ช่วงเวลาสำคัญที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการภาพยนตร์อินเดียได้บังเกิดขึ้น เมื่อ “ปายาล คาปาเดีย” (Payal Kapadia) ได้สลักชื่อของเธอไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ด้วยการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล “ผู้กำกับยอดเยี่ยม” ในงาน “ลูกโลกทองคำครั้งที่ 82” (Golden Globes Awards 2025) นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้กำกับชาวอินเดียได้รับเกียรตินี้เลยทีเดียว ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ถือเป็นการยกย่องฝีมือการกำกับที่โดดเด่นของเธอในภาพยนตร์เรื่อง “All We Imagine as Light” ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์อย่างล้นหลาม
ผลงานกำกับหนังยาวเรื่องแรกของผู้กำกับหญิง “ปายาล คาปาเดีย” เรื่องนี้ได้เข้าชิง 2 สาขาคือ “ผู้กำกับยอดเยี่ยม” และ “ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม” โดยหนังว่าด้วยความรักและความเหงาของหญิงสาวในมุมไบ ซึ่งเกรียวกราวมากตอนเปิดตัวที่ “เทศกาลหนังเมืองคานส์ 2024” เมื่อกลางปี และเป็นหนังที่ติด Top 10 ของนักวิจารณ์เกือบทุกสำนัก
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวความรัก ความโหยหา และความโดดเดี่ยวออกมาอย่างลึกซึ้งโดยมีฉากหลังเป็นความวุ่นวายในเมืองมุมไบ เล่าเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงสามคน ซึ่งเป็นพยาบาลสาวชาวมลยาฬัม (มะ-ละ-ยา-ลำ) สองคน ได้แก่ “ประภา” (คานี คูสรูตี) และ “อนุ” (ดีเวีย ประภา) รวมถึง “ปารวตี” (ชายา คาดัม) เพื่อนของพวกเธอ ผ่านการถักทอเรื่องราวอย่างประณีต ทั้งสามต้องเผชิญกับความซับซ้อนของชีวิต ความสัมพันธ์ และการฟันฝ่าปัญหาส่วนตัว
“All We Imagine as Light” ได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวางจากการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้งกินใจ งานภาพที่ดึงดูดสายตา และการสำรวจอารมณ์ต่างๆ ของมนุษย์อย่างลุ่มลึก ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นจากการคว้า “รางวัลกรังปรีซ์” (Grand Prix) อันทรงเกียรติในงาน “เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์” ปีล่าสุด มาครองได้สำเร็จ และการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง “รางวัลลูกโลกทองคำ” ครั้งนี้จึงยิ่งตอกย้ำสถานะของภาพยนตร์เรื่องนี้ในฐานะผลงานชิ้นเอกแห่งวงการภาพยนตร์
การได้รับการเสนอชื่อของ “ปายาล คาปาเดีย” นั้นมีความสำคัญหลายประการคือ
- การทลายข้อจำกัด: การเสนอชื่อนี้ถือเป็นการทำลายกำแพงที่ขวางกั้นผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอินเดียในเวทีระดับโลก และแสดงให้เห็นถึงพลังและศิลปะของภาพยนตร์อินเดีย
- การยอมรับในระดับสากล: การเสนอชื่อเข้าชิงครั้งนี้นำความสนใจจากสายตาผู้ชมทั่วโลกมาสู่ภาพยนตร์อินเดียนอกกระแส เปิดโอกาสให้เรื่องราวและเสียงที่หลากหลายได้รับการมองเห็นและยอมรับมากยิ่งขึ้น
- แรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่: ความสำเร็จของคาปาเดียกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้กำกับรุ่นใหม่ในอินเดีย กระตุ้นให้พวกเขาท้าทายขอบเขตและเดินตามวิสัยทัศน์ทางศิลปะของตนเอง
การเข้าชิงรางวัลในครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์อินเดียเลยทีเดียว นับว่าเป็นการเฉลิมฉลองพรสวรรค์ ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการเล่าเรื่องของผู้สร้างภาพยนตร์ชาวอินเดีย พร้อมทั้งสะท้อนให้เห็นถึงพลังของภาพยนตร์ที่สามารถก้าวข้ามพรมแดนและเชื่อมต่อกับผู้ชมทั่วโลก ความสำเร็จครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในเวทีโลกของภาพยนตร์อินเดีย และเปิดทางสู่อนาคตที่สดใสยิ่งกว่าในการเล่าเรื่องที่หลากหลายและสร้างสรรค์จากอินเดียอีกด้วย
“All We Imagine as Light ที่ตรงนี้ยังมีหัวใจ” พร้อมเปิดรอบพิเศษพิสูจน์ความยอดเยี่ยมตั้งแต่ 19-22 ธันวาคม รอบ 1 ทุ่ม ก่อนฉายจริง 25 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์