จากเรื่องจริงของสองคู่รักที่ต้องเผชิญหน้ากับมหันตภัยธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างพายุเฮอร์ริเคนระดับ 5 กลางมหาสมุทรแปซิฟิก สู่การบอกต่อเรื่องราวความรักที่ยิ่งใหญ่บนจอภาพยนตร์ “Adrift” เรื่องราวความรักของ “ทามี โอลด์แฮม” และ “ริชาร์ด ชาร์ป” สองหัวใจรักอิสระที่ออกล่องเรือไปตามเส้นทางแห่งความรัก แต่กลับต้องเจอกับมหันตภัยที่ทำให้ทั้งคู่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ทามีที่บาดเจ็บน้อยกว่าต้องเป็นผู้ที่นำซากเรือและชีวิตที่ใกล้ริบหรี่ของชายที่เธอรักไปให้ถึงแผ่นดินให้ได้ ครั้งนี้หัวใจจะกว้างใหญ่กว่าท้องทะเล
“Adrift” เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของ “ทามี โอลด์แฮม” และ “ริชาร์ด ชาร์ป” คู่รักที่ต้องเผชิญกับมหันตภัยพายุเฮอร์ริเคนเรย์มอนด์ระดับ 5 พายุเฮอร์ริเคนกลางมหาสมุทรแปซิฟิกที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึงแม้พวกเขาจะรอดตายจากการเผชิญกับพายุนรกมาได้อย่างเฉียดฉิว แต่ความหวังและแสงไฟของชีวิตของริบหรี่ เมื่อทามีได้รับบาดเจ็บหนัก แถมเรือและชีวิตของริชาร์ดก็ใกล้อัปปางลงเต็มที
และนี่คือจุดเริ่มต้นการเดินทางทรหด 41 วันกลางมหาสมุทรแปซิฟิกโดยปราศจากเครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยเหลือนับตั้งแต่วันที่เรือและชีวิตของทามีใกล้เป็นซาก โดยเธอต้องพาชีวิตของเธอและชายที่เธอรักไปให้ถึงฮาวายให้ได้เพื่อเอาชีวิตรอด เรื่องราวนี้ถูกนำมาเขียนเป็นหนังสือชื่อดังในชื่อว่า “Red Sky in Mourning: A True Story of Love, Loss and Survival at Sea” และ “Red Sky at Night, Sailor’s Delight, Red Sky at Morning, Sailors Take Warning” เกี่ยวกับพายุเฮอร์ริเคนในปี 1983 ที่จมเรือใบขนาด 44 ฟุตของทามีและริชาร์ดคู่หมั้นของเธอ
โดยตัวละครหลักของเรื่องราวความรักที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรคนี้ได้สองนักแสดงเจ้าบทบาทมารับหน้าที่เพื่อบอกเล่าความเข้มข้น “ทามี โอลด์แฮม” รับบทโดย “เชลีน วูดลีย์” (Divergent Series, The Fault in Our Stars) นักแสดงสาวมากความสามารถที่มีหัวใจรักอิสระและจิตใจที่กล้าหาญเช่นเดียวกับตัวละครของเธอ และ “ริชาร์ด ชาร์ป” รับบทโดย “แซม คลาฟลิน” (The Hunger Games, Love Rosie) นักแสดงหนุ่มที่แม้แต่ทามีตัวจริงยังยอมรับว่าเหมือนกับคู่หมั้นของเธอมาก โดยในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทั้งคู่ต้องถ่ายทำกันกลางทะเลนับเดือนเพื่อให้ได้ภาพและความรู้สึกที่สมจริง ผ่านฝีมือกำกับของ “บัลทาซาร์ คอร์มาเคอร์” ผู้กำกับมือทองสายหนังเอาชีวิตรอดที่เป็นผู้คุมบังเหียนให้กับหนังสุดระทึกอย่าง Everest โดยคราวนี้เขาจะมาควบคุมการถ่ายทอดเรื่องราวของการฟันฝ่าอุปสรรคกลางทะเล เพื่อพิสูจน์ให้คนทั่วโลกได้ซาบซึ้งว่าความรักสามารถเอาชนะมหันตภัยได้
“Adrift รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน” 26 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์