“บทสนทนาอันคมคาย น้ำเสียงเสียดสีเปี่ยมอารมณ์ขัน” นี่คือนิยามที่เหล่าผู้ชมเมื่อกว่าครึ่งศตวรรษที่แล้วพูดถึงผู้กำกับ-นักเขียนบทผู้มีลายเซ็นเฉพาะตัว “บิลลี ไวลเดอร์” ไม่ว่าจะจับงานแนวไหน เขาก็มักพาเราไปถึงจุดที่ทั้งเซอร์ไพรส์ เจ็บแสบ และขำไม่ออกได้อย่างน่าทึ่ง ตั้งแต่ฟิล์มนัวร์เข้มข้นอย่าง “Double Indemnity” (1944) และ “Sunset Boulevard” (1950) ไปจนถึงคอมเมดี้ประชดประชันอย่าง “Some Like It Hot” (1959) และ “The Apartment” (1960)
แม้เวลาจะผันผ่านและโลกภาพยนตร์จะเต็มไปด้วยคลื่นลูกใหม่ ผลงานของ “บิลลี ไวลเดอร์” ก็ไม่เคยล้าสมัย แต่กลับยิ่งโดดเด่นท้าทายยุคสมัย ด้วยมุมมองอันเฉียบคมต่อมนุษย์ สังคม และความเปราะบางของชีวิต นักทำหนังรุ่นปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น “คริสโตเฟอร์ โนแลน”, “เวส แอนเดอร์สัน” หรือ “เกรตา เกอร์วิก” ล้วนได้รับอิทธิพลจากผลงานของผู้กำกับในตำนานแห่งฮอลลีวูดรายนี้
และในเดือนสิงหาคมนี้ โรงภาพยนตร์ “House สามย่าน” ขอเชิญผู้ชมทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก๋ากลับมาสัมผัสความมหัศจรรย์ของนักเล่าเรื่องอย่าง “บิลลี ไวลเดอร์” บนจอใหญ่อีกครั้งกับโปรแกรม “House Classics Re:Verb” ด้วย 2 ภาพยนตร์ 2 ขั้วอารมณ์ที่เปี่ยมไปด้วยความคมคายทางสุนทรียะ “Sunset Boulevard” (1950) เริ่มฉายวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคมนี้ (จำกัดรอบฉาย) และ “The Apartment” (1960) เริ่มฉายวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคมนี้ (จำกัดรอบฉาย)
เปิดจองตั๋วล่วงหน้าเร็วๆ นี้ ติดตามรายละเอียดรอบฉาย-จองบัตรสุดยอดภาพยนตร์คลาสสิกเหล่านี้ได้ที่ housesamyan.com และทางแอปพลิเคชัน “House Cinema”
Sunset Boulevard (1950)
ผู้กำกับ: บิลลี ไวลเดอร์ / นักแสดง: วิลเลียม โฮลเดน, กลอเรีย สวอนสัน, เอริค ฟอน สตรอไฮม์
ประเภท: อาชญากรรม / ประเทศ: สหรัฐอเมริกา / ภาษา: อังกฤษ (คำบรรยายไทย)
ความยาว: 110 นาที / ออกฉายครั้งแรก: สิงหาคม 1950
กลับมาฉายบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง เริ่ม 8 สิงหาคมนี้ (รอบฉายจำกัด) เฉพาะที่ “House สามย่าน” เท่านั้น
“โจ กิลลิส” (วิลเลียม โฮลเดน) นักเขียนบทภาพยนตร์หนุ่มผู้ตกอับพยายามเสนอบทหนังให้กับสตูดิโอใหญ่แต่ถูกปฏิเสธ วันหนึ่งขณะขับรถหนีเจ้าหนี้ เขาพลัดหลงเข้ามาในคฤหาสน์ลึกลับหลังหนึ่งในย่าน “ซันเซตบูเลอวาร์ด” ที่นั่นเขาได้พบกับ “นอร์มา เดสมอนด์” (กลอเรีย สวอนสัน) อดีตราชินีหนังเงียบที่ยังยึดติดอยู่กับความหลังอันรุ่งโรจน์
เมื่อรู้ว่าโจเป็นนักเขียน นอร์มาจึงขอให้เขาช่วยอ่านบทภาพยนตร์ที่เธอเขียนไว้เพื่อเตรียมหวนคืนวงการ โจพบว่าบทแย่มากและไม่มีทางที่จะสร้างเป็นหนังได้ แต่เขามองเห็นว่านี่คือโอกาสในการหาเงินจึงแกล้งชมเชยและยื่นข้อเสนอให้เธอว่าจ้างเขามาทำงาน
