เรื่องย่อ

ปิดหู ปิดตา แล้วเรื่องร้ายๆ จะผ่านไป

“The Seed of the Sacred Fig”

ภาพยนตร์ดราม่าการเมืองที่ถูกห้ามฉายในประเทศอิหร่าน แต่ได้ใจคนทั้งโลก

ผลงานของผู้กำกับ “โมฮัมหมัด ราซูลอฟ” (A Man of Integrity, There Is No Evil)

เข้าชิงรางวัล “ออสการ์ 2025” สาขา “ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม” (ตัวแทนประเทศเยอรมนี)

เข้าชิง “ลูกโลกทองคำ 2025” สาขา “ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม”

เจ้าของรางวัลรางวัลพิเศษ “ขวัญใจกรรมการ” จาก “เทศกาลหนังเมืองคานส์ 2024”

ร่วมพิสูจน์ “เมล็ดพันธุ์คนดีย์” ก่อนใคร เปิดรอบพิเศษ 20-26 กุมภาพันธ์

ฉายจริง 27 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์

“อิมอน” เป็นทนายความที่ตั้งใจทำงานหนัก เขาอาศัยอยู่ในเตหะรานกับ “นาจเมห์” ผู้เป็นเมีย พร้อมด้วย “เรซวาน” กับ “ซานา” ลูกสาว 2 คน วันหนึ่งเขาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตุลาการสืบสวนของศาลปฏิวัติอิหร่าน ศาลที่ได้ชื่อว่าเป็นเผด็จการและตัดสินโทษโดยไม่มีหลักฐาน

ตำแหน่งใหม่มาพร้อมเงินเดือนที่สูงขึ้น อพาร์ตเมนต์ที่ใหญ่โตขึ้น แต่ในเวลานั้น อิหร่านกำลังเผชิญหน้ากับการชุมนุมครั้งใหญ่ของคนรุ่นใหม่เพื่อเรียกร้องเสรีภาพในการแสดงออกและกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใส

เรื่องเริ่มตึงเครียดขึ้นเมื่อลูกสาวทั้งสองคนของเขามีท่าทีเห็นด้วยกับผู้ชุมนุม ชีวิตสมรสของอิมอนกับนาจเมห์กำลังจะสั่นคลอน เพราะในฐานะพ่อแม่ พวกเขาต้องเลือกระหว่างมนุษยธรรมหรือกฎเกณฑ์อันละเมิดมิได้

“มันคือหนังระทึกขวัญที่จะทำให้หัวใจเต้นระส่ำด้วยความหวาดระแวง” – The Telegraph

“‘โมฮัมหมัด ราซูลอฟ’ สร้างอุปมาถึงสังคมชายเป็นใหญ่ที่กดทับสตรีได้แหลมคม และตีแสกหน้าอย่างไม่ยั้งมือ” – IndieWire

“หนังเปลี่ยนอารมณ์ของเรื่องได้อย่างแนบเนียน มารู้สึกตัวอีกทีว่ากำลังดูหนังสยองขวัญอยู่ก็สายเกินไปแล้ว” – TimeOut

“ท่ามกลางความเกรี้ยวกราด หนังได้สร้างตัวละครหญิงที่เปี่ยมไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ และใช้มันเป็นพลังเพื่อต่อสู้กับอำนาจ” – The New Yorker

“The Seed of the Sacred Fig” เป็นภาพยนตร์สุดโด่งดังในรอบปี 2024 ผลงานกำกับของ “โมฮัมหมัด ราซูลอฟ” เปิดตัวครั้งแรกใน “เทศกาลหนังเมืองคานส์ ครั้งที่ 77” และได้รางวัลพิเศษขวัญใจกรรมการ หนังอิงบริบทที่เกิดขึ้นจริงในอิหร่านเมื่อปี 2022 เหตุการณ์ประท้วงที่ถือได้ว่ารุนแรงที่สุดนับตั้งแต่การปฏิวัติอิหร่านในปี 1979

ล่าสุด หนังเป็น “ตัวแทนประเทศเยอรมนี” เข้าชิงรางวัล “ออสการ์ ครั้งที่ 97” (#Oscars2025) สาขา “ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม” (Best International Feature Film)

ประวัติย่อผู้กำกับ “โมฮัมหมัด ราซูลอฟ“

หนึ่งในผู้กำกับร่วมสมัยชาวอิหร่านที่โด่งดังมากในระดับนานาชาติ งานของเขาทุกเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาของสังคมอย่างดุดันตรงไปตรงมา และหลายครั้งทำให้เขามีปัญหากับรัฐบาล

