หลังจากสร้างความประทับใจแห่งยุคจากภาพยนตร์ระดับตำนาน “Forrest Gump” (1994) ที่ประสบความสำเร็จทั่วโลกทั้งด้านรายได้และรางวัล โดยสามารถคว้า “รางวัลออสการ์” ไปได้ถึง 6 สาขา (หนัง, ผู้กำกับ, บทดัดแปลง, นำชาย, ตัดต่อ, เทคนิคพิเศษ) จากการเข้าชิงทั้งหมด 13 สาขาแล้ว ล่าสุดกับผลงานรียูเนียนในรอบ 30 ปี ที่นำทั้งผู้กำกับ, ผู้เขียนบท และสองนักแสดงนำโคจรมาพบกันอีกครั้งใน “Here ที่นี่ นิรันดร” ภาพยนตร์ที่ร้อยเรียงเรื่องราวการเดินทางผ่านห้วงเวลาและความทรงจำหลากหลายยุคสมัยด้วยมุมกล้องเดียวตลอดทั้งเรื่อง

 

 

“มงคลเมเจอร์” ขอย้อนชมผลงานไอคอนิกของผู้กำกับ “โรเบิร์ต เซเม็กคิส”, มือเขียนบท “เอริก รอท” และสองนักแสดงนำ “ทอม แฮงส์” และ “โรบิน ไรต์” ที่เคยพา “กัมป์” และ “เจนนี” เข้าไปอยู่ในหัวใจของผู้ชมทั้งโลก ก่อนที่จะสัมผัสประสบการณ์ความมหัศจรรย์ครั้งแรกในโลกภาพยนตร์แบบ “หนึ่งมุมกล้อง เฝ้ามองทุกช่วงชีวิต” พร้อมกันต้นธันวาคมนี้

 

 

“โรเบิร์ต เซเม็กคิส” ผู้กำกับหนังที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางด้วยผลงานคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “Forrest Gump” ที่ไม่เพียงคว้ารางวัลออสการ์ผู้กำกับยอดเยี่ยม แต่ยังได้รับออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (รวมถึงอีก 4 สาขา) ด้วย โดยก่อนหน้านี้เขาร่วมเขียนบทและกำกับไตรภาค “Back to the Future” (1985-1990) ซึ่งภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยการทำรายได้สูงสุดของปีนั้น ต่อมาเขาได้สร้างปรากฏการณ์ด้วย “Who Framed Roger Rabbit” (1988) ครั้งแรกในโลกภาพยนต์ที่ผสานการแสดงของคนจริงเข้ากับงานแอนิเมชัน

นอกจากนี้ยังคงขยายพรมแดนใหม่ๆ ของเทคนิคภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องทั้ง “The Polar Express” (2004), “Beowulf” (2007) และ “A Christmas Carol” (2009) รวมถึงหนึ่งในผลงานไซไฟที่ดีที่สุดตลอดกาลอย่าง “Contact” (1997) โดยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเขายังคงสร้างผลงานที่หลากหลายและได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องทั้ง “Flight” (2012), “The Walk” (2015), “The Witches” (2020), “Pinocchio” (2022) ที่ร่วมงานกับ “ทอม แฮงส์” อีกครั้ง

และสำหรับปี 2024 นี้การได้กลับมารวมทีม “Forrest Gump” เป็นสิ่งที่ไม่ใช่แค่ผู้ชมทั้งโลกรอคอย แต่เซเม็กคิสเองก็ตั้งตารอมันมากเช่นกัน “ผมเฝ้ารอโอกาสที่จะได้ทำหนังร่วมกับ ‘ทอม, โรบิน และ อีริก’ อีกครั้งมานาน เพราะผมชอบทำงานกับพวกเขามาก และเมื่อใดก็ตามที่คุณมีโอกาสทำงานกับคนที่คุณชอบแถมยังล้วนแต่มีความสามารถ คุณต้องคว้ามันไว้ทันที” 

 

 

“เอริก รอท” ผู้เขียนบทหลากหลายแนวแถวหน้าของวงการ บทภาพยนตร์ที่ผ่านมาของเขาในแวดวงภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็น “The Curious Case of Benjamin Button” (2008), “A Star Is Born” (2018), “Dune” (2021) และ “Killers of the Flower Moon” (2023) ล้วนแล้วแต่เป็นภาพยนตร์ชื่อดังและได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งผลงานที่ส่งให้เขาไปถึงฝั่งฝันคว้ารางวัลออสการ์บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมมาครองได้ก็คือ “Forrest Gump” นั่นเอง