โจย้ายมาเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ของนอร์มา กลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกมายาอันหลอกลวงและเปลี่ยวเหงาของเธอ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มบิดเบี้ยวมากขึ้นทุกที จนนำไปสู่หายนะที่ไม่อาจถอยกลับได้ทัน
“Sunset Boulevard” เป็นหนังฟิล์มนัวร์ตลกร้ายเรื่องสำคัญของฮอลลีวูด และเป็นงานชิ้นเอกของ “บิลลี ไวลเดอร์” มือเขียนบทและผู้กำกับคนสำคัญของฮอลลีวูด หนังเข้าชิง 11 รางวัลออสการ์ และเป็น “หนึ่งในหนังที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งชาติ” โดย “ห้องสมุดสภาคองเกรสสหรัฐอเมริกา” และที่สำคัญมันเป็นหนังที่พูดถึงความเลวร้ายของฮอลลีวูดได้ดีและเจ็บแสบที่สุดตั้งแต่มีการสร้างหนังแนวนี้มา
“บิลลี ไวลเดอร์” (1906-2002) เป็นผู้กำกับและนักเขียนบทในยุคคลาสสิกของฮอลลีวูด มีผลงานโดดเด่นหลายแนวทั้งดราม่า, อาชญากรรม และตลก หนังหลายต่อหลายเรื่องของเขาได้รับการยกย่องให้เป็นต้นแบบในหนังสายตระกูลนั้นๆ เช่น หนังฟิล์มนัวร์อย่าง “Double Indemnity” (1944), “Sunset Boulevard” (1950) หนังตลกอย่าง “Some Like It Hot” (1959), “The Apartment” (1960) ฯลฯ ไวลเดอร์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยากจะหาใครเหมือน โดยเฉพาะการเขียนบทสนทนาอันคมคาย น้ำเสียงเสียดสีเปี่ยมอารมณ์ขัน และการผสมผสานระหว่างความจริงจังกับเรื่องชวนหัว ไวลเดอร์ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมือเขียนบทที่ดีที่สุดคนหนึ่งตั้งแต่ฮอลลีวูดเคยมีมา
เดิมทีไวลเดอร์อยากดัดแปลงนิยายเรื่อง “The Loved One” ของ “อีฟลีน วอห์” แต่ไม่สามารถซื้อลิขสิทธิ์มาได้ นิยายเรื่องนั้นพูดถึงความสัมพันธ์ของนักเขียนบทภาพยนตร์ที่ล้มเหลวซึ่งต้องอาศัยอยู่กับอดีตดาราหนังเงียบในสุสาน เมื่อไม่สามารถใช้ต้นฉบับนิยายได้ ไวลเดอร์จึงจัดการปรับเปลี่ยนเรื่องเสียใหม่
ไวลเดอร์เล็งนักแสดงหญิงรุ่นใหญ่ในยุคนั้นไว้หลายคน สำหรับบท “นอร์มา เดสมอนด์” ทั้ง “เมย์ เวสต์”, “เกรตา การ์โบ”, “แมรี พิกฟอร์ด” แต่สุดท้ายผู้กำกับ “จอร์จ คิวกอร์” ก็แนะนำให้เขาเลือก “กลอเรีย สวอนสัน” อดีตนักแสดงหนังเงียบที่หายจากวงการไปแล้วหลังจากฮอลลีวูดเปลี่ยนมาทำหนังเสียง
“กลอเรีย สวอนสัน” (1899-1983) เป็นนักแสดงหญิงอเมริกันที่มีผลงานหลายสิบเรื่องในยุคหนังเงียบ เธอเข้าวงการตั้งแต่อายุ 15 ปี เริ่มต้นเป็นนักแสดงในสังกัดพาราเมาต์ และย้ายมาอยู่ยูไนเต็ดอาร์ตทิสต์ ก่อนจะค่อยๆ หายหน้าจากวงการไปเมื่อฮอลลีวูดเริ่มสร้างหนังเสียง แม้หลายคนจะคิดว่าสวอนสันมีความคล้ายคลึงกับตัวละคร “นอร์มา เดสมอนด์” มาก แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับตรงกันข้าม