นอกจากการเปิดตัวสองเสือร้ายทั้ง “เสือมเหศวร” (มาริโอ้ เมาเร่อ) และ “เสือดำ” (โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) ที่จะมาเป็นคู่ปรับคนสำคัญของ “ขุนพันธ์” (อนันดา เอเวอริงแฮม) ในภาพยนตร์แอ็กชันฮีโร่ไทยฟอร์มยักษ์แห่งปี “ขุนพันธ์ 3″ นี้แล้ว อีกสองคนที่สร้างความโดดเด่นและน่าสนใจไม่แพ้กันก็คือนักแสดงเจนใหม่ที่มีฝีมือน่าจับตาอย่าง “เอม-ภูมิภัทร ถาวรศิริ” และ “ฟ้า-ษริกา สารทศิลป์ศุภา” ที่หากพูดถึงผลงานที่ผ่านมาของเขาและเธอ ผู้ชมก็จะคงคุ้นหน้าคุ้นตาและความสามารถอันหลากหลายของทั้งคู่เป็นอย่างดี งานนี้ไม่พ้นสายตาอันเฉียบคมของผู้กำกับมือฉมัง “โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ” ที่ดึงทั้งคู่มาร่วมโปรเจกต์นี้เพื่อสร้างสีสันความสนุกและทวีคูณความน่าดูยิ่งขึ้นไปอีก และแน่นอนว่าหลังจากได้ร่วมงานกันอย่างสมบุกสมบันแล้วก็สามารถตอบโจทย์ของผู้กำกับซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเลยทีเดียว
“‘เอม’ เป็น Rookie หน้าใหม่ที่น่าสนใจมากๆ ผมอยากร่วมงานกับน้องอยู่แล้ว เอมมีวิธีแสดงที่ดีมาก เขาแสดงเป็นตัวละคร ‘ทัตเทพ’ ที่เหนือความคาดหมาย เข้ามาเป็นบัดดี้กับ ‘ขุนพันธ์’ ได้ เอมจะมีเหลี่ยมการแสดงที่เรียกว่าไม่ยอมกัน รับรองว่าไม่เคยเห็นเขาในภาพลักษณ์แบบนี้มาก่อนแน่นอน ส่วนบทของ ‘สาวิตรี’ ที่เราอยากได้คนที่มีความอ่อนโยน ในขณะเดียวกันก็มีความแข็งแกร่ง ‘ฟ้า’ แสดงดีมาก สวยมาก มีเสน่ห์ สู้แล้วสู้อีก ไม่ว่าจะล้มลุกคลุกคลานยังไงก็ลุยเต็มที่ มีความเป็นนางโจรซึ่งต่อสู้ได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ตัวละครมีการแสดงหลายมิติ ซึ่งฟ้าก็ทำออกมาได้ดี” ผู้กำกับเผยความรู้สึก
หลังจากที่ “เอม-ภูมิภัทร ถาวรศิริ” ได้ฝากผลงานประจักษ์ต่อสายตาคนดู ไม่ว่าจะรับบทบาทไหนก็สามารถเข้าถึงตัวละครได้อยู่หมัดจนคนดูอินตามทุกเรื่อง ทั้งภาพยนตร์เรื่อง “นคร-สวรรค์” (2562), “ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” (2562), “One for The Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ” (2565) และซีรีส์เรื่อง “เด็กใหม่ ซีซัน 2” (2564) แน่นอนว่าเขาจึงกลายมาเป็นนักแสดงที่น่าสนใจสำหรับบทบาทของ “ร้อยเอกทัตเทพ” นายทหารเลือดใหม่ อนาคตไกล มือขวาของขุนพันธ์ กับภารกิจล่าสองเสือร้ายอาคมแกร่งกล้า
“ผมตัดสินใจเล่นเพราะโปรเจกต์นี้ทั้งหมด ผมรู้สึกว่าโปรเจกต์นี้มันน่าสนใจ ผมเองจากที่ได้ดู ‘ขุนพันธ์’ มาสองภาคแล้ว ผมรู้สึกว่าไม่มีใครทำแบบพี่โขมได้ และไม่มีงานไหนที่เหมือนขุนพันธ์ เป็นรสชาติที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์จริงๆ ถ้าขุนพันธ์เป็นแบทแมน ทัตเทพก็เป็นโรบิน เขาเป็นเหมือนคู่หูช่วยกันทำภารกิจเพื่อไปปราบสองโจร ตอนที่ทัตเทพได้เจอขุนพันธ์ครั้งแรก ได้รู้ว่าจะต้องมาร่วมภารกิจ มันคือฝันที่เป็นจริง เขาเติบโตมากับวีรกรรมและเรื่องเล่าของขุนพันธ์ ตั้งแต่เด็กขุนพันธ์คือไอดอล” นักแสดงหนุ่มมากความสามารถพูดถึงความน่าสนใจของบทนี้
ด้าน “ฟ้า-ษริกา สารทศิลป์ศุภา” ที่โชว์ฝีมือการแสดงภาพยนตร์มาแล้วในเรื่อง “ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” (2562) และ “วอน (เธอ)” (2563) ไม่เพียงแค่นั้นเธอยังโด่งดังจากการเป็นยูทูบเบอร์ด้านแฟชั่น ความงาม และไลฟ์สไตล์ที่มียอดผู้ติดตามมากกว่า 8 แสนบนช่อง @Fahsarika โดยในเรื่อง “ขุนพันธ์ 3″ นี้จะเป็นการพลิกบทบาทมาแสดงแอ็กชันเป็นครั้งแรกด้วยกับบท “สาวิตรี” หมอหญิงในชุมโจรที่พร้อมจะรักษาและหยิบปืนมาช่วยทุกชีวิตในเวลาเดียวกัน
“ตอนที่อ่านบท ฟ้ารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจมาก มีอุดมคติ มีอุดมการณ์ มีความคิดที่ดีและพร้อมสู้ มันเป็นอะไรที่ท้าทายและไม่ได้เจอประสบการณ์แบบนี้ในชีวิตจริงแน่นอน ทั้งอาชีพหมอ ทั้งในเรื่องสงครามการต่อสู้ แล้ว ‘พี่โขม’ ให้อิสระฟ้าได้ดีไซน์เรื่องคำพูดหรือความคิดของตัวละคร ‘สาวิตรี’ น่าจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่บู๊ขนาดนี้” นักแสดงหญิงรุ่นใหม่มากฝีมือเผยถึงบทบาทล่าสุด
การรวมตัวของทีมนักแสดงตัวท็อปหลากหลายเจนที่จะมาปล่อยพลังการแสดงน่าจับตา แอ็กชันสุดระห่ำ และเรื่องราวน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบในภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์แห่งปี “ขุนพันธ์ 3″ นี้ก็สามารถการันตีความน่าดูที่จะมอบทั้งความสนุกสุดเดือด มันส์กระจายไม่แพ้ภาคก่อนแน่นอน 1 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
