1. 12 ชีวิต สู่ปฏิบัติการตัดสินชาติ จุดเริ่มต้นจากเรื่องจริงของปฏิบัติการลับแบบเฉียบพลันของกองทัพสหรัฐฯ หลังเหตุการณ์วินาศกรรมสั่นสะเทือนโลก “11 กันยา 2001 หรือ 9/11” ในวันรุ่งขึ้น 12 กันยา 2001 กองกำลังทหารหน่วย Green Beret จำนวน 12 นาย นำทีมโดย “ผู้พันมิตช์ เนลสัน” (คริส เฮมส์เวิร์ธ) ได้รับมอบหมายให้มุ่งหน้าไปยังอัฟกานิสถาน ฝ่าดินแดนที่ทุกตารางนิ้วคือความเป็นความตาย เพื่อชักจูงให้กองกำลังฝ่ายเหนือของ “นายพลอับดุล ดอสทุม” เข้าร่วมต่อต้านกองกำลังของตาลีบัน และยึดพื้นที่สำคัญอย่างเมืองมาซาร์-อี-ชาริฟคืนมาให้สำเร็จ ปฏิบัติการหยุดลมหายใจในมือของทหาร 12 นาย ไร้กองหนุน ไร้การปกป้อง แต่ต้องโค่นกองทัพศัตรูที่จำนวนมากกว่าหลายเท่าถึง 40 : 1

 

 

2. ท่ามกลางชั่วโมงหยุดโลก เมื่อหน่วย Green Beret ต้องเข้าไปเหยียบดินแดนของศัตรูในระหว่างช่วงเวลาของความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจอย่างอเมริกากับกองกำลังผู้ก่อการร้าย กำลังปะทุสู่จุดที่เดือดที่สุด และเป็นช่วงเวลาที่ความปลอดภัยของคนทั้งโลกกำลังสั่นคลอน

 

 

3. ยุติสงครามเทพ สู่สงครามเดือดของจริง บทบาทของ “ผู้พันมิตช์ เนลสัน” นำแสดงโดยซูเปอร์สตาร์ที่คนทั้งโลกรู้จักเขาดี “คริส เฮมส์เวิร์ธ” ที่ครั้งนี้เขาจะสลัดภาพเทพเจ้าสายฟ้า Thor ทิ้งไป กลับมาสู่บทบาทแอคชั่น-เข้มข้นแมนเต็มตัวครั้งแรกในรอบหลายปี พร้อมลั่นสกิลแอคชั่นโชว์ซีนบู๊ระห่ำของจริง

 

 

4. หน่วยรบแกร่ง ทีมนักแสดงสตรอง จัดกองกำลังนักแสดงฝีมือเข้มมาร่วมกันเสริมทัพ 12 นายทหารสุดแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงเครดิตเข้าชิงออสการ์มาแล้วถึง 2 ครั้งอย่าง “ไมเคิล แชนนอน” จาก Revolutionary Roads และ Nocturnal Animals รวมทั้งนักแสดงฝีมือเก๋าอย่าง “ไมเคิล พีนา” เจ้าของรางวัลทีมนักแสดงยอดเยี่ยม SAG Awards จาก American Hustle รวมทั้ง “เทรวานเต โรดส์” นักแสดงฝีมือน่าจับตาจากภาพยนตร์เจ้าของรางวัลออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเรื่องล่าสุด Moonlight

 

 

5. โปรดิวเซอร์สายแอคชั่นมือพระกาฬ สมเป็นแอคชั่น-สงครามฟอร์มแรงประเดิมปี 2018 เพราะ “12 Strong” เป็นการกลับมาประกาศศักดาความเดือดของเจ้าพ่อโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์แอคชั่น-บล็อคบัสเตอร์ขวัญใจแฟนหนังอย่าง “เจอร์รี บรักไฮเมอร์” เจ้าของผลงานดังก้องโลกอย่าง Pirates of the Caribbean ทุกภาค, Pearl Harbour และ Armageddon ที่ทำเงินรวมกันทั่วโลกระดับหลายพันล้านเหรียญฯ รวมทั้งผลงานหนังสงครามขึ้นหิ้งของริดลีย์ สกอตต์ อย่าง Black Hawk Down โดยครั้งนี้บรักไฮเมอร์มาร่วมแทคทีมกับผู้อำนวยการสร้างจากหนังที่แจ้งเกิดบนเวทีรางวัลอย่าง La La Land และ Sicario

 

 

