ชำแหละไทม์ไลน์ “จักรวาลเกมตัดตาย” เตรียมพร้อมก่อนสยองขั้นสุดกับ “Saw X” 28 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 ชายแปลกหน้าสองคนตื่นขึ้นมาในห้องโดยที่จำไม่ได้ว่ามาที่นี่ได้อย่างไร ไม่นานพวกเขาก็ค้นพบว่าได้ตกเป็นเหยื่อของเกมอำมหิตที่ออกแบบโดยฝีมือของฆาตกรต่อเนื่องผู้ฉาวโฉ่ที่ชื่อ “จิ๊กซอว์”

 

แต่ถ้าคุณยังไม่คุ้นเคยกับแฟรนไชส์ภาพยนตร์สุดสยองอย่าง “Saw” (2004-2023) ซึ่งเป็นตระกูลหนังที่มีความซับซ้อนทางการเล่าเรื่อง และการลำดับเหตุการณ์ในแต่ละภาคก็ไม่ต่อเนื่องกัน อ่านถึงตรงนี้อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีไปก่อน เพราะในบทความนี้เรากำลังจะบอก “วิธีดูหนังตระกูล Saw” ตามลำดับเหตุการณ์และตามวันเข้าฉายให้คุณได้เข้าใจเพื่อเตรียมพร้อมก่อนดู “Saw X ชำแหละแค้น…เกมตัดตาย” ที่กำลังจะเข้าฉายในไทย 28 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

 

ก่อนอื่นเลย “แฟรนไชส์ Saw” เกิดขึ้นได้อย่างไร ภาพยนตร์เรื่อง “Saw” เริ่มต้นจากไอเดียง่ายๆ มันเป็นผลงานหนังสยองขวัญทุนต่ำเมื่อปี 2004 โดย “เจมส์ วาน” ที่ตอนนั้นยังเป็นเพียงนักทำหนังหน้าใหม่ เนื้อเรื่องเล่าถึงชายสองคนที่ถูกขังไว้ในห้องน้ำโสโครก ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ทั้งโลกได้รู้จักวายร้ายโรคจิตที่มีสมญานามว่า “จิ๊กซอว์”

 

ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา “แฟรนไชส์ Saw” ก็มีทั้ง “ภาคต่อ” และ “ภาคแยก” (Spin-Off) ปล่อยออกมาอีกมากถึง 9 เรื่อง และถ้าคุณอยากดู “Saw” ตามลำดับเหตุการณ์ บทความนี้กำลังจะบอกวิธีคุณ

 

1) อันดับแรกเริ่มจาก “Saw IV” ภาคที่เป็นรากของเรื่องราวทั้งหมด ออกฉายในปี 2007 เราได้รู้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในศูนย์บำบัดเป็นฝีมือของขี้ยาที่ชื่อว่า “เซซิล อดัมส์” ทำให้ “จิลล์ ทัก” ภรรยาของจอห์นแท้งลูก ไม่นานหลังจากนั้น เซซิลกลายมาเป็นเหยื่อคนแรกของ “จอห์น เครเมอร์” เป็นการถือกำเนิดสมญานาม “ฆาตกรจิ๊กซอว์” ของเขา

 

2) “Saw” ภาคแรกปี 2004 ผลงานออริจินัลโดยผู้กำกับ “เจมส์ วาน” ผู้ให้กำเนิดและวางรากฐานให้ทั้งแฟรนไชส์ อย่างไรก็ตามฉากแฟลชแบ็กเฉลยว่านี่ไม่ใช่กับดักชิ้นแรกของ “จอห์น เครเมอร์” หรือที่รู้จักกันในนาม “จิ๊กซอว์” เชื่อหรือไม่ว่า ณ จุดนี้เครเมอร์มีลูกศิษย์แล้วถึงสองคนคือ “อแมนดา ยัง” (ชอว์นี สมิท) และ “มาร์ก ฮอฟฟ์แมน” (คอสตาส แมนดีเลอร์) อันที่จริงถ้าคุณกล้าและจิตแข็งพอที่จะดู “Saw” ภาคแรกจนจบ คุณน่าจะอยากไปต่อที่ “Saw II”

 

3) “Saw X” ที่กำลังจะเข้าฉายบ้านเราปลายกันยายนนี้ เรื่องราวในภาคนี้เกิดขึ้นระหว่าง “ภาค 1” และ “ภาค 2” เมื่อ “จอห์น เครเมอร์” ที่กำลังเจียนตายจากเนื้องอกในสมองได้พบว่ามีแพทย์กลุ่มหนึ่งในเม็กซิโกมีปาฏิหาริย์สามารถหาทางรักษาชีวิตเขาได้ แต่แล้วเขากลับพบว่าการรักษาเป็นแค่เรื่องหลอกลวงเพื่อหวังเงิน แพทย์กลุ่มนี้เป็นเพียงแก๊งต้มตุ๋นที่ไม่ได้รู้เลยว่าเหยื่อรายนี้วิปลาสแค่ไหน! ความแค้นครั้งนี้ทำให้เขาต้องสะสางให้สาสมในเกมคร่าชีวิตที่มีบททดสอบสุดวิปริตที่สร้างจากมันสมองและน้ำมือของต้นฉบับอย่าง “จอห์น เครเมอร์” เป็นเครื่องมือ

