ซัมเมอร์นี้เตรียมพบกับการกลับมาเดือดอีกครั้งของสุดยอดนักฆ่าแห่งโลกภาพยนตร์ที่ผู้ชมทั้งโลกรอคอย “John Wick” ครั้งนี้ “คีอานู รีฟส์” กลับมาแอคชั่นเต็มสูบอีกครั้ง พร้อมพาคุณเข้าสู่โลกแห่งการฆ่าที่ลุยไม่ยั้ง หนีตายข้ามทวีปจากอเมริกาสู่โมร็อกโก คุณจะได้พบกับฉากสุดระทึกที่โหด มันส์ และท้าทายกว่าเดิม ฉีกทุกกฎแอคชั่นที่มีเพื่อสร้างสรรค์ฉากแอคชั่นใหม่หลากหลายสไตล์ท่ามกลางสถานที่ระดับโลก
เท่านั้นยังไม่พอ! พวกเขายังผสมผสานการต่อสู้หลากรูปแบบทั้งมวยไทย กังฟู ไปจนถึงซีลัตสไตล์อินโดนีเซีย ฯลฯ ที่แม้แต่ “คีอานู รีฟส์” ยังขอการันตีว่าภาพยนตร์มหากาพย์นักฆ่าเรื่องนี้ท้าทายร่างกายและจิตใจเขามากที่สุด! แอคชั่นทะเยอทะยานมากที่สุดเท่าที่เขาเคยผ่านมา นอกจากนั้น “แชด สตาเฮลกี้” ผู้กำกับยังขนทัพทีมงานระดับท็อปมาร่วมดีไซน์ภาพ ฉาก และการแอคชั่นอย่าง “แดน เลาสต์เซน” มือกำกับภาพดีกรีออสการ์จาก “The Shape of Water” และ “โจนาธาน ยูเซบิโอ” ผู้ออกแบบคิวบู๊จาก “Black Panther”
ดวลกระสุนกลางสถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัล
เริ่มต้นความมันส์กันในสถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กของนิวยอร์กกับฉากที่ “จอห์น วิค” ต้องปะทะกับหน่วยรบพิเศษที่บุกมาตะลุมบอนเพื่อฟันค่าหัวเขา ทีมงานบอกว่าพวกเขาอยากให้ภาพที่ได้ออกมายอดเยี่ยมที่สุด ซึ่งขณะถ่ายทำต้องทำงานแข่งกับเวลาที่จำกัดและผู้คนที่มาใช้บริการที่แกรนด์เซ็นทรัลตลอดเวลา
สู้ตัวต่อตัวกลางห้องสมุดประชาชนนิวยอร์ก
แลนด์มาร์กที่สองคือ “ห้องสมุดประชาชนนิวยอร์ก” ที่ผู้กำกับเผยว่าเขาเลือกที่นี่เพราะต้องการเสริมความอลังการขึ้นไปอีกระดับให้ภาคล่าสุดนี้ โดยจอห์น วิคจะต้องสู้ตัวต่อตัวกับนักฆ่ามือฉมัง ขณะที่เข้าไปเอาของสำคัญที่เขาซ่อนเอาไว้
ไล่ล่าไฮสปีดบนมอเตอร์ไซค์และหลังม้ากลางนิวยอร์กซิตี้
ฉากนี้ “จอห์น วิค” ต้องหนีการตามล่าจากเหล่านักฆ่าผ่านย่านบรูกลินและไชนาทาวน์ เรียกได้ว่าเป็นฉากสุดหินของ “คีอานู รีฟส์” เลยก็ว่าได้ เขาต้องซ้อมขี่ม้าและคิวบู๊เป็นเวลาหลายเดือน “แจ็กสัน สปีเดล” ครูฝึกและนักแสดงแทนบอกเราว่า “รีฟส์เล่นเองเกือบทั้งหมด ผมช่วยเล่นเฉพาะฉากที่ต้องอาศัยเทคนิคพิเศษหรือเสี่ยงตายเท่านั้น”