 

 

“ทอม แฮงส์” นักแสดงมากฝีมือผู้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นหนึ่งในสองคนที่สามารถคว้า “รางวัลออสการ์-นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม” สองปีติดต่อกันจากการแสดงใน “Philadelphia” (1993) และ “Forrest Gump” นอกจากนี้เขายังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์อีกหลายครั้งจากผลงานอันหลากหลายทั้ง “Big” (1988), “Saving Private Ryan” (1998) และ “Cast Away” (2000) ภายหลังจาก “Forrest Gump” ทอมมีโอกาสได้ร่วมงานกับผู้กำกับเซเม็กคิสอีกหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น “The Polar Express”, “Cast Away”, “Pinocchio”

และในปีนี้เขาได้กลับมาร่วมงานกับนางเอก “Forrest Gump” อย่าง “โรบิน ไรต์” อีกครั้ง ทอมเผยว่า “‘โรบิน’ เป็นนางเอกคนแรกๆ ที่ผมอยากร่วมงานด้วยเสมอ” 

 

 

“โรบิน ไรต์” แจ้งเกิดในโลกภาพยนตร์ด้วยการรับบทนำใน “The Princess Bride” (1987) ในบท “เจ้าหญิงบัตเตอร์คัป” อันโด่งดัง และกลายเป็นนางเอกขวัญใจมหาชนจากบท “เจนนี” ใน “Forrest Gump” ที่ส่งให้เธอได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตามผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เธออย่างมากที่สุดคือซีรีส์ “House of Cards” (2013-2018) ที่ทำให้เธอคว้ารางวัลลูกโลกทองคำปี 2014 และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอมมีถึง 6 ครั้งติดต่อกัน แม้ในช่วงหลังเธอจะขยับไปทำงานเบื้องหลังในการกำกับภาพยนตร์และซีรีส์มากขึ้น แต่แฟนภาพยนตร์ก็ยังได้เห็นเธอในหนังฟอร์มยักษ์อย่าง “Wonder Woman” (2017-2020) และ “Blade Runner 2049” (2017)

ล่าสุด ไม่ปล่อยให้แฟนหนังคิดถึงกันนาน เธอกลับมาอีกครั้งพร้อมทีมงาน “Forrest Gump” ที่แสนคุ้นเคยกับ “Here ที่นี่ นิรันดร” โดยเธอกล่าวว่า “นี่เป็นประสบการณ์ทำงานที่ดีที่สุดในอาชีพของฉันเลย” 

 

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้เปรียบเสมือนงานคืนสู่เหย้าตัวท็อปแห่งวงการภาพยนตร์โลกที่สั่งสมทั้งประสบการณ์ ความสร้างสรรค์ และพลังแห่งความคิดถึง ซึ่งสามารถกวาดคำวิจารณ์และเสียงชื่นชมจากผู้ชมต่างประเทศไปได้อย่างงดงาม

“ผลงานที่ดีที่สุดของ ‘โรเบิร์ต เซเม็กคิส’ นับตั้งแต่ ‘Cast Away’“ – Scott Mantz, KTLA TV

“สร้างอย่างประณีต อบอุ่นหัวใจ และจะฝากความประทับใจไว้นานเท่านาน” – Brad Gilmore, ESPN Radio & CW39 Houston

“เตือนใจว่าทำไม ‘ทอม แฮงส์’ ถึงเป็นนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา” – Jake Hamilton, FOX TV

“‘แฮงส์’ และ ‘ไรต์’ จะเป็นคู่ขวัญในใจของเราตลอดไป” – Carla Renata, The Curvy Film Critic

 

ร่วมสัมผัสทุกความรู้สึก “รัก ทุกข์ สุข ฝัน” กับการรวมตัวครั้งสำคัญของ “สุดยอดทีมที่คิดถึง” เพื่อสร้างปรากฏการณ์ “ความมหัศจรรย์แห่งโลกภาพยนตร์” ครั้งใหม่ใน “Here ที่นี่ นิรันดร” 5 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์