 

4) ใน “Saw II” (2005) “ดอนนี วาห์ลเบิร์ก” รับบทเป็นนักสืบ “เอริก แมตทิวส์” รวบตัว “จิ๊กซอว์” เพื่อตามตัว “แดเนียล แมตทิวส์” ลูกชายของเขา “Saw II” เกิดขึ้นหลังจากภาคแรกหนึ่งปีโดยประมาณ ในภาคนี้เราได้เห็นเหยื่อแปดคนติดอยู่ในบ้านกับดักที่ปล่อยแก๊สพิษออกมาอย่างช้าๆ ทุกอย่างดูเหมือนเกิดขึ้นตามเวลาจริง แต่เรามารู้ทีหลังว่าเหตุการณ์ในบ้านกับดักเกิดขึ้นหลายวัน ก่อนที่ “จอห์น เครเมอร์” จะโดนควบคุมตัว

 

5) “Saw III” ภาคนี้ออกฉายในปี 2006 มะเร็งของ “จอห์น เครเมอร์” เริ่มลุกลามจนควบคุมไม่ได้ ทางรอดของเขาแทบจะเป็นศูนย์ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงในตอนจบของเรื่อง ถือเป็นการปิดฉาก “ฆาตกรจิ๊กซอว์” ลงอย่างสมบูรณ์

เรารู้ว่า “จอห์น เครเมอร์” รอดจากการพยายามฆ่าตัวตาย ซึ่งนั่นจุดประกายให้เขากลายมาเป็น “จิ๊กซอว์” เป้าหมายของเขาชัดเจนนั่นคือมอบโอกาสที่สองให้คนหลงผิดเหมือนกับที่เขาเคยได้รับ

ไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์ใน “Saw III” และ “Saw IV” ในปี 2007 เกิดขึ้นพร้อมกัน เป็นเหตุการณ์หกเดือนให้หลังเหตุการณ์ใน “Saw II” สำหรับแฟนๆ ของแฟรนไชส์นี้ไทม์ไลน์ของมันเริ่มจะสับสนปนเปกันไปหมด แต่จะว่าไปมันก็เป็นข้อดีกับแฟรนไชส์ เพราะมันช่วยเพิ่มปริศนาให้น่าติดตามยิ่งขึ้น

 

6) “Saw V” ที่ออกฉายในปี 2008 เลือกเล่าเรื่องราวแบบคู่ขนานไปกับเหตุการณ์ในภาค 3 ในฉากเปิดของ “Saw V” เราได้รู้ว่ากับดักมรณะลูกตุ้มติดใบมีดที่หั่นร่างเหยื่อที่เป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม “เซ็ท แบ็กซ์เตอร์” ขาดครึ่ง เป็นฝีมือการสร้างของ “มาร์ก ฮอฟฟ์แมน” ล้วนๆ มันถูกทำให้ดูเหมือนเป็นผลงานของ “จิ๊กซอว์” เมื่อ “จอห์น เครเมอร์” รู้ว่ากับดักชิ้นนี้เป็นผลงานของฮอฟฟ์แมน เครเมอร์จึงเชิญเขามาเป็นลูกศิษย์

 

7) “Saw VI” ออกฉายในปี 2009 เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ใน “Saw V” ไม่กี่วัน เราได้รู้ว่าผู้บริหารบริษัทประกันสุขภาพ “วิลเลียม อีสตัน” เป็นเหยื่อหลักของภาคนี้ อีสตันปฏิเสธคำร้องเคลมประกันสุขภาพของ “จอห์น เครเมอร์” ที่อาจช่วยรักษาชีวิตของเขา แต่ “Saw VI” ยังไม่หมดแค่นั้น เรายังได้รู้ว่า “อแมนดา ยัง” มีส่วนต้องรับผิดชอบที่ทำให้ภรรยาของเครเมอร์แท้งลูก ฮอฟฟ์แมนจึงใช้ข้อมูลนี้แบล็กเมลอแมนดา และฆ่า “ดร.ลินน์ เดนลอน” ใน “Saw III”

ถ้าคุณผ่านความหฤโหดของ “Saw VI” มาได้ ก็ไปต่อที่ “Saw VII” (Saw 3D / Saw: The Final Chapter) กันได้เลย