ปะทะ “ซีโร” คู่ปรับคนสำคัญที่แกลเลอรีกระจก
ฉากการปะทะกันระหว่าง “จอห์น วิค” กับ “ซีโรและทีมนินจาของเขา” ในแกลเลอรีกระจกเป็นฉากที่ท้าทายมากสำหรับนักแสดง “ยูเซบิโอ” ผู้ดีไซน์ฉากกล่าวว่า “เราสนุกเมื่อได้เล่นกับเงาสะท้อน ในฉากนั้นคุณเชื่อตาตัวเองไม่ได้เลย แถมเรายังมียอดฝีมือร่วมแสดงในฉากนี้ทั้งยายาน รูเฮียน และ เซเซป อาริฟ ราห์มาน จาก The Raid”
ดาคาสคอส (ซีโร) ก็ประทับใจฉากนี้ เขาบอกเราว่า “เขายอมรับว่าในฐานะนักสู้ ฉากกระจกมันน่าขนลุกมากนะ เพราะคุณแอบไม่ได้เลย คุณต้องตื่นตัวตลอดเวลา ตอนทำงานมันสนุกมาก และที่ดีไปกว่านั้นคือผลงานที่ได้มันออกมาเจ๋งสุดๆ”
หนีตายข้ามทวีปไปยังทะเลทรายซาฮารา ประเทศโมร็อกโก
ไฮไลต์ของภาคนี้หนีไม่พ้นการไล่ล่าข้ามไปยังทวีปแอฟริกาที่ “จอห์น วิค” หนีไปขอความช่วยเหลือจาก “โซเฟีย” สหายเก่า และ “ดิ เอลเดอร์” ดาไลลามะแห่งวงการนักฆ่าและเป็นบุคคลปริศนาที่มีส่วนสำคัญต่อชะตาของเขา โดยทีมงานและนักแสดงไปถ่ายทำกันถึงเมืองคาซาบล็องกาทางตะวันตกของโมร็อกโก
ผู้กำกับ “แชด สตาเฮลกี้” บอกไว้ว่า “ไอเดียที่จะถ่ายที่โมร็อกโกมาจากรีฟส์ เขาบอกว่าเขามองเห็นภาพจอห์น วิคกำลังไต่เนินทรายอยู่กลางทะเลทรายซาฮาราและภาพการต่อสู้ที่ดุดันในโมร็อกโก แต่พูดน่ะมันง่าย ถึงเวลาจริงๆ เรามีทั้งอาวุธ ทีมสตันต์แมนนับร้อยที่ต้องขนกันเป็นคันรถเพื่อไปถ่ายทำข้ามประเทศ ไม่มีใครการันตีเลยว่าประเทศเขาจะยินดีให้เราเข้าไป เราใช้ความพยายามหนักมากในการอธิบายให้ทางโมร็อกโกเข้าใจ ยิ่งไปกว่านั้นเรายังต้องรับมือกับพายุทะเลทรายที่พัดมาพังกองถ่ายยับเยิน และต้องต่อสู้กับอุณหภูมิที่สูงกว่า 100 องศาฟาเรนไฮต์”
ร่วมลุ้นสุดขั้วหัวใจไปกับชะตากรรมสุดท้ายของโคตรนักฆ่า “จอห์น วิค” ที่แรงกว่านรกข้ามทวีปจากนิวยอร์กสู่โมร็อกโก พร้อมรับความระห่ำบู๊เดือดระอุทุกองศาไปกับภาคต่อของหนังแอคชั่นฟอร์มเดือด “John Wick: Chapter 3 – Parabellum” 16 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
แฟนๆ จอห์น วิคเมืองไทยร่วมฟอลโลว์ติดตามทุกความเคลื่อนไหว พร้อมกิจกรรมมันส์ๆ เพียบกันได้แล้วทาง FB/JohnWickThailand