“แอนนา เคนดริก” ชื่อของนักแสดงสาวสวยคนนี้โลดแล่นอยู่ในวงการฮอลลีวูดมานานหลายปี เธอเริ่มต้นการแสดงเรื่องแรกในละครบรอดเวย์เรื่อง “High Society” ในบท “ดีนาห์” เมื่อปี 1998 ซึ่งส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล “Tony Award” ในสาขา “Best Featured Actress in a Musical”
หลังจากนั้นไม่กี่ปีต่อมาเธอก็มีผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง “Camp” (2003) การแสดงของเธอกลายเป็นที่น่าจดจำจนทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล “Best Debut Performance” จากเวที “Film Independent Spirit Award ครั้งที่ 19″ (2004) และ “Best Supporting Actress” บนเวที “Chlotrudis Awards ครั้งที่ 10″ (2004) กลายเป็นใบเบิกทางสู่การเข้าไปมีบทบาทในแฟรนไชส์ใหญ่อย่าง “Twilight” (2008-2011) และค่อย ๆ คว้าบทบาทสำคัญในภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมมากมายไม่ว่าจะเป็น “Up in the Air” (2009) ที่ส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม, “Scott Pilgrim vs. The World” (2010), “50/50″ (2011) และ “Pitch Perfect” (2012)
เดิมทีแล้วเคนดริกถูกวางตัวให้ทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์และรับบทนำในโปรเจกต์ภาพยนตร์ “Woman of the Hour” แต่ความยอดเยี่ยมและความน่าดึงดูดของบทภาพยนตร์ทำให้เธอตัดสินใจนั่งแท่นกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง
“เดิมทีแล้วฉันถูกวางตัวให้เป็นนักแสดงและเป็นโปรดิวเซอร์ค่ะ ฉันจำได้ว่าฉันพูดกับเพื่อนไปว่า ‘มันเจ๋งดีนะ เป็นหนังที่เยี่ยมเลย และบทก็ดีด้วย แต่ว่าฉันไม่ได้แสดงทุกฉาก เพราะงั้นงานคงไม่หนักมากเท่าไหร่’ เราใช้เวลาพัฒนาบทกันอยู่สองปี รู้ตัวอีกทีฉันก็ทุ่มเทให้กับหนังเรื่องนี้มากๆ ซะแล้ว คือปกติแล้วฉันจะโฟกัสกับแค่ตัวละครของฉัน แต่กับเรื่องนี้ฉันพบว่าฉันคอยถามทุกๆ คนเลยว่ารู้สึกยังไงเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ถามตั้งแต่โปรดิวเซอร์ไปจนถึงคนเขียนบทเลย จนกระทั่งพบว่าเรากำลังจะเริ่มถ่ายทำโดยไม่มีผู้กำกับ นั่นเลยทำให้เรามานั่งหากันว่าใครควรนั่งแท่นกำกับดี ใครที่จะเหมาะในการกำกับหนังเรื่องนี้ ซึ่งในขณะนั้นฉันมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในใจแต่ฉันก็พยายามที่จะปฏิเสธมันอย่างหนัก
ฉันปรึกษากับเพื่อนผู้กำกับคนหนึ่งที่ฉันไว้ใจและถามเขาว่าอยากกำกับหนังเรื่องนี้มั้ย หลังจากที่เขาอ่านบทแล้วเขาพูดกับฉันว่า ‘มันเป็นบทที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะ และก็มีบางอย่างที่ทำให้ฉันอยากจะทำหนังเรื่องนี้ แต่ฉันว่าเธอควรจะกำกับเองมากกว่า และฉันคิดว่าเธอพร้อมแล้วด้วย แปลกมากเลยนะเนี่ย ทำไมเธอถึงใช้เวลาคิดนานขนาดนี้’ คำพูดนั้นเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ และมันก็ได้ให้ข้อพิสูจน์บางอย่างจนทำให้ไม่กี่วันต่อมาฉันเลยตัดสินใจรับหน้าที่กำกับหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเองค่ะ”
“Woman of the Hour” ชนะรางวัล “ผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม” จาก “เทศกาลหนังปาล์มสปริง ครั้งที่ 35” (2024 Palm Springs International Film Festival) เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
นำแสดงโดย “แอนนา เคนดริก”, “แดเนียล โซวัตโต”, “โทนี เฮล” และเขียนบทภาพยนตร์โดย “เอียน แม็กโดนัลด์” ซึ่งสร้างขึ้นจากเรื่องจริงช็อกโลกในปี 1978 เมื่อ “ร็อดนีย์ อัลคาลา” ชายหนุ่มผู้เข้าร่วมรายการเกมโชว์หาคู่ “The Dating Game” และคว้าโอกาสทองได้ออกเดตกับสาวสวย “เชอรีล แบรดชอว์” โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าแท้จริงแล้วร็อดนีย์คือฆาตกรต่อเนื่อง!
หนุ่มโสดที่เธอเลือกจะพาไปรู้จักความโหดที่คาดไม่ถึง! “Woman of the Hour รู้ไหมใครโหด” พร้อมฉายไทย 17 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์