หลังจากสร้างกระแสโคตรกระหึ่มทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกจนกลายเป็นปรากฏการณ์หนังแอ็กชันบล็อกบัสเตอร์ภาคต่อที่ครองอันดับหนึ่งในใจคอแอ็กชันและแฟนๆ ที่ต่างยกให้แฟรนไชส์ “John Wick” คือผลงานชิ้นเอกด้านภาพยนตร์ที่สร้างนิยามใหม่ให้หนังแนวแอ็กชันติดโผความเดือด โหด มันส์ตั้งแต่ฉากแรกจนถึงฉากสุดท้าย เปรียบดังซิมโฟนีแห่งวงการนักฆ่าที่จะพาคุณลุ้นระทึกให้อะดรีนาลีนสูบฉีดและอารมณ์อันดิบเถื่อนผสมกับความสวยงามของฉากต่อสู้จากฝีมือผู้กำกับ “แชด สตาเฮลสกี” จากสตันต์สายบู๊สู่นักออกแบบฉากแอ็กชันจนก้าวเข้าสู่ผู้เริ่มต้นของ “จักรวาลนักฆ่า”
กุมภาพันธ์ 2014 “ไลออนส์เกต” ให้ “แชด สตาเฮลสกี” ดูแลภาพยนตร์แอ็กชันแฟรนไชส์ “John Wick” ตั้งแต่ “John wick” (2014), “John Wick: Chapter 2” (2017), “John Wick: Chapter 3 – Parabellum” (2019) และ “John Wick: Chapter 4″ (2023) โดยผู้กำกับสตาเฮลสกีสามารถออกแบบฉากแอ็กชันออกมาได้อย่างถึงเลือดถึงเนื้อ เพราะเขาเคยเป็นสตันต์แมนมาก่อนใน “The Crow” (1994)
ความสำเร็จครั้งใหญ่ของภาพยนตร์แฟรนไชส์ “John Wick” อยู่ที่ฉากการต่อสู้ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีต เชี่ยวชาญ อีกทั้งยังผสมผสานศิลปะการต่อสู้และการใช้ปืนได้อย่างลงตัว การออกแบบท่าทางต่างๆ ที่ดูสมจริงยกระดับให้ภาพยนตร์ “จอห์น วิค” เหนือกว่าหนังแอ็กชันทั่วไป อีกทั้งการนำเสนอสังคมนักฆ่าที่เพิ่มความลึกให้กับเนื้อเรื่อง การถ่ายทอดฉากต่างๆ ทำให้เกิด “Emotional Impact” โดดเด่นด้วยแสงและการออกแบบให้เข้ากับอารมณ์ สิ่งนี้ช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้มาตรฐานและรสนิยมหนังแอ็กชันของคนยุคปัจจุบันเปลี่ยนไป
แม้ว่าเนื้อเรื่องจะตรงไปตรงมา แต่ความรวดเร็วและความแม่นยำในการดำเนินเรื่องที่กระชับฉับไวทำให้ “John Wick” โดดเด่นและเป็นแฟรนไชส์ที่สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับภาพยนตร์แนวแอ็กชัน
“John Wick” (2014) เป็นจักรวาลนักฆ่าที่เริ่มต้นจาก “Jardani Jovonovich” หรือ “จอห์น วิค” ฉายา “บาบายากา” (Baba Yaga) จอห์นเป็นชายหนุ่มที่มุ่งมั่นและเปี่ยมไปด้วยความกล้า วันหนึ่งเมื่อเขาต้องการวางมือจากการเป็นนักฆ่า เพราะเจอกับภรรยาที่เขารัก “เฮเลน วิค” จนภรรยาได้ตายจากไปและทิ้งไว้เพียงสุนัขให้ดูต่างหน้า ทว่า “โยเซฟ ทาราซอฟ” ลูกชายของ “วิกโก ทาราซอฟ” หัวหน้าแก๊งอาชญากรชาวรัสเซียได้ไปยิงสุนัขตัวนี้ที่จอห์นรักมากเหมือนเป็นสิ่งเดียวที่เหนี่ยวรั้งจิตใจเอาไว้ พอสุนัขตายเขาจึงกลับสู่โลกนักฆ่าเพื่อล่าล้างแค้นให้สาสม
“John Wick: Chapter 2” (2017) ได้ยกระดับโลกแห่งนักฆ่าให้น่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยตัวละครอย่าง “สภาสูง” (High Table) ผู้อยู่เบื้องหลังควบคุมโลกอาชญากรทั้งหมด และ “เดอะคอนทิเนนทัล” (The Continental) โรงแรมที่จะให้บริการเฉพาะนักฆ่าเท่านั้น ในเขตของโรงแรมนักฆ่าทุกคนต้องเคารพกฎ ห้ามฆ่ากันในเขตนี้ ถ้าฝ่าฝืนจะถูกขับไล่และตามล่าจากนักฆ่าทั่วโลก แต่แล้วก็มีอยู่คนหนึ่งที่กล้าท้าความตาย “จอห์น วิค” ได้ยิง “ซานติโน ดิอันโตนิโอ” หัวหน้าแก๊งอาชญากรชาวอิตาลีที่นี่ ทำให้เขาถูกขับไล่และตามล่าจากเหล่านักฆ่า ทุกมุมถนนไม่มีที่ไหนปลอดภัยอีกต่อไป
