 4 จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ ฉัตรชัย เปล่งพานิช ชลัฏ ณ สงขลา ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ ดอม เหตระกูล ดิลก ทองวัฒนา ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ นพชัย ชัยนาม นภัสกร มิตรเอม ปราบต์ปฏล สุวรรณบาง พร้อมมิตรโปรดักชั่น พันเอก วินธัย สุวารี พันโท คมกริช อินทรสุวรรณ พันโท วันชนะ สวัสดี ศึกนันทบุเรง สมชาติ ประชาไทย สรพงษ์ ชาตรี หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล อินทิรา เจริญปุระ เกรซ มหาดำรงค์กุล