นอกจากการได้สองนักแสดงยอดฝีมือ “แดเนียล บรูห์ล-โรซามันด์ ไพก์” มาปฏิวัติลุกส์บุกจี้เที่ยวบินนรกแล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของ “7 Days in Entebbe เที่ยวบินนรกเอนเทบเบ้” ภาพยนตร์อาชญากรรม-ดราม่า-ทริลเลอร์ที่ผู้ชมทั้งโลกต้องจับตาเลยนั่นคือ การเป็นผลงานภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเรื่องจริงของปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันแห่งหน้าประวัติศาสตร์กับเรื่องราวของ 248 ตัวประกันกลางน่านฟ้า 4 สลัดอากาศกู้ชาติ 3 ดินแดนสั่นสะเทือน 1 โลกเป็นเดิมพัน กลางแดนเดือด ณ เมืองเอนเทบเบ ประเทศยูกันดา

 

โดยงานนี้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของความเข้นข้นเหนือชั้นนั่นคือผู้กำกับ “โฮเซ พาดิลา” เจ้าของผลงานระอุอย่างซีรีส์ Narcos, RoboCop, Elite Squad แนวคิดของโฮเซนั่นคือการเล่าเรื่องราวคู่ขนานกันสองเรื่องซึ่งเกี่ยวพันกับเหตุการณ์จู่โจม ได้แก่ “กลุ่มตัวประกัน-กลุ่มผู้ก่อการร้าย” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีปฏิสัมพันธ์และสภาพจิตใจที่เปลี่ยนไปอย่างไร และ “การเจรจาต่อรองทางการเมือง” ภายในคณะรัฐบาลอิสราเอลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมไปถึงต้องการถ่ายทอดเหตุการณ์ในหนังให้ถูกต้องตามความเป็นจริงให้มากที่สุด

“เราได้พูดคุยกับผู้คนจำนวนมากที่เคยอยู่ในเหตุการณ์นั้น อาทิ ทหาร  5-6 นายที่เข้าร่วมภารกิจช่วยเหลือตัวประกัน เราทำหนังเรื่องนี้โดยการนำปากคำของพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุโดยตรงมาถ่ายทอด นั่นก็ทำให้ผมคิดว่าเราเขยิบเข้าใกล้ความจริงมากที่สุด”

 

 

ผ่านการอำนวยการสร้างโดยสองผู้อำนวยการสร้าง “ทิม บีแวน” กับ “เคต โซโลมอน” ที่เคยร่วมกันสร้างหนังดราม่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ 9/11 เรื่อง United 93 จนได้เข้าชิงออสการ์ ซึ่งยิ่งทั้งสองค้นหาข้อมูลลงลึกเกี่ยวกับเหตุการณ์จริงเท่าไร ก็พบถึงความน่าสนใจที่ค่อยๆ ทวีคูณเพิ่มมากขึ้น

“มีข้อมูลจำนวนมากที่บันทึกรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ในหลากหลายมุมมอง” บีแวนอธิบาย “ยกตัวอย่าง คุณมีเรื่องราวจากมุมมองของกลุ่มสลัดอากาศ ของนักการเมืองอิสราเอล ของชาวยูกันดา ในแง่หนึ่งมันคือสีสันสุดเร้าใจที่เราอยากจะใส่ลงไปในหนัง“

 

ด้านฉากแอ็คชั่น ทีมงานสร้างยังได้คำปรึกษาด้านการทหารและเทคนิคการสู้รบจากหน่วยทหารตัวจริง นำโดย “อาเมียร์ โอเฟอร์” อดีตทหารแห่งกองทัพอิสราเอลและหนึ่งในทีมจู่โจมเข้าช่วยเหลือตัวประกัน

“ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่การทำหนัง แต่ผมรู้สึกได้ว่าทีมงานต้องการที่ถ่ายทอดการปฏิบัติหน้าที่ของทหารในครั้งนั้นอย่างสมจริงที่สุด” โอเฟอร์กล่าว

 

 

นอกจากนี้ โซโลมอนกับทีมงานของเธอยังได้ติดต่อไปยังเหล่าตัวประกันที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นอีกด้วย รวมไปถึงการช่วยกันค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับแนวความคิดของกลุ่มสลัดอากาศ

“ทีมงานของฉันได้พบกับญาติของ จาเบอร์ หนึ่งในสลัดอากาศตัวจริงที่อยู่ในเหตุการณ์เอนเทบเบ” โซโลมอนกล่าว “ญาติของเขาเล่าข้อมูลต่างๆ ให้ฟัง ซึ่งเรานำไปใส่ไว้ในบทหนัง อาทิ ตัวตนแท้จริงของเขา ความรักที่เขามีต่อประเทศชาติ และความรู้สึกของการเป็นคนยอมพลีชีพเพื่อชาติ”

 

248 ตัวประกันกลางน่านฟ้า / 4 สลัดอากาศกู้ชาติ / 3 ดินแดนสั่นสะเทือน / 1 โลกเป็นเดิมพัน ร่วมเจาะลึกปฏิบัติการชิงตัวประกันสายฟ้าแลบจุดไฟแค้นสะเทือนประวัติศาสตร์ “7 Days in Entebbe เที่ยวบินนรกเอนเทบเบ้” 5 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์