แฟรนไชส์ “John Wick” การันตีความสำเร็จด้วยการกวาดรายได้ทั่วโลกที่มากขึ้นในทุกๆ ภาค
- “John Wick” ทำรายได้ 87.8 ล้านเหรียญ
- “John Wick: Chapter 2” ทำรายได้ 171.54 ล้านเหรียญ
- “John Wick: Chapter 3 – Parabellum” ทำรายได้ 326.7 ล้านเหรียญ
- “John Wick: Chapter 4” ทำรายได้ 440.1 ล้านเหรียญ
และในปี 2025 เตรียมพบกับนักฆ่าคนใหม่ที่ชะตากรรมไม่ต่างจาก “จอห์น วิค” หลังพ่อของเธอถูกสังหารอย่างปริศนา “อีฟ มาการ์โร” จึงกลายเป็น “โคตรนักฆ่า” เข้าสู่จักรวาลของการล้างแค้นแบบเต็มตัว นำแสดงโดยนักแสดงสาวมากความสามารถ “อนา เดอ อาร์มาส” ในภาพยนตร์ “From the World of John Wick: Ballerina จักรวาลของจอห์น วิค: บัลเลรินา แค้นกว่านรก” ที่กำลังจะเข้าฉายต้นมิถุนายนนี้
ทั้ง “จอห์น วิค” และ “อีฟ มาการ์โร” มีจุดร่วมที่น่าสนใจคือ “ความแค้นส่วนตัว” และ “ความผูกพันกับรุสกาโรมา”
โดยใน “John Wick: Chapter 3 – Parabellum” (2019) มีการกล่าวถึง “นักฆ่าบัลเลต์” อย่างในซีนที่ “จอห์น วิค” ไปขอความช่วยเหลือจาก “เดอะไดเรกเตอร์” หัวหน้าของ “สำนักรุสกาโรมา”
“สำนักรุสกาโรมา” เป็น 1 ใน 12 “Crime Lord” ที่มี “เดอะไดเรกเตอร์” เป็นผู้นำ สถานที่แห่งนี้เป็นทั้งโรงฝึกบัลเลต์ มวยปล้ำ นักฆ่า และวิธีการต่อสู้ต่างๆ ทั้ง “จอห์น วิค” และ “อีฟ มาการ์โร” เคยเติบโตและฝึกฝนอยู่ที่นี่ทำให้ทั้งคู่มีสไตล์การต่อสู้บางอย่างที่คล้ายกัน
“อีฟ มาการ์โร” ออกตามล่าฆาตกรที่ฆ่าครอบครัว ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตาม เธอพร้อมจะฝ่าทุกห่ากระสุน ทุกคมอาวุธเพื่อแก้แค้น อย่างที่เราได้เห็นในตัวอย่างหนัง เธอมีสไตล์การต่อสู้ผสมผสานมวยปล้ำอยู่หลายท่า ตามฉบับนักฆ่าที่ถูกฝึกมาจาก “สำนักรุสกาโรมา” ถึงเธอจะตัวเล็กกว่าคู่ต่อสู้ แต่เธอก็ประยุกต์ใช้อุปกรณ์และอาวุธทุกอย่างเพื่อชิงความได้เปรียบ นักฆ่ามากฝีมือถูกส่งมาฆ่าอีฟ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถหยุดยั้งเธอได้
จนกระทั่งโชคชะตาของ 2 นักฆ่าได้มาบรรจบกัน อีกฝ่ายเป็นนักฆ่าฉายา “บาบายากา” อย่าง “จอห์น วิค” กับ “อีฟ มาการ์โร” ทั้งคู่ยังมีจุดร่วมคล้ายกัน จอห์นอยู่เพื่อจดจำคนที่เขารักและไม่ยอมก้มหัวให้กับโชคชะตา ส่วนอีฟมีทั้งความมุ่งมั่นและความกล้าไม่ต่างจากจอห์น แม้จะถูกโชคชะตาสั่งให้ตาย
ทำไมถึงต้องดู “From the World of John Wick: Ballerina จักรวาลของจอห์น วิค: บัลเลรินา แค้นกว่านรก”
- ผู้กำกับ “เลน ไวส์แมน” เคยกำกับภาพยนตร์แฟรนไชส์ “Underworld” (2003-2016), “Live Free or Die Hard” (2007), “Total Recall” (2012) ซึ่งทุกเรื่องล้วนประสบความสำเร็จทั้งหมด
