ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนมวยปล้ำหรือไม่แต่เมื่อได้ยินชื่อ “จอห์น ซีนา” (John Cena) ไม่มีใครไม่รู้จักเขา เพราะเขาคือหนึ่งในสุดยอดนักมวยปล้ำที่โลกเคยมีมา ทั้งความแข็งแกร่ง ดุดัน ประสบการณ์มากกว่า 20 ปี บนสังเวียนมวยปล้ำ WWE ก่อนผันตัวสู่การเป็นนักแสดงฮอลลีวูดตามรอยรุ่นพี่อย่าง “เดอะ ร็อก-ดเวย์น จอห์นสัน” (Dwayne Johnson) และ “เดฟ บาทิสตา” (Dave Batista) แต่กว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ได้มันไม่ง่ายเลย เขาเริ่มจากการเป็น “จ็อบเบอร์” หรือที่คนไทยจะเรียกกันว่า “กระสอบทราย” ให้รุ่นใหญ่กระทืบ เเละเคยเกือบถูกไล่ออก แต่เขาต้องต่อสู้และอดทนมาอย่างยาวนาน เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นพระเอกเบอร์ 1 ตลอดกาลของ WWE จนเขามีสโลแกนของตัวเองว่า “Never Give Up” (อย่ายอมแพ้)
(Source: WWE)
“จอห์น ซีนา” คือนักมวยปล้ำตัวท็อปอดีตแชมป์โลก 16 สมัย ที่มีท่าไม้ตายประจำตัวคือ Attitude Adjustment หรือการแบกคู่ต่อสู้ไว้บนบ่าแล้วทิ้งคู่ต่อสู้โดยให้บริเวณหลังกระแทกพื้นเวที ถึงแม้จะเป็นท่าที่ดูไม่เจ็บ แต่เมื่อถูกซีนานำมาใช้ ทำให้ท่าไม้ตายนี้ดูรุนแรงขึ้นมาทันที เส้นทางการเป็นนักมวยปล้ำของซีนากับสมาคมใหญ่อย่าง WWE เริ่มต้นด้วยการถูกเดบิวต์ในฐานะนักมวยปล้ำฝ่ายธรรมะดาวรุ่ง แต่กลับไม่ประทับใจคนดูสักเท่าไหร่ เพราะคาแร็กเตอร์นักสู้ที่จืดชืดเกินไปทำให้เขาไม่เป็นที่นิยม และต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นฝ่ายอธรรม และนั่นเองทำให้เขาได้ค้นพบกิมมิกใหม่คือการเป็นแร็ปเปอร์สุดแสบที่ออกมาแร็ปด่านักมวยปล้ำคนอื่นทุกสัปดาห์
แม้จะเป็นฝั่งอธรรมแต่คาแร็กเตอร์นี้ทำให้ซีนาได้โชว์ความสามารถของตัวเองออกมาจนได้รับความนิยม และเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ มวยปล้ำทั่วโลก ทำให้ซีนาต้องกลายมาเป็นฝ่ายธรรมะอีกครั้ง เพื่อให้แฟนๆ ชื่นชอบมากขึ้น เขากลายมาเป็นนักสู้ที่จะไม่มีวันยอมแพ้พร้อมสโลแกน Never Give Up และกลายเป็นพระเอกเบอร์หนึ่งของสมาคม
(Source: WWE)
แต่เมื่อซีนาอายุมากขึ้น WWE มีนักมวยปล้ำรุ่นใหม่ๆ เกิดขึ้นมามากมาย เขาจึงหันไปเอาดีทางด้านการแสดงภาพยนตร์ ซึ่งด้วยชื่อเสียงของเขาทำให้การผันตัวมาเป็นนักแสดงไม่ใช่เรื่องยาก นานๆ ทีเขาถึงกลับมาปล้ำทำให้แฟนๆ รู้สึกใจหาย และรอคอยการกลับมาปรากฏตัวบนเวทีของเขาเสมอ
“จอห์น ซีนา” ผ่านผลงานการแสดงทั้งภาพยนตร์และซีรีส์มากมาย อาทิ “Bumblebee” (2018), “The Suicide Squad” (2021), “F9” (2021) และ “Fast X” (2023) รวมทั้งซีรีส์เรื่อง “Peacemaker” (2022-) และในปีนี้แอ็กชันสตาร์คนถึกคนใหม่ผู้นี้จะมาตะลุยภารกิจสุดระห่ำ หลบทั้งดงระเบิด ฝ่าทั้งห่ากระสุนใน “Freelance” แท็กทีม “ปิแยร์ โมแรล” สุดยอดผู้กำกับผู้สร้างตำนานโคตรคนแอ็กชันจาก “Taken” (2008)
ภาพยนตร์แอ็กชันคนพันธุ์ถึกเรื่องนี้เล่าเรื่องราวโคตรระห่ำของ “เมสัน เพ็ตทิตส์” (จอห์น ซีนา) อดีตหน่วยเรนเจอร์ที่ผันตัวมาใช้ชีวิตแสนน่าเบื่อ แต่ทุกอย่างกลับพลิกผันเมื่อเขาได้รับการว่าจ้างเป็นบอดี้การ์ดให้กับนักข่าวสาวขาลุย “แคลร์ เวลลิงตัน” (อลิสัน บรี) ที่เพิ่งจะได้คิวสัมภาษณ์ตัวต่อตัวกับ “ฮวน เวเนกัส” (ฮวน พาโบล ราบา) ผู้นำจอมเผด็จการสุดโฉดแห่งอเมริกาใต้ แต่วินาทีที่เครื่องบินแตะพื้นรันเวย์ สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ ทั้งประเทศได้เกิดรัฐประหารขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้ทั้งสองหนุ่มสาวจับพลัดจับผลูพ่วงอีกหนึ่งผู้นำต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากห่ากระสุนที่ปลิวว่อนมาจากทุกทิศทุกทางในแดนเถื่อนแห่งนี้ จากจ็อบที่คิดว่าง่ายดายเลยกลับกลายเป็นภารกิจสุดโหดหินโคตรอันตรายไปซะงั้น
คอหนังแอ็กชันเตรียมตัวลุยจ็อบเดือดระห่ำ กระหน่ำความมันส์ระทึกแห่งปีใน “Freelance จ็อบระห่ำ คนถึกระทึกโลก” 5 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
