“The Secrets We Keep ขังแค้นบริสุทธิ์” ภาพยนตร์แนวทริลเลอร์สุดระทึกเรื่องราวแห่งการล้างแค้นของ “มาญา” (นูมิ ราเพซ) หญิงสาวชาวโรมาเนียที่เริ่มต้นชีวิตใหม่กับสามีในอเมริกาและต้องการหนีจากเหตุการณ์สะเทือนใจที่เคยเกิดขึ้นกับเธอจากน้ำมือของทหารเยอรมันในช่วงสงครามโลก แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่คิดเมื่อมีชายหนุ่มที่คล้ายกับอดีตทหารที่เคยทำร้ายเธอและน้องสาวมาอยู่แถวบ้าน ทำให้ความทรงจำแสนเจ็บปวดของเธอหวนคืนกลับมาอีกครั้ง เมื่อไม่มีหลักฐานมัดตัวคนร้ายได้ เธอจึงวางแผนลักพาตัวชายปริศนาผู้นี้เพื่อทวงคืนความแค้นและคาดคั้นความจริงจากชายผู้นี้ให้สาสม
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ “ไรอัน โควิงตัน” ผู้เขียนบทได้แรงบันดาลใจมาจากการที่ได้ดูเทปสัมภาษณ์หญิงสาวที่รอดมาจากค่ายกักกันเอาชวิตซ์–เบียร์เคเนา และดึงประเด็นของผู้หญิงที่เยียวยาตัวเองหลังผ่านเหตุการณ์ฝังใจจากสงครามว่าพวกเธอสร้างชีวิตใหม่หลังการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาตร์ได้อย่างไร โดยเล่าผ่านเรื่องราวของตัวละคร “มาญา” และได้ “ยูวัล แอดเลอร์” ที่แจ้งเกิดจากผลงานสุดระทึก “Bethlehem” (2013) และ “The Operative” (2019) มานั่งแท่นผู้กำกับภาพยนตร์
นอกจากนี้ “The Secrets We Keep” ยังได้โปรดิวเซอร์มือทองอย่าง “เกร็ก ชาปิโร” จาก “Zero Dark Thirty” (2012) และ “The Hurt Locker (2008) ร่วมกับ “ลอเรนโซ ดิ โบนาเวนทูรา” (The Meg, American Assassin) ที่มีประสบการณ์ทำหนังมากว่าสามทศวรรษมารับหน้าที่เป็นทั้งโปรดิวเซอร์และผู้อำนวยการสร้าง ซึ่งดิโบนาเวนทูราตัดสินใจสร้างเป็นหนังทันทีที่เขาได้อ่านบท
(ดิ โบนาเวนทูรา) “หนังเรื่องนี้เล่าความน่ากลัวในยุคนั้นในแง่มุมแบบที่ยังไม่เคยมีใครเล่ามาก่อน มันตั้งคำถามสำคัญ แต่ไม่พยายามมอบคำตอบที่ตายตัว มันกระตุ้นให้ผู้ชมถามตัวเอง แทนที่ตัวพวกเขากับสามตัวละครหลักว่าพวกเขาจะรับมือกับสถานการณ์ที่ปรากฏตรงหน้าอย่างไร การฆ่าเพื่อล้างแค้นถือเป็นความชอบทำหรือไม่ แต่ละตัวละครมีจุดจบที่ต่างจากจุดเริ่มต้นโดยสิ้นเชิง”
และบทบาทที่สำคัญศูนย์กลางของเรื่องคือ “มาญา” รับบทโดย “นูมิ ราเพซ” (What Happen to Monday) ซึ่งดิโบนาเวนทูราให้คำจำกัดความถึงการแสดงของเธอว่า
“นูมิมอบแพสชันให้กับงานทุกชิ้นที่เธอทำ เธอเป็นนักแสดงที่สามารถมอบความเปราะบางและความแข็งแกร่งให้กับตัวละคร สิ่งที่เธอทุ่มให้กับตัวละครนี้มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ”
ด้าน “โจเอล คินนาแมน” เผยว่าบทของเขาในเรื่องนี้ถือเป็นบทที่ยากที่สุดในชีวิตการแสดง มันหนักทั้งอารมณ์และร่างกายซึ่งเขายอมรับว่าต้องใช้ความอดทนพอสมควร
“ผมต้องนั่งโดนทรมาน 16 ชั่วโมงต่อวัน ผมต้องแบกรับอารมณ์กลับบ้านทุกวัน ยูวัลต้องการให้มันออกมาสมจริงที่สุด เวลาผมโดนมันก็ต้องมัดจริงๆ มัดปากก็มัดจริงๆ พอมองย้อนกลับไปเขาก็คิดถูกนะ แต่การนั่งอยู่ตรงนั้นให้เขาสั่งให้ทีมงานมัดผมให้แน่นขึ้น มันค่อนข้างทำใจยากจริงๆ ผมโมโหด้วยซ้ำนะบางที แต่พอเราถ่ายกันจบ ผมแทบจะอดทนร่วมงานกับเขาในหนังเรื่องต่อไปไม่ไหวเลย”
เมื่อความเจ็บปวดในอดีตกลับมาทวงถาม เธอจึงปลุกความแค้นกลับมาทวงคืน “The Secrets We Keep ขังแค้นบริสุทธิ์” ผลงานสุดเดือดเรื่องใหม่ของ “นูมิ ราเพซ” 8 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์