ไม่มีใครคาดคิดว่า “ทุ่งสังหาร” ฉากแอ็กชันไคลแมกซ์ของภาพยนตร์ไทยแห่งปีเรื่อง “เสือ” จะมีรากฐานมาจากเหตุการณ์จริงในหน้าประวัติศาสตร์ พื้นที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเขตยุทธศาสตร์ของกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งยังคงมีเรื่องเล่าขานถึง “ทุ่งระเบิด” ที่ถูกทิ้งไว้ใต้ดิน แม้สงครามจะจบไปนานกว่า 80 ปีแล้วก็ตาม

“ก้องเกียรติ โขมศิริ” ผู้กำกับมากฝีมือจาก “ขุนพันธ์” ทั้งสามภาค และ “เสือ” เรื่องล่าสุดนี้ได้หยิบเสี้ยวประวัติศาสตร์เหล่านั้นมาชุบชีวิตอีกครั้ง พร้อมตั้งคำถามง่ายๆ แต่ท้าทายว่า
“ถ้าสมรภูมิที่เคยมีไฟสงครามโลก… กลายเป็นที่ที่ ‘4 เสือ’ ต้องปะทะกัน มันจะเกิดอะไรขึ้น”
คำตอบคือฉาก “ทุ่งสังหาร” หรือที่ในภาพยนตร์เรียกว่า “ป่าทะลุ” ฉากแอ็กชันกลางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ทีม “จักรวาลขุนพันธ์” เคยทำ โดยใช้โลเคชันจริง ณ เขาอีโต้ เนรมิตให้เป็นดงทุ่นระเบิดเก่า จำลองหลุมระเบิดกว่า 200 จุด ติดตั้งเอฟเฟกต์จริงแทบจะทั่วพื้นที่เพื่อให้ได้ความสมจริงของ “สงครามที่ยังไม่จบ”






งานนี้จึงต้องรวมทีมโปรดักชันมือรางวัลผนึกกำลังเซตลานกว้างเพื่อระเบิดทั้งภูเขาให้ลุกเป็นไฟ ตั้งแต่เริ่มเตรียมงานก่อนการถ่ายทำโดยเปลี่ยนลานหินจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ใหญ่เท่าสนามฟุตบอลด้วยการขนเศษใบไม้ถมทุกตารางนิ้วกว่า 30 คันรถบรรทุก เปลี่ยนลานสีเทาที่เต็มไปด้วยหินคมกริบให้กลายเป็นสีน้ำตาลของใบไม้แห้ง เพื่อเซฟคิวต่อสู้ของนักแสดงและซ่อนเอฟเฟกต์ระเบิดทุกตารางเมตร ทั้งระเบิดขนาดเล็ก ขนาดกลาง จนถึงลูกไฟใหญ่มหึมาให้กลายเป็นสนามสังหารหมู่ล้างโคตรเสือให้สิ้นซาก
ทีมงานเบิกรถเครนขึ้นเขาเพื่องานสลิงสุดโหดความสูงหลายสิบเมตรกลางป่า ถมทหารนักล่าหลายสิบชีวิตกับคิวแอ็กชันถึงขั้นลืมหายใจ สมศักดิ์ศรีวันประกาศชัยและคิวเผด็จศึกเสือ พร้อมขึ้นแท่น “โคตรแอ็กชันอภิมหามันส์ตลอดกาล”
“เราไม่ได้แค่ระเบิดฉาก แต่ระเบิดความเชื่อว่าหนังไทยทำแบบนี้ได้”



โดยความพิเศษของฉากสุดยิ่งใหญ่นี้คือการรวมทุกองค์ประกอบของหนังแอ็กชันไว้ในซีนเดียว ทั้งทีมนักแสดงนำอย่าง “เวียร์ ศุกลวัฒน์”, “มาริโอ้ เมาเร่อ”, “เป้ อารักษ์”, “โตโน่ ภาคิน” และ “ท็อป ทศพล” ที่ลงเล่นจริง แอ็กชันจริงในหลายช็อตสำคัญ การต่อสู้กับทีมสตันต์ระดับมืออาชีพ พร้อมเทคนิคสลิง เอฟเฟกต์ระเบิดจริง และสเปเชียลเอฟเฟกต์ในท้ายที่สุด ซึ่งทุกฝ่ายต่างทุ่มเทกันสุดชีวิตตั้งแต่เช้ายันค่ำ ถ่ายทำกันอยู่หลายวันกว่าจะได้ซีนต่อสู้ครบรสชาติอย่างที่เห็นในหนัง ท่ามกลางอากาศอันร้อนระอุด้วยอุณหภูมิสูงถึง 40 องศา และฝนตกสลับแดดตลอดทั้งวัน ทั้งฝุ่นและลมจากเอฟเฟกต์ เสื้อผ้าจัดเต็มหลายชั้น พร้อมขนอาวุธและอาคมมาต่อสู้กันจนหมดแม็กทั้งทีมเสือและทีมศัตรู ถือเป็นซีนที่รวมทุกศาสตร์และศิลป์ไว้อย่างครบถ้วนที่สุดแบบโคตรโหด โคตรยาก และโคตรมหัศจรรย์เท่าที่หนังแอ็กชันไทยเคยมีมาเลยก็ว่าได้
พิสูจน์จากผลลัพธ์ที่ได้สร้างความภาคภูมิใจด้วยเสียงชื่นชมเกรียวกราวและกระหึ่มเสียงปรบมือสนั่นโรง พร้อมยกให้ “ทุ่งสังหาร” เป็นหนึ่งในฉากแอ็กชันที่มันส์ สะใจ สมจริง และสนุกที่สุดในรอบสิบปีของหนังไทย และเป็นอีกหลักฐานยืนยันว่าวงการภาพยนตร์ไทยยังเต็มไปด้วยพลังที่จะสร้างปรากฏการณ์ได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก
ระเบิดศึก “เสือ” เหนืออาคม ระดมฉากแอ็กชันโคตรมันส์บันลือโลก วันนี้ ในโรงภาพยนตร์