- ถ้าคุณเป็นแฟน “จักรวาลของจอห์น วิค” ภาพยนตร์ “From the World of John Wick: Ballerina บัลเลรินา แค้นกว่านรก” ย่อมเป็นภาพยนตร์ที่คุณไม่ควรพลาด เพราะนี่คือการสานต่อจักรวาลนักฆ่าที่น่าจดจำ เราจะได้สำรวจโลกนักฆ่าเพิ่มเติมจากมุมมอง “สำนักรุสกาโรมา” ในหลายๆ แง่มุมว่า “ทำไม 2 นักฆ่าระดับท็อป” จึงมาจากสำนักแห่งนี้ เขามีวิธีฝึกสอนคนยังไง ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือก วิธีต่อสู้ วิธีคิด เรื่องราวเหล่านี้เราจะได้รู้มากขึ้น
- ใน “From the World of John Wick: Ballerina” การล่าล้างแค้นของ “อีฟ มาการ์โร” แน่นอนว่าได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้โลกนักฆ่าไม่ต่างจาก “จอห์น วิค” เท่าที่เราเห็นในตัวอย่างมีนักฆ่ามากมายถูกส่งมาสังหารเธอ แต่ไม่มีใครทำสำเร็จ ถึงจะส่งมามากมายขนาดไหน เธอก็รับมือได้เป็นอย่างดี จนต้องส่งนักฆ่าเบอร์หนึ่ง “จอห์น วิค” มาสะสางภารกิจ ซึ่งนั่นอาจหมายความได้ว่า “อีฟ มาการ์โร” มีฝีมือไม่ได้น้อยไปกว่าจอห์นเลย การมาของอีฟอาจทำให้อันดับการปกครองของโลกนักฆ่าต้องสั่นคลอน หากเธอตัดสินใจหันปากกระบอกปืนเข้าหาเหล่า “สภาสูง”
นอกจากนี้ ยังมีเหล่าตัวละครสำคัญอีกมากมายที่จะมาสร้างสีสันความมันส์ระทึกใน “จักรวาลของจอห์น วิค: บัลเลรินา แค้นกว่านรก“
- “เอียน แม็กเชน” รับบท “วินสตัน” ผู้จัดการแห่ง “โรงแรมคอนทิเนนทัล สาขานิวยอร์ก” ชายผู้มีสัมพันธ์อันดีกับ “จอห์น วิค” และเป็นผู้รับเด็กกำพร้าอย่าง “อีฟ มาการ์โร” มาดูแล และมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันไม่ได้น้อยไปกว่าจอห์น เขาเป็นผู้ส่งอีฟให้ “เดอะไดเรกเตอร์” ดูแล เธอเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่จะไขปริศนาความจริงที่อีฟตามหา
- “แอนเจลิกา ฮูสตัน” รับบท “เดอะไดเรกเตอร์” เปรียบเสมือนแม่บุญธรรมของ “อีฟ มาการ์โร” และเป็นผู้นำอันน่าเกรงขามแห่ง “สำนักรุสกาโรมา” เจ้าของโรงเรียนบัลเลต์ฉากหน้าของสถาบันฝึกมือสังหาร หนึ่งในองค์กรที่อยู่ภายใต้ “สภาสูง” เธอจะมาเปิดบ้านหลังนี้ให้เรารู้จักมากขึ้นว่า “อีฟ มาการ์โร” เป็นใคร
- “นอร์แมน รีดัส” รับบท “แดเนียล ไพน์” นักแสดงหนุ่มมากฝีมือที่เคยฝากผลงานโด่งดังจากซีรีส์ “The Walking Dead” (2010-2022) ชายที่เต็มไปด้วยปริศนาและอันตราย เป็นหนึ่งตัวละครหลักในการเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ การโคจรมาพบกันระหว่างเขาและ “อีฟ มาการ์โร” อาจจุดชนวนการล่าข้ามโลกครั้งมหึมาของจักรวาลนักฆ่า
- “แลนซ์ เรดดิก” รับบท “ชารอน” พนักงานต้อนรับประจำ “เดอะคอนทิเนนทัล” มือขวาและผู้ช่วยส่วนตัวชั้นเยี่ยมของ “วินสตัน” ชายผู้เป็นทั้งเพื่อนของ “จอห์น วิค” และวินสตัน ครั้งนี้เรดดิกจะกลับมาให้หายคิดถึงในบทบาทสำคัญส่งท้ายชีวิตการแสดงของเขาด้วย
นับถอยหลังสู่สงครามนักฆ่าที่ทั้งโคตรมันส์ โคตรเดือด และโคตรต้องดู ในภาพยนตร์แอ็กชันฟอร์มยักษ์แห่งปี “From the World of John Wick: Ballerina จักรวาลของจอห์น วิค: บัลเลรินา แค้นกว่านรก” ระทึกก่อนอเมริกา 4 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
