เตรียมพบกับที่สุดแห่งปรากฏการณ์สะเทือนโลก การกลับมาของสุดยอดภาพยนตร์แฟรนไชส์อันดับ 1 ที่ทุกคนเฝ้ารอ กับการสร้างกระแส “ม็อกกิงเจย์” จนกลายเป็นผลงานที่ทรงอิทธิพลไปทั่วทุกพื้นที่ ทุบสถิติรายได้กว่าสามพันล้านเหรียญ พฤศจิกายนนี้ ถึงเวลาย้อนไทม์ไลน์กลับสู่เกมการแข่งขันที่โลกไม่เคยเห็นใน “The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes”
โดยภาพยนตร์จะพาทุกคนย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของเกมแห่งสงคราม 64 ปีก่อนการต่อสู้ของ “แคตนิสส์ เอเวอร์ดีน” ในการแข่งขัน “เกมล่าเกม ครั้งที่ 10” เกมที่เดินพันด้วยชีวิตของ “คอริโอเลนัส สโนว์” (ทอม บลายธ์) ทายาทคนสุดท้ายของตระกูลที่ล่มสลายจากสงครามในแคปิตอล เขาได้รับมอบหมายให้เป็นพี่เลี้ยง “ลูซี เกรย์ แบร์ด” (เรเชล เซกเลอร์) เครื่องบรรณาการจากเขต 12 ท่ามกลางความเป็นความตายของทั้งสอง สโนว์และลูซีต้องแข่งขันกับเกมล่าชีวิตที่คิดค้นโดย “ดร.โวลัมเนีย กอล“ (ไวโอลา เดวิส) เกมเมกเกอร์ที่อำมหิตที่สุดในประวัติศาสตร์ และ “คาสกา ไฮบอตทอม” (ปีเตอร์ ดิงเคลจ) บิดาแห่งฮังเกอร์เกมส์เป็นครั้งแรก ทั้งสองต้องสู้สุดเกมเพื่อต้านอำนาจจากเบื้องบนเพื่อพิสูจน์ให้ชาวพาเน็มรู้ว่า “ใครคือศัตรูที่แท้จริง ใครคืออสรพิษที่ซ่อนอยู่ในเกมนี้”
นอกจากกระแสสุดฟีเวอร์ตั้งแต่ที่โปรเจกต์ประกาศสร้าง ทีมนักแสดงก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่วงการภาพยนตร์โลกจับตามอง ด้วยการเปิดตัวสองนักแสดงนำรุ่นใหม่มาแรง “ทอม บลายธ์” (Robinhood) และ “เรเชล เซกเลอร์” นักแสดงสาวมากความสามารถจาก “West Side Story” (2021), “Shazam! Fury of the Gods” (2023) ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมือผู้ผ่านเวทีรางวัลมากมายอย่าง “ไวโอลา เดวิส” (The Help, The Suicide Squad), ปีเตอร์ ดิงเคลจ (Game of Thrones) และ “ฮันเตอร์ เชเฟอร์” นักแสดงและนางแบบทรานส์จาก “Euphoria” (2019)
11 ปีก่อน “แคตนิสส์” และ “พีต้า” จุดประกายการต่อสู้ทั่วทั้งโลก และในปีนี้ “สโนว์” และ “ลูซี” จะพาคุณย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นเพื่อฝ่าอารีนาเกมล่าชีวิตที่ไม่มีใครเคยเห็นพร้อมกันทั้งโลกใน “The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes” 15 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น