“โมฮัมหมัด ราซูลอฟ” เกิดในปี 1972 เขาเรียนจบปริญญาตรีสาขาสังคมวิทยา จากนั้นไปเรียนด้านการตัดต่อภาพยนตร์ เขาทำหนังเรื่องแรกในปี 2002 ชื่อ “The Twilight” และต่อมาในปี 2009 ทำหนังเรื่อง “The White Meadows” ซึ่งวิจารณ์รัฐรุนแรงจนทำให้เขาถูกรัฐบาลสั่งจำคุก (พร้อมกับ “จาฟาร์ ปานาฮี” ผู้กำกับอิหร่านชื่อดังอีกท่านหนึ่ง) เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ผู้กำกับชื่อดังทั่วโลก อาทิ “สตีเวน สปีลเบิร์ก”, “มาร์ติน สกอร์เซซี” ออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขา

ปี 2011 เขาทำหนังเรื่อง “Goodbye” ชนะรางวัล “ผู้กำกับยอดเยี่ยม” จาก “เทศกาลหนังเมืองคานส์ ครั้งที่ 64” ในสาย “Un Certain Regard” หลังจากนั้นเขาก็ทำหนังที่โด่งดังออกมาเรื่อยๆ ทั้ง “Manuscripts Don’t Burn” (2013) และ “A Man of Integrity” (2017)

ในปี 2020 หนังเรื่อง “There Is No Evil” ของเขาชนะเลิศหมีทองคำ “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” จาก “เทศกาลหนังเบอร์ลิน ครั้งที่ 70” และทำให้เขาโดนรัฐบาลสั่งจำคุกอีกรอบ

หนังเรื่องล่าสุดของเขา “The Seed of the Sacred Fig” ทำให้เขาโดนรัฐบาลสั่งให้ถอนหนังออกจากการฉายใน “เทศกาลหนังเมืองคานส์ 2024” แต่ราซูลอฟปฏิเสธ ทำให้เขาโดนโทษจำคุก 8 ปี โชคดีที่เขาและทีมงานบางส่วนหลบหนีออกจากประเทศได้ทัน

“The Seed of the Sacred Fig” ออกฉายพร้อมได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ทั่วโลก และกลายเป็นตัวแทนเข้าชิงออสการ์จากประเทศเยอรมนีในปีนี้

อ้างอิงจากเหตุการณ์จริง

เดือนกันยายน ปี 2022 หญิงสาวชาวอิหร่านชื่อ “มาห์ซอ อามินี” ถูกตำรวจศีลธรรมจับข้อหา “แต่งกายไม่เรียบร้อย” เนื่องจากเธอสวมผ้าคลุมหัวไม่มิดชิด หลังจากนั้นเธอเป็นลมหมดสติ และนอนโคม่าอยู่ 3 วันก่อนเสียชีวิต ทางการแถลงว่าเธอตายด้วยโรคหัวใจซึ่งเป็นโรคประจำตัว โดยไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลมากกว่านั้น ต่อมามีแฮกเกอร์นำภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงเวลาที่อามินีล้มหมดสติมาเปิดเผย และคาดการณ์ว่าเธอเสียชีวิตเพราะโดนตำรวจศีลธรรมทารุณกรรม

เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดความไม่พอใจอย่างกว้างขวางตามเมืองต่างๆ ในอิหร่าน ทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยปิดทำการสอน ผู้ชุมนุมเรียกร้องกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใส และเรียกร้องสิทธิเหนือร่างกายตนเองของสตรี ผู้ชุมนุมโดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่พากันออกมาเดินตามถนนและถือป้าย “ผู้หญิง ชีวิต เสรีภาพ”, “เผด็จการจงพินาศ” ฯลฯ

รัฐบาลส่งหน่วยคุมฝูงชนมาทำร้ายผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง มีคนตายนับพันคน บาดเจ็บกว่า 900 คน โดยในกลุ่มผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บมีเยาวชนรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังจับกุมผู้ชุมนุมไปขึ้นศาลปฏิวัติมากถึง 14,000 ราย ถือเป็นเหตุการณ์ความไม่สงบครั้งใหญ่ที่สุดในอิหร่านนับตั้งแต่การปฏิวัติในปี 1979 เป็นต้นมา

เบื้องหลังงานสร้าง

“The Seed of the Sacred Fig” อ้างอิงถึง “ต้นโพ” หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “มะเดื่อศักดิ์สิทธิ์” ที่แพร่พันธุ์โดยเมล็ดไปขออาศัยน้ำเลี้ยงจากต้นไม้อื่น ก่อนจะรัดต้นไม้ต้นนั้นจนตายและตัวมันเองก็เจริญเติบโต เปรียบเปรยเหมือนระบอบการปกครองแบบเทวาธิปไตยของอิหร่าน

“โมฮัมหมัด ราซูลอฟ” ใช้เวลาถ่ายทำทั้งสิ้น 70 วัน แต่เป็นการถ่ายไม่ต้องเนื่อง และต้องหยุดพักกองบ่อยครั้งเพราะเป็นการถ่ายทำโดยