เรื่องย่อ

หาก “ความตาย” เป็นสิ่งที่พราก “ชีวิต” ของคนๆ หนึ่งไปจากโลก “ความรัก” ก็คงเป็นปาฏิหารย์ชุบ “ชีวิต” ของคนๆ หนึ่งให้กลับมาบนโลกนี้อีกครั้ง เหมือนดัง “ฉัตรทอง มงคลทอง” ที่ “ความตาย” ไม่อาจพราก “ความรัก” ของเขาที่มีต่อเสียงเพลงและวงดนตรีของเขาได้เลย

คณะลูกทุ่ง “ฉัตรทอง มงคลทอง” วงดนตรีที่ขับกล่อมบทเพลงให้กับแฟนเพลงชาวใต้มาเป็นเวลานาน มีหัวเรือใหญ่คือ “ฉัตรทอง” (เอกชัย ศรีวิชัย) ที่ปลุกปั้น ก่อตั้งวงดนตรีนี้ขึ้นมาด้วยความรักที่มีต่อเสียงเพลงลูกทุ่งและความฝันที่ต้องการขับกล่อมบทเพลงให้แก่ผู้ฟัง เขาเปรียบเสมือนหัวหน้าของครอบครัวเล็กๆ แห่งนี้ เรียกได้ว่าทั้งดูแลชุบเลี้ยงให้ทั้งพระเดชพระคุณต่อลูกวงทั้งหมดด้วยความรักและการดูแล เป็นศูนย์รวมทุกอย่างของคนในวง พร้อมกับมีลูกน้องผู้จงรักภักดีอย่าง “เสนาะ” (โหน่ง ชะชะช่า) ที่ร่วมหัวจมท้ายกับเขามานักต่อนัก พร้อมจะตายแทนหัวหน้าวงที่เขารักยิ่งได้  สีสันของวงดนดนตรีฉัตรทองถูกเติมเต็มจากลูกวงที่ต่างมาจากคนละทิศคนละสาย ไม่ว่าจะเป็น “ราตรี” (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) นักร้องสาวพราวเสน่ห์ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความฝัน ขวัญใจแฟนเพลงน้อยใหญ่, “แก้ว” (สุธา กาละมิตร์) เด็กที่ฉัตรทองเก็บมาเลี้ยง ฝันว่าซักวันหนึ่งจะเป็นเหมือนดั่งฉัตรทอง, “แหว๋ว” (ส้มเช้ง ชะชะช่า) หัวหน้าแดนเซอร์ผู้จัดจ้าน ลีลาการเต้นเด่นเกินหน้าใครเสมอ ได้สามีเป็นตัวเป็นตนก็เพราะฉัตรทองเป็นเถ้าแก่ให้กับชายที่มาสู่ขอ ยังไม่รวมไปถึงเหล่าแบล็กเสตจที่หัวใจเกินร้อย ทั้งหมดต่างอยู่ด้วยกันเพราะความรักที่มีต่อเสียงเพลงลูกทุ่งและวงฉัตรทอง แม้ว่าวงดนตรีของพวกเขาจะค่อยๆ เสื่อมความนิยม ทำให้ฉัตรทองต้องบากหน้าเพื่อไปกู้ยืมเงินจาก “นายหัวกวง” (ดี๋ ดอกมะดัน) มาเพื่อเจือจุนวง ด้วยเงื่อนไขอันเจ็บปวดที่ว่าหากไม่ใช้เงินตามกำหนด วงดนตรีแห่งนี้จะต้องตกเป็นของนายหัวกวงทันที

แต่เมื่อโชคชะตาไม่เข้าข้างแถมยังเล่นตลกกับพวกเขา เป็นเหตุให้ฉัตรทองประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอย่างกะทันหัน!!!  แต่ความตายไม่อาจหยุดความรักความห่วงใยที่ ฉัตรทองมีต่อวงของเขา เขาจึงฟื้นขึ้นมาอีกครั้งลืมแม้กระทั่งความตาย

ท่ามกลางความโล่งใจของลูกวง มีเพียงเสนาะที่เฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของหัวหน้า จากสีหน้าที่ซีดราวกับไร้เส้นเลือด กลิ่นเหม็นที่นับวันจะโชยมากขึ้นทุกที จนเมื่อเสนาะได้ทราบความจริงจากพระผู้หนึ่งว่าฉัตรทองนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ด้วยความห่วงจึงทำให้วิญญาณไม่ออกจากร่าง แต่เมื่อเขามองกลับไปยังฉัตรทองที่กำลังต่อสู้กับโชคชะตาเพื่อกู้วงดนตรีกลับมา เสนาะจึงตัดสินใจจะเก็บเรื่องนี้ไว้ พร้อมกับหวังว่าน้ำยา “ฟอร์มาลิน” ที่เขาฉีดเข้าร่างกายให้ฉัตรทองจะแก้ไขความวุ่นวายนี้ได้ แต่แล้ว “ความลับก็ไม่มีในโลก” ด้วยความบังเอิญทำให้ความลับแตก ลูกวงทุกคนทั้งอึ้งและตะลึงกับสิ่งที่ได้รู้ ต่างคนก็กระจัดกระจายไปคนละทาง ใครเล่าจะมาร่วมวงดนตรีที่หัวหน้าวงเป็น “ผี” ไม่ว่าจะเป็นราตรีที่กลับเลือกเดินตามความฝันมากกว่าที่จะมาร่วมหัวจมท้ายกับวง ราตรีไปสมัครเป็นนักร้องค่ายอื่นที่ไม่ได้หวังแค่เพียงเสียงของเธอ แก้วเองก็กลับเป็นหนอนบ่อนไส้ให้กับวง เพียงแค่คำหลอกลวงว่าจะให้เป็นนักร้องจากนายหัวกวง  ระหว่างที่ฉัตรทองกำลังสูญเสียทั้งวงและลูกน้องที่เขารักไป มีเพียง “จอมใจ” (อโนชา กุลวงศ์) แฟนเพลงตัวจริงของฉัตรทองคอยเป็นกำลังใจให้

“ฉันรักเธอเท่าฟ้า ปรารถนาเธอยิ่งสิ่งใด…” เสียงเพลงของฉัตรทองที่เปรียบเสมือนความรักที่เขามีต่อวงดนตรีแห่งนี้จะดังกึกก้องอีกหรือเปล่า กับวงดนตรีที่บัดนี้หัวหน้าวงได้กลายเป็น “ฟอร์มาลินแมน” จะสามารถเรียกศรัทธาและความรักจากลูกวงและแฟนเพลงได้อีกหรือไม่ พบคำตอบและสีสันความสนุกประทับใจได้ใน “ฟอร์มาลินแมน รักเธอเท่าฟ้า”

บันทึกผู้กำกับ “ภาคภูมิ วงษ์จินดา” (Director’s Note)

แก่นเรื่องนี้คือใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ผมมองว่าคนสมัยนี้แสวงหาเพื่ออะไร ทุกอย่างล้วนเอาไปไม่ได้หากตายไปแล้ว ทรัพย์สมบัติก็เอาไปไม่ได้ การยึดติดในสิ่งต่างๆ หนังเรื่องนี้นำเสนอให้เห็นถึงเหตุของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรัก โลภ โกรธ หลงซึ่งจะแสดงออกผ่านทางตัวละคร “ฉัตรทอง” คือความโกรธ, “แก้ว” คือความรัก, ความโลภก็คือ “เฮียกวง” ส่วนความหลงก็มีตัวของ “แหว๋ว” ซึ่งเป็นเรื่องชู้สาว ก็เป็นการแบ่งไปตามตัวละครซึ่งตัวละครทุกตัวก็จะแก้ปัญหากันไปตามทิศทางของเขา แต่สุดท้ายทุกคนจะต้องหยุด ทำให้รู้ว่าเมื่อคุณละแล้วก็จะพบความสุข ซึ่งจะเห็นชัดมากในตัวของเอกชัย สุดท้ายก็ต้องยอมรับในสัจจธรรม ทุกคนต้องปล่อยวางเดินสายกลาง

ผมเป็น Film Maker มาตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตการทำงาน จวบจนกระทั่งถึงวันนี้เป็นเวลาร่วมสิบปี  เงินก้อนแรกที่ได้มาจากการทำงานก็มาจากการทำหนังไทย ผมถือว่าหนังไทยมีบุญคุณกับผม และเมื่อผมได้มีโอกาสเข้ามากำกับภาพยนตร์เรื่อง “ฟอร์มาลินแมน รักเธอเท่าฟ้า” มันจึงทำให้ผมรู้สึกกลัวและเกร็ง  กลัวว่าจะทำให้คนดูผิดหวังกับหนังไทย ผมถึงต้องทุ่มเทความรู้ความสามารถทั้งหมดที่มีอยู่ในหัวให้กับการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ทุกคัตทุกเฟรมที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ มันได้ผ่านสายตาของผมมาเกินร้อยครั้งเพื่อทำให้มันสมบูรณ์ที่สุดเมื่อต้องผ่านสายตาผู้ชมในครั้งแรก

แรงบันดาลใจที่ทำให้คิดทำภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดมาจากความสนใจในเรื่องราวของคนตายแล้วฟื้น ผมพยายามที่จะคิดหาคำตอบว่า ทำไมคนที่ตายไปแล้วถึงฟื้นขึ้นมา และคำตอบมันก็อยู่ในเรื่องนี้

สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นความโชคดีของผมในการนั่งเก้าอี้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องแรกก็คือผมได้ทีมงานและนักแสดงที่มีคุณภาพมากๆ ทุกคนล้วนมีความสามารถสูง พวกเขาได้มาแต่งเติมภาพในฝันของผมให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น วิธีกำกับการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ผมจะเลือกใช้การ Improvisation หรือการด้นสดๆ เพื่อจะได้การแสดงที่ดูเป็นธรรมชาติ-สมจริง จึงจำเป็นต้องใช้นักแสดงที่มีจินตนาการและความสามารถสูง ไม่ใช่ทำตามสั่งแต่นักแสดงจะต้องร่วมคิดร่วมจินตนาการไปกับผมด้วย เขาต้องเชื่อว่าเขาเป็นตัวละครในภาพยนตร์จริงๆ ซึ่งนักแสดงทุกคนก็ทำได้ดีเกินคาด

ถ้าจะเปรียบภาพยนตร์เรื่อง “ฟอร์มาลินแมน รักเธอเท่าฟ้า” เป็นอาหารจานหนึ่ง มันคงไม่ใช่แฮมเบอร์เกอร์, หูฉลาม, ปลาซาบะ, เนื้อย่างเกาหลี แต่มันเป็นข้าวมันส้มตำรสแซ่บ ที่มีทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เต็มครบทุกรสชาติถูกปากคนไทย

Formaline Man ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข ดี๋ ดอกมะดัน นิรัญ ช้างกลาง บาแรมยู บุญญาวัลย์ พงษ์สุวรรณ บุญส่ง นาคภู่ ปรัชญา ปิ่นแก้ว พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ ฟอร์มาลินแมน รักเธอเท่าฟ้า ภาคภูมิ วงษ์จินดา ภาวิณี วัฒน์รณชัย ลูกนก สุภาพร ศิวพร พันธรักษ์ ศุภกร ศรีสวัสดิ์ สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ส้มเช้ง สามช่า สุธา กาละมิตร สุธา กาละมิตร์ อโนชา กุลวงศ์ เจเน็ต เขียว เอกชัย ศรีวิชัย โชเล่ย์ ดอกกระโดน โหน่ง ชะชะช่า