ในหนังสือชีวประวัติของเธอระบุว่า “‘สวอนสัน’ เป็นคนที่ไม่เพ้อฝัน และอยู่กับโลกความเป็นจริงมากที่สุดคนหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจ และเป็นนักแสดงที่เก่งกาจ เก่งจนถึงขนาดที่เล่นจนคนเชื่อว่าเธอมีบุคลิกเป็น ‘นอร์มา เดสมอนด์’ จริงๆ” การได้มารับบทนำใน “Sunset Boulevard” ทำให้สวอนสันกลายเป็นตำนานของฮอลลีวูด แม้ปีนั้นเธอจะเข้าชิงออสการ์และชวดรางวัล ทว่าบทบาทของเธอยังคงเป็นที่จดจำมาจนถึงปัจจุบัน
“Sunset Boulevard” ได้รับการยกย่องให้เป็น “หนึ่งในหนังฮอลลีวูดที่ดีที่สุดตลอดกาล” ติดอันดับหนังยอดเยี่ยมของหลายสถาบัน ทั้งการขึ้นทะเบียนภาพยนตร์แห่งชาติของห้องสมุดสภาคองเกรส สหรัฐฯ, การจัดอันดับหนังยอดเยี่ยมของนิตยสาร “Sight & Sound”, ติดอันดับ “1 ใน 10 บทหนังที่ดีที่สุดตลอดกาล” ของ “สมาคมนักเขียนบทภาพยนตร์อเมริกัน” และติดอีกหลายอันดับในหลายหมวดหมู่ของสถาบันภาพยนตร์อเมริกัน
The Apartment (1960)
ผู้กำกับ: บิลลี ไวลเดอร์ / นักแสดง: แจ็ก เลมมอน, เชอร์ลีย์ แม็กเลน, เฟร็ด แม็กเมอร์เรย์
ประเภท: ตลก / ประเทศ: สหรัฐอเมริกา / ภาษา: อังกฤษ (คำบรรยายไทย)
ความยาว: 125 นาที / ออกฉายครั้งแรก: มิถุนายน 1960
กลับมาฉายบนจอใหญ่ เริ่ม 22 สิงหาคมนี้ (รอบฉายจำกัด) เฉพาะที่ “House สามย่าน” เท่านั้น
“ซีซี แบ็กซ์เตอร์” (แจ็ก เลมมอน) เป็นพนักงานระดับล่างในบริษัทใหญ่ที่ยอมแลกศักดิ์ศรีของตัวเองด้วยการยอมให้ผู้บริหารระดับสูงมาผลัดกันใช้ “อพาร์ตเมนต์” ของเขาเป็นที่นัดพบชู้รักเพื่อแลกกับโอกาสได้เลื่อนขั้นในหน้าที่การงาน
แต่ความวุ่นวายเล็กๆ เกิดขึ้นเมื่อแบ็กซ์เตอร์ดันตกหลุมรัก “ฟราน คิวบีลิก” (เชอร์ลีย์ แม็กเลน) พนักงานกดลิฟต์สาวที่บังเอิญเป็นอีหนูของเจ้านายของเขา แบ็กซ์เตอร์จึงต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้งระหว่างความรัก ความทะเยอทะยาน และศีลธรรมในใจตัวเอง
“The Apartment” เป็นหนังที่นักดูหนังทั่วโลกต่างตกหลุมรัก มันเป็นหนังโรแมนติกที่ทั้งเศร้าและทั้งขบขัน พูดถึงคนเหงาในเมืองใหญ่ และทุนนิยมที่กลืนกินความเป็นมนุษย์ได้ถึงแก่น ถือเป็นหนึ่งในงานชิ้นเอกของ “บิลลี ไวลเดอร์” และเป็นต้นแบบให้กับหนังตลกอีกหลายๆ เรื่องในยุคต่อมา
“The Apartment” เข้า “ชิง 10 รางวัลออสการ์” ในปี 1961 และหนังเรื่องนี้ทำให้ “บิลลี ไวลเดอร์” เป็น “คนแรกที่ได้ออสการ์ 3 สาขารวดในปีเดียว” คือ “หนังยอดเยี่ยม”, “ผู้กำกับ” และ “บทภาพยนตร์”
และเช่นเดียวกับหนังอีกหลายเรื่องของ “บิลลี ไวลเดอร์” มันได้รับ “การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติ” จาก “ห้องสมุดสภาคองเกรส สหรัฐอเมริกา”, ติดอันดับ “หนังยอดเยี่ยมตลอดกาล” ของ “สถาบันภาพยนตร์อเมริกัน”, นิตยสาร “Sight & Sound” และหนังสือพิมพ์ “เดอะนิวยอร์กไทม์ส”