ร่วมย้อนรอย “เกมวิปริต” และ “กับดักสุดอำมหิต” ที่พร้อมทรมานเหยื่อจนลมหายใจสุดท้ายกับ “Saw X ชำแหละแค้น…เกมตัดตาย” ภาพยนตร์เขย่าขวัญที่ครองใจแฟนหนังสายเชือดมาอย่ายาวนาน ล่าสุดพร้อมพาทุกคนร่วมสัมผัสความสยองคูณสิบของ “กับดักหฤโหด” เซตใหม่จากฝีมือ “ฆาตกรจิ๊กซอว์” สุดวิปลาส การกลับมาของเจ้าของตำนานความผวาขนหัวลุก “จอห์น เครเมอร์” ที่รับบทโดยนักแสดงรุ่นเก๋า “โทบิน เบลล์” กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่าง “Saw” (2004) และ “Saw II” (2005) กำเนิดความแค้นครั้งใหม่ที่ทำให้เขาต้องสะสาง ทวงคืนอย่างเจ็บปวด และทรมานให้สาสม!

 

 

ตัวละคร “จอห์น เครเมอร์” ของคุณในภาคนี้

“จอห์น” เป็นวิศวกรโยธาและสถาปนิกมากว่า 40 ปี สิ่งที่ผมพบว่าน่าสนใจเกี่ยวกับเขา คือเขาสนใจทั้งด้านปรัชญา, วิทยาศาสตร์ หรือแม้กระทั่งเทววิทยา จอห์นเป็นนักอ่าน ฉลาด และที่เหนือผู้อื่นได้คือเขากล้าลงมือทำ ไม่เหมือนเราหลายคนที่ได้แต่บ่นไปวันๆ โดยที่ไม่ยอมลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง เขากล้าทำ ไม่ว่าคุณจะชอบวิธีของเขาหรือไม่ก็ตาม มันเป็นงานของผมที่ต้องทำให้ผู้ชมอยู่ข้างเขา ให้ผู้ชมเข้าใจวิธีคิดของเขา

 

แล้วผลงาน “กับดัก” ในภาคนี้ล่ะ

“กับดัก” เหรอ “จอห์น” ไม่ได้มองมันเป็นกับดัก เขามองมันเป็นการทดลอง ผมเข้าใจนะว่าทำไมคนอื่นถึงคิดแบบนั้น เพราะมันชวนสยองจะตาย แต่การที่เขาเปิดโอกาสให้เหยื่อทุกคนได้เอาชนะมัน มันจึงไม่ใช่กับดักร้อยเปอร์เซ็นต์

 

 

หนังเรื่องนี้อยู่จุดไหนในไทม์ไลน์แฟรนไชส์ “Saw”

ในบางมุม “จอห์น” ก็เหมือนนักมายากล บางทีสิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ได้เป็นไปตามนั้น สมมติว่าเหตุการณ์ที่คุณเห็นใน “Saw 3” เกิดขึ้นจริง เราเลยต้องกำหนดช่วงเวลาในภาคนี้เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ภาคนี้เกิดขึ้นระหว่างหนัง “ภาคแรก” และ “ภาคสอง”

 

ช่วยพูดถึงตัวละคร “อแมนดา ยัง” หน่อย

“อแมนดา” (ชอว์นี สมิท) เป็นลูกศิษย์ของ “จอห์น” และเช่นเดียวกับลูกศิษย์ทั่วไป คือพวกเขาต้องการซึมซับวิชาของอาจารย์ตั้งแต่พื้นฐาน ซึ่ง “อแมนดา ยัง” ก็ทำเช่นนั้น ก่อนหน้านี้เธอผ่านการทดสอบของจอห์นมาได้ อย่างที่เห็นใน “Saw” ภาคแรก ผมไม่แน่ใจว่าคุณรู้ความเป็นมาของอแมนดาไหม เอาเป็นว่าเธอเคยติดยา ชีวิตของเธอเจอทางตัน จอห์นเป็นคนมอบชีวิตใหม่ให้เธอ เธอตอบแทนด้วยการเป็นลูกมือเขา เธอเหมือนเป็นแขนขาให้จอห์น

 

การทำงานกับ “ชอว์นี สมิท” ที่กลับมารับบทเป็น “อแมนดา” อีกครั้ง

“ชอว์นี สมิท” เธอเป็นคนให้กำเนิดตัวละครนี้ตั้งแต่ภาคแรก เธอคือส่วนสำคัญของแฟรนไชส์ เหมือนกับที่ “อแมนดา” เป็นส่วนสำคัญในชีวิต “จอห์น” เราทำงานได้เข้าขากันมาก

 

 

การทำงานกับ “เควิน กรูเทิร์ต” ผู้กำกับของภาคนี้

“เควิน” ผู้กำกับภาคนี้เรียกได้ว่าเขาผูกพันกับแฟรนไชส์นี้มานาน เขาเป็นคนตัดต่อภาคแรก เขาเป็นคนสร้างสไตล์เฉพาะตัวให้กับแฟรนไชส์ เขากำกับเองก็หลายภาค ไม่มีใครรู้จักจักรวาลนี้ดีเท่าเขาแล้ว ผมเคยร่วมงานกับเควินมาก่อนที่จะเล่นภาคแรก แต่ผมมาได้รู้จักเขาจริงๆ ก็ตอนทำ “Saw X” ผมว่าเขากับผมเรามีอะไรเหมือนกันหลายอย่าง เขารู้ตัวดีว่าต้องการอะไร การเป็นนักตัดต่อมาก่อนทำให้เขารู้ว่าต้องถ่ายอะไร มันเหมือนเขาตัดต่อในหัวไปก่อนแล้วซึ่งมันช่วยให้การทำงานราบรื่นมาก

 

“Saw X” มีอะไรที่ทำให้มันโดดเด่นจากภาคอื่น

มันบอกเล่าเรื่องราวที่จะทำให้ผู้ชมได้ฉุกคิด มันมีประเด็นลึกซึ้ง เราจะได้เห็น “จอห์น เครเมอร์” ในช่วงที่เปราะบางที่สุดในชีวิต บอกได้เลยว่ามันมีอะไรนอกเหนือจากความระทึก หวาดเสียว และปริศนาอย่างที่คุณเคยชินจากภาคที่ผ่านๆ มา

 

ร่วมเป็นสักขีพยานการกลับมาของ “จิ๊กซอว์” พิสูจน์ความระทึกสุดสยองยกกำลังสิบใน “Saw X ชำแหละแค้น…เกมตัดตาย” 28 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์