เป๊นระยะเวลากว่า 7 ปีที่ “The Hunger Games: Mockingjay Part 2” (2015) ปิดฉากเส้นทางการต่อสู้ของ “แคตนิสส์ เอเวอร์ดีน” สาวน้อยผู้มากับไฟเพื่อปลดปล่อยคนทั้งพาเน็มจากอำนาจของแคปิตอลที่ปกครองโดย “ประธานาธิบดีสโนว์” และยังเป็นบทสรุปของปรากฏการณ์ “เดอะฮังเกอร์เกมส์” ที่อยู่ในความทรงจำของแฟนภาพยนตร์ทุกคน รวมทั้งกลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือเบสต์เซลเลอร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาลด้วยการกวาดรายได้ทะลุ 3 พันล้านเหรียญฯ ทั่วโลก
พฤศจิกายนปีนี้ ถึงเวลาที่ประกายไฟแห่งการต่อสู้จะสาดแสงขึ้นอีกครั้งบนจอภาพยนตร์ “มงคลเมเจอร์” และ “ไลออนส์เกต” จุดสัญญาณถึงแฟนหนังทั้งโลกด้วยการปล่อย “โปสเตอร์แรกทรงพลังสุดขีด” ของ “The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes” (2023) ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวช่วง 64 ปีก่อนเหตุการณ์ใน “The Hunger Games” (2012) สู่เกมล่าชีวิตครั้งที่โลกไม่เคยเห็น โดยโปสเตอร์ได้เผยภาพการต่อสู้ระหว่าง “ซองเบิร์ดส” และ “อสรพิษ” ใจกลางดงดอกกุหลาบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของประธานาธิบดีสโนว์
“The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes” ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ติดโผต้องดูแห่งปีเรื่องนี้จะพาแฟนๆ ทั้งโลกร่วมเป็นพยานในการผจญภัยสุดพลิกผันของ “คอริโอเลนัส สโนว์” (ทอม บลายธ์) และสาวน้อยตัวแทนเขต 12 “ลูซี เกรย์ แบร์ด” (เรเชล เซกเลอร์) ในการแข่งขัน “เดอะฮังเกอร์เกมส์ ครั้งที่ 10” ซึ่งนับเป็นเกมล่าชีวิตครั้งที่จะทำให้ผู้คนทั้งพาเน็มต้องเผชิญกับชะตากรรมที่ไม่คาดฝันไปตลอดกาล
นับถอยหลังไปกับแฟนภาพยนตร์ทั้งโลก ลุ้นหาคำตอบไปด้วยกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับสโนว์ เกิดอะไรขึ้นกับพาเน็ม “The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes” พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์