ฤดูกาลแห่งเทศกาลภาพยนตร์รางวัลกำลังจะเริ่มต้นในไม่ช้า ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในผลงานที่สื่อหนังรายใหญ่หลายสำนัก อาทิ Indiewire, Awardscircuit, Entertainment Weekly, Slashfilm ต่างคาดคะเนกันว่าจะต้องมีบทบาทสำคัญเป็นตัวเต็งบนหลากเวที รวมไปถึงรางวัลใหญ่อย่าง “ออสการ์” แน่นอน นั่นคือ “The Glass Castle” ภาพยนตร์ดราม่าที่สร้างมาจากนวนิยายเรื่องจริงในชื่อเดียวกัน เขียนโดย “จีนเน็ตต์ วอลล์ส” ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ฮิตทำสถิติติดอันดับขายดีนานกว่า 261 สัปดาห์ ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิวยอร์ก ไทม์ส เบสต์เซลเลอร์ และได้รับการแปลไปทั่วโลกแล้วถึง 22 ภาษา รวมทั้งยังเคยคว้ารางวัลใหญ่ทางด้านวรรณกรรมอย่าง Chirstopher Awards, American Library Association’s Alex Awards และ Books for Better Living Award มาแล้ว
ด้านนักแสดงนำถือได้ว่าเป็นการโคจรมาพบกันของสามดาราระดับยอดฝีมือรางวัลของวงการฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น “บรี ลาร์สัน” นักแสดงสาวมาแรงเจ้าของรางวัลออสการ์-ลูกโลกทองคำ-บาฟต้า สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก “Room” และกำลังจะมีผลงานฟอร์มยักษ์ในภาพยนตร์ “Captain Marvel”, “วูดดี้ ฮาร์เรลสัน” ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จาก “The People VS Larry Flynt” และ “The Messenger” รวมทั้งในผลงานเรื่องดังที่แฟนๆ คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่าง “Now You See Me”, “The Hunger Games” และ “นาโอมิ วัตต์ส” นักแสดงหญิงดีกรีเข้าชิงออสการ์ 2 สมัยจาก “21 Grams” และ “The Impossible” รวมไปถึงหนังฮิตอย่าง “King Kong” และ “Allegiant” ผ่านการการันตีคุณภาพโดยผู้กำกับ “เดสติน เครตทัน” จาก “Short Term 12” ภาพยนตร์นอกกระแสฟอร์มเล็กหนังโปรดในดวงใจของคอหนังมากมาย
ทั้งสามผนึกกำลังกันมาถ่ายทอดเรื่องราวของเด็กสาว “จีนเน็ตต์ วอลล์ส” (บรี ลาร์สัน) และพี่น้องสี่คนที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัวลำบากยากแค้น ผ่านการโยกย้ายนับครั้งไม่ถ้วน อดมื้อกินมื้อ และการรับมือกับการเลี้ยงดูของพ่อและแม่ที่ไม่เหมือนใคร “เร็กซ์ วอลล์ส” (วูดดี้ ฮาร์เรลสัน) ผู้เป็นพ่อที่ด้านหนึ่งเขาคือชายติดเหล้าที่และอาละวาดไปทั่วในเวลาเมา แต่อีกด้านเขาคือพ่อที่พยายามสอนให้ลูกกล้าหาญที่จะเผชิญชีวิตในโลกแห่งความจริง และมีความฝันที่จะทำให้ครอบครัวของตัวเองได้สุขสบายในสักวัน ส่วนแม่ “โรส แมรี่ วอลล์ส” (นาโอมิ วัตต์ส) เป็นคนรักในศิลปะและอิสระเสรี เธอวิ่งไล่ตามฝันที่จะเป็นศิลปิน จนหลายครั้งที่จีนเน็ตต์และพี่น้องทั้งสี่ต้องดิ้นรนกันเองในการใช้ชีวิต แต่ในความไม่สมบูรณ์แบบ สิ่งที่พ่อและแม่มอบให้กับเธอ มันกลับหล่อหลอมให้จีนเน็ตต์เติบโตขึ้นมาเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง แกร่ง และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างน่าอัศจรรย์
“มีหนังสือดีๆ หลายเล่มที่ได้รับการดัดแปลงให้ออกมาเป็นแค่ภาพยนตร์ธรรมดาๆ เรื่องหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีหนังสือดีๆ บางเล่มอีกเช่นกันที่ได้กลายมาเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้ผู้ชมได้รู้สึกถึงเรื่องราวและซาบซึ้งกับมันมากยิ่งขึ้น” เจ้าของเนื้อหาสุดประทับใจในหนังสือ “จีนเน็ตต์ วอล์ส” กล่าวถึงความรู้สึกต่อการดัดแปลงผลงานของเธอออกมาเป็นภาพยนตร์ โดยเธอมีความหวังว่าเรื่องราวจากในชีวิตจริงของเธอนั้นจะเสริมสร้างกำลังใจและต่อเติมความหวังให้แก่เด็กๆ ที่มีเส้นทางชีวิตแบบเดียวกันกับเธอ
“ความมหัศจรรย์ของการเล่าเรื่องนี้คือการที่มันก่อให้เกิดความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะทั้งจากตัวภาพยนตร์-หนังสือต่อตัวเขาเอง หรือระหว่างบุคคลที่แชร์เรื่องราวประสบการณ์ต่อกันหลังจากที่ได้อ่านหรือได้ชม นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันรู้สึกยินดีที่วันนี้ ‘The Glass Castle’ ได้กลายมาเป็นภาพยนตร์ เพราะว่าก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ได้เป็นคอหนังสือ ฉันหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมอบแง่คิดดีๆ หลายอย่างและสร้างความอบอุ่นอิ่มเอมให้แก่ทุกคนที่ได้รับชม”
นอกจากนี้ จีนเน็ตต์ยังได้เคยเอ่ยชื่นชมถึงเหล่านักแสดงหลังจากได้เห็นการโชว์ฝีมือรับบทบาทอันน่าทึ่งของพวกเขาที่ถ่ายทอดลงบนจอภาพยนตร์
“พวกเขาถ่ายทอดบทบาทได้อย่างยอดเยี่ยม ฉันอยากให้ ‘บรี ลาร์สัน’ มารับบทนี้ ตั้งแต่ก่อนที่จะได้รู้จักเธอเสียอีก เธอเข้าใจการแสดงอารมณ์ที่ต้องทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอออกมาในเวลาเดียวกัน รวมไปถึงตอนแรกที่ฉันเห็น ‘วูดดี้ ฮาร์เรลสัน’ ในบทบาทของพ่อ มันทำให้ฉันสะอื้นและร้องไห้ออกมาเลย จนเขาต้องมาโอบกอดและปลอบฉันยกใหญ่ วู้ดดี้จับรายละเอียดสำคัญในทุกๆ จุดอย่าง น้ำเสียง คำพูด ท่าทางการแสดงออกมาใส่ในคาแรคเตอร์ได้อย่างน่าทึ่ง”
เตรียมพิสูจน์ความประทับใจและความซาบซึ้งทรงพลังในผลงานภาพยนตร์ดราม่าสร้างจากเรื่องจริง ดัดแปลงจากนวนิยายระดับเบสต์เซลเลอร์ ผลงานโดยฝีมือผู้อำนวยการสร้าง Life of Pi
“The Glass Castle” 7 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