6. หน่วยพิฆาตบนหลังม้า ด้วยข้อจำกัดของภูมิประเทศและยุทธวิธีการทำศึกที่แยบยล ปฏิบัตรของทหารหาญทั้ง 12 นาย จึงไม่ใช่การต่อสู้บนเครื่องบินรบ โจมตีด้วยรถถัง หรืออาศัยสรรพอาวุธที่ล้ำเทคโนโลยี แต่พวกเขาจะกลับไปใช้ยุทวิธีการรบบนหลังม้า ที่แทบจะไม่เคยปรากฏมาก่อนในภาพยนตร์แอคชั่นสงครามร่วมสมัยเรื่องใดๆ ภาพของทหารอาวุธครบมือ 12 นายบนหลังม้าฝ่าหุบเขากลางไฟสงคราม จะรับประกันความแปลกใหม่ และเป็นภาพสงครามที่แตกต่างกว่าการสู้รบครั้งไหนอย่างแน่นอน

 

 

7. นักรบฝึกนักรบ นักแสดงได้รับการฝึกฝนที่ถอดแบบมาจากรูปแบบการฝึกจู่โจมของจริง โดยได้นายทหารหน่วย SEAL ตัวจริงของกองทัพสหรัฐฯ มาเป็นเทรนเนอร์ ทั้งฝึกการใช้อาวุธสงครามจริงหลากหลายประเภท รวมทั้งต้องฝึกการขี่ม้าและฝึกทักษะการต่อสู้ด้วยปืนบนหลังม้าเพื่อความสมจริงในการถ่ายทำ

 

 

8. ผลงานกำกับภาพยนตร์เต็มตัวครั้งแรกที่จะสร้างสรรค์วิสัยทัศน์ใหม่ให้กับภาพยนตร์สงครามของ “นิโคไล ฟูเกิลซิก” ซูเปอร์สตาร์วงการภาพยนตร์โฆษณาที่ผลงานของเขาเป็นที่ประจักษ์จนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Director Guilds  of America มาแล้วในสาขาภาพยนตร์โฆษณา โดยผลงานของเขาเป็นโฆษณาของแบรนด์สินค้าระดับโลกมาแล้วทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น X-Box, Nike, Guinness หรือ Canon เป็นต้น

 

 

9. ถ่ายทอดเรื่องราวทรงพลังเข้มข้นทุกอณู จากฝีมือขั้นโปรของผู้เขียนบทภาพยนตร์เจ้าของรางวัลออสการ์ “เท็ด ทัลลี” จาก The Silence of The Lambs และภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ขวัญใจทั้งโลกอย่าง The Hunger Games: Breaking Dawn ทั้งสองภาค ร่วมด้วย “ปีเตอร์ เคร็ก” ผู้เขียนบทจากภาพยนตร์ดราม่า-ทริลเลอร์ที่ได้รับคำชมมากมายเรื่อง The Town

 

 

10. จำลองภาพดินแดนระอุไฟสงครามสมจริงราวกับถ่ายทำในสถานการณ์จริง โดยทีมออกแบบงานสร้างแถวหน้าฮอลลีวู้ดจาก The Jungle Book, The Dark Tower และ Batman V Superman รวมทั้งการสร้างเทคนิคซีจีเพื่อเน้นภาพสมจริงของสงครามเดือดครั้งนี้ เป็นฝีมือของทีมซีจีจาก Kong: The Skull Island, Avatar และ Terminator: Salvation

 

 

11. แอคชั่นดุเดือดจะมาพร้อมกับความประทับใจแรงกล้า ในปฏิบัติการขีดเส้นตายนาทีต่อนาทีของเหล่าทหารหาญทั้ง 12 นาย เกิดขึ้นจากการหลอมรวมใจของพี่น้องและศรัทธาในหัวใจของการเป็นนักรบ ซึ่งกลายเป็นสปิริตอันแรงกล้าใจกลางสนามรบอันคุกรุ่น

 

 

12. ความกล้าหาญสู่ความทรงจำนิรันดร์ แม้ว่าจะเป็นปฏิบัติการระดับชาติที่ถูกปกปิดเป็นความลับอยู่นานหลายปี แต่ในที่สุดวีรกรรมของเหล่านายทหารบนหลังม้าหน่วย Green Beret ทั้ง 12 นายก็ได้รับการเปิดเผย และได้รับการสดุดีด้วยการสร้างอนุสรณ์สถานไว้ที่บริเวณกราวด์ ซีโร่ (Ground Zero) พื้นที่แห่งการไว้อาลัยของเหตุวินาศกรรม 9/11 ใจกลางมหานครนิวยอร์ก