 

8) “Saw VII” หรือในอีกสองชื่อว่า “Saw 3D” และ “Saw: The Final Chapter” ออกฉายในปี 2010 เกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังเหตุการณ์ใน “Saw VI” เพราะแผลบนหน้าของ “มาร์ก ฮอฟฟ์แมน” ที่โดนกับดักหมีหายแล้ว แต่หน้าของเขาก็เละไม่เบา เหยื่อหลักของ “Saw VII” คือ “บ็อบบี้ เดเกน” อันโด่งดัง เพราะโม้ว่ารอดชีวิตมาจากเกมของจิ๊กซอว์ระหว่าง “ภาคแรก” กับ “ภาคสอง”

เราได้รู้ว่า “ดร.ลอว์เรนซ์ กอร์ดอน” รอดตายจากภาคแรกด้วยการจี้แผลจากการตัดขากับท่อเพื่อห้ามเลือดก่อนจะหมดสติไป “จอห์น เครเมอร์” พบร่างเขา ก่อนจะชวนให้เขาเป็นลูกศิษย์อีกคน กอร์ดอนทำงานเบื้องหลังในทุกๆ ภาค แต่ยังไม่จบ เรายังคงเดินทางสู่วงกตแห่งความอำมหิตไม่จบสิ้น

 

9) “Jigsaw” ออกฉายในปี 2017 เรื่องราวตามติดสองนักสืบ “แบรด ฮัลโลแรน” และ “คีท ฮันต์” เพราะพบศพเหยื่อทั่วเมือง แต่ละรายจบชีวิตแบบศพไม่สวย เมื่อการสืบสวนคืบหน้า หลักฐานชี้ไปที่ผู้ต้องสงสัยคนเดียวนั่นคือ “จอห์น เครเมอร์” แต่ติดปัญหาตรงที่เครเมอร์ตายไปแล้วเป็นสิบปี ดังนั้นนักสืบทั้งคู่จึงต้องตามหาคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ฆาตกรรมสุดสยองครั้งนี้ให้ได้

 

10) ปิดท้ายด้วย “Spiral: From the Book of Saw” ที่ออกฉายเมื่อปี 2021 หนังเกิดขึ้นไม่กี่ปีหลัง “Jigsaw” เรื่องราวของ “นักสืบเอเซเกล ซีก แบงก์ส” เขามักจะถูกเปรียบเทียบฝีมือกับอดีตตำรวจฝีมือระดับฉมัง “มาร์คัส แบงก์ส” พ่อของเขา ด้วยความที่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง เขาจึงต้องไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดโหดร่วมกับคู่หูหน้าใหม่อย่าง “นักสืบวิลเลียม เชงก์” แต่เรื่องราวกลับเลวร้ายขึ้น เมื่อนักสืบแบงกส์พบว่าเหยื่อของคดีฆาตกรรมทั้งหมดเป็นตำรวจ และรูปแบบการฆ่าก็สยดสยองเกินมนุษย์ ด้วยการเลียนแบบฆาตกรในตำนานอย่าง “จิ๊กซอว์” และยิ่งพวกเขาถลำลึกไปกับคดีมากเท่าไหร่ก็กลับพบกว่าตัวเองกำลังเดินสู่ “กับดักแสนวิปริต” อย่างเลี่ยงไม่ได้

 

 

เพื่อป้องกันคุณสับสนหลังจากข้อมูลมากมายของ “จักรวาล Saw” ทะลักเข้ามาในหัว เราขอ “สรุปลำดับไทม์ไลน์ในจักรวาล Saw” เป็นหัวข้อสั้นๆ เพื่อเป็นการทิ้งท้ายให้คุณได้เข้าใจได้ง่ายขึ้นดังนี้

 

ลำดับไทม์ไลน์ “จักรวาล Saw” (2004-2023)

  • Saw IV (เข้าฉายปี 2007)
  • Saw (2004)
  • Saw X (28 กันยายน 2023)
  • Saw II (2005)
  • Saw III (2006)
  • Saw V (2008)
  • Saw VI (2009)
  • Saw VII (Saw 3D / Saw: The Final Chapter) (2010)
  • Jigsaw (2017)
  • Spiral: From the Book of Saw (2021)

 

Saw X ชำแหละแค้น…เกมตัดตาย

Saw X ชำแหละแค้น…เกมตัดตาย

ร่วมย้อนรอย “เกมวิปริต” และ “กับดักสุดอำมหิต” ที่พร้อมทรมานเหยื่อจนลมหายใจสุดท้าย กับภาพยนตร์สยองขวัญขึ้นหิ้งภาคล่าสุด “Saw X” หลังจากสร้าง “จักรวาลความหฤโหด”...

รายละเอียดภาพยนตร์

Featured News