“มาซากิ สุดะ” นักแสดงเจ้าของรางวัล “นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม” จากเรื่อง “Wilderness” (2017) บนเวที “Japan Academy Prize ครั้งที่ 41″ เขาเป็นนักแสดงที่เฉิดฉายในผลงานภาพยนตร์มาแล้วมากมาย โดยปีที่แล้วเขารับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง “We Made a Beautiful Bouquet” (2021) ในปีนี้เขายังได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อกับบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง “A Hundred Flowers” ที่เขารับบทเป็น “อิซึมิ คาไซ” ลูกชายผู้พยายามฟื้นความจำของแม่ที่สูญเสียความทรงจำ เขาทำงานในค่ายเพลง อาศัยอยู่ในโตเกียวและลูกใกล้คลอดเต็มทีแล้ว แต่แล้ววันธรรมดาๆ ของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจากการที่แม่ของเขาเสียความทรงจำไป เขารับบทเป็นลูกชายที่ต้องเผชิญหน้ากับความทรงจำในอดีตที่ถูกผลึกเอาไว้ มีทั้งด้านอ่อนไหวและเข้มแข็ง
“มิเอโกะ ฮาราดะ” นักแสดงแนวหน้าผู้กวาดรางวัลมามากมาย เธอเคยฝากผลงานการแสดงผ่านภาพยนตร์ของผู้กำกับชื่อดัง อาทิ “อากิระ คุโรซาวะ”, “ยาสุโซะ มาสุมุระ” และ “คินจิ ฟุคาซาคุ” ฯลฯ ในภาพยนตร์เรื่องนี้เธอรับบทเป็น “ยูริโกะ คาไซ” แม่ผู้เสียความทรงจำของทุกสิ่งไป เมื่อเกิดเหตุการณ์หนึ่งทำให้ยูริโกะแม่เลี้ยงเดี่ยวผิดใจกับลูกชาย เธอใช้ความสามารถในการแสดงบทของแม่ที่พยายามจะไปแตะความลับที่อยู่ก้นลึกของความทรงจำของเธอในขณะที่เธอนั้นเสียความทรงจำอยู่
นอกจากนี้ยังได้นักแสดงชื่อดังมากความสามารถอย่าง “มาซามิ นางาซาวะ” รับบทเป็น “คาโอริ คาไซ” ภรรยาของอิซึมิที่ทำงานค่ายเพลงเดียวกันและกำลังจะคลอดลูกครั้งแรกในชีวิต และ “มาซาโตชิ นางาเสะ” รับบทชายที่รู้ “ความลับ” ของยูริโกะ และมีความเกี่ยวข้องกับ “เหตุการณ์” นั้นโดยตรง
ภาพยนตร์เรื่อง “A Hundred Flowers” ใช้การถ่ายทำโดยไม่แบ่งกล้องใดๆ เท่ากับว่าใช้กล้องหนึ่งถ่ายตั้งแต่เริ่มแสดงจนฉากนั้นเสร็จสิ้นทำให้ได้ภาพแบบไม่ขาดตอน
ความผิดปกติของ “ยูริโกะ” และความสับสนทางความคิดของเธอเป็นแกนหลักของเรื่องนี้ จึงใช้การบันทึกภาพนั้นเอาไว้ในหนึ่งคัต ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากสำหรับทั้งนักแสดงและฝ่ายผลิตภาพยนตร์ เป็นผลงานที่ใช้พิสูจน์ทั้งฝีมือการแสดงและฝีมือการถ่ายทำ
เช่นกันในส่วนของบทลูกชายอย่าง “อิซึมิ” มีฉากที่ต้องนึกถึงความทรงจำวัยเด็กที่ราวกับถูกสาปเอาไว้ การที่จะเก็บภาพนั้นให้ได้ในหนึ่งซีนนั้นมีผลต่ออารมณ์อย่างมาก ภาพยนตร์คือสื่อที่ใช้บันทึกเวลาเอาไว้ เราบันทึกการแสดงและบันทึกการถ่ายทำไว้จนเกิดเป็นภาพ
ผู้กำกับ “เกงกิ คาวามูระ” เลือกที่จะเผชิญหน้ากับการถ่ายทำภาพยนตร์ในแบบดั้งเดิม การเลือกถ่ายทำแบบ “หนึ่งซีน = หนึ่งคัต” เพื่อที่จะถ่ายทอดความทรงจำสุดท้ายให้ออกมางดงามที่สุด
(มาซากิ สุดะ) “ผมมีโอกาสได้พบและร่วมงานกับ ‘คุณเกงกิ คาวามูระ’ หลายครั้งแล้ว แต่ภาพที่เขาบินไปทั่วโลกเพื่อหาสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลามันช่างทำให้รู้สึกว่าเขาช่างมีชีวิตชีวา แต่ครั้งแรกที่ผมได้อ่านผลงานที่เขาเขียนและกำกับเองนี้ ผมตกใจเลยครับ มันเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กๆ จริงๆ เรื่องราวความทรงจำที่เลือนรางไปของแม่ลูกและครอบครัวที่ตอนผมอ่านนิยายครั้งแรกพอรู้ตัวอีกทีน้ำตาก็ไหลออกมา ผมหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะติดอยู่ในความทรงจำของคุณและทำให้วันพรุ่งนี้ของทุกคนดียิ่งขึ้นไป”
“A Hundred Flowers ให้รักพาแม่กลับมา” ตามหาความทรงจำพร้อมกัน 22 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างซับไทย: https://youtu.be/JRCFtfyd4HE
สัมภาษณ์พิเศษผู้กำกับ: https://youtu.be/pfI99AHXFw0