4 เรื่องราว 1 ความรัก เสียงเพลงจากเธอจะเปลี่ยนทุกสิ่ง! "ชุนจิ อิวาอิ x ไอนะ ดิ เอนด์" นำ "Kyrie คิริเอะ เพลงรักคือเธอ" เปิดตัวอันดับ 2 Box Office ญี่ปุ่น ร้องเพลงรักพร้อมกัน 18 มกราคม 2024 ในโรงภาพยนตร์

หลังจากการรอคอยอันเนิ่นนานนับจาก “Swallowtail Butterfly” (1996) และ “All About Lily Chou-Chou” (2001) ภาพยนตร์เรื่องใหม่ “Kyrie คิริเอะ เพลงรักคือเธอ” จากการร่วมงานกันของผู้กำกับ “ชุนจิ อิวาอิ” และนักดนตรี “ทาเคชิ โคบายาชิ” ก็ออกมาสู่สายตาผู้ชม โดยคนเดียวที่พวกเขาตั้งใจเลือกให้มารับบทนำคือ “ไอนะ ดิ เอนด์” นักร้องและสมาชิกเก่าของ “BiSH” วงพังก์ในตำนานที่ไม่ใช้เครื่องดนตรีใดๆ เลย โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นการรับบทนำครั้งแรกของเธอในบท “คิริเอะ” นักดนตรีสาวข้างทางผู้ซึ่งไม่สามารถพูดได้ แต่มีความสามารถด้านการร้องเพลงที่โดดเด่น และเธอก็ได้สร้างเพลง 6 เพลงในภาพยนตร์เรื่องนี้ เสียงอันน่าอัศจรรย์ของเธอจะดังก้องอยู่บนจอภาพยนตร์

“Kyrie คิริเอะ เพลงรักคือเธอ” เล่าเรื่องราวความรัก ชีวิต และความฝันของ 4 ตัวละครที่นอกจาก “ไอนะ ดิ เอนด์” แล้ว หนังยังได้นักแสดงมาแรงอย่าง “โฮคุโตะ มัตสึมุระ” (วง SixTONES) รับบท “นัตสึฮิโกะ” ชายหนุ่มผู้พยายามหาคู่หมั้นที่หายไปในอดีต, “ฮารุ คุโรกิ” รับบทเป็น “ฟุมิ” คุณครูชั้นอนุบาลผู้ปกปิดอดีตและความลับบางอย่างไว้ในใจ และ “ซึสึ ฮิโรเสะ” รับบท “อิ๊กโกะ” หญิงสาวลึกลับผู้ละทิ้งชื่อและอดีตของตัวเองพร้อมมอบเสียงให้คิริเอะในฐานะผู้จัดการของเธอ

หนังถ่ายทำใน 4 เมืองสำคัญของญี่ปุ่นอย่าง “อิชิมากิ, โอซาก้า, โอบิฮิโระ และ โตเกียว” ฉากต่างๆ ล้วนเกี่ยวข้องกับผู้กำกับอิวาอิ การเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ของทั้งสี่คน ผู้ที่เข้ามาและจากไป ในช่วงเวลาแสนเหงา เสียงเพลงที่ร้องออกมาจากหัวใจของคิริเอะผ่านเรื่องราว 13 ปีของพวกเขาในการตามหาความรักและตัวตน เพลงที่จะบอกคุณว่ายังมีใครบางคนรอคุณอยู่ที่ตรงนั้นไหม

“ชุนจิ อิวาอิ” เริ่มต้นอาชีพของเขาในวงการที่เกี่ยวข้องกับมิวสิกวิดีโอและโฆษณาทีวี และมุ่งมั่นในอุตสาหกรรมภาพยนตร์มาตั้งแต่ปี 1988 เซนส์ในการสร้างภาพเคลื่อนไหวที่โดดเด่นของเขาดึงความสนใจของผู้คนได้มากซึ่งมักจะถูกเรียกว่า “โลกของอิวาอิ” เขาได้กำกับละครทีวีอย่าง “Fireworks, Should We See it from the Side or the Bottom?” (1993) ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัล “Directors Guild of Japan New Directors” และภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องแรกของเขาอย่าง “Love Letter” (1995) ทำให้เกิดแฟนๆ จำนวนมากในประเทศแถบเอเชีย ตามมาด้วยการผลิตร่วมระหว่างญี่ปุ่น-สหรัฐฯ-แคนาดาในเรื่อง “Vampire” (2011), แอนิเมชันเรื่อง “The Case of Hana & Alice” (2015) และภาพยนตร์จีนเรื่อง “Last Letter” (2018) สร้างความสำเร็จในอาชีพของเขาไปทั่วโลก ผลงานที่น่ายกย่องอื่นๆ ได้แก่ “Swallowtail Butterfly” (1996), “All About Lily Chou-Chou” (2001) และ “Last Letter” (เวอร์ชันญี่ปุ่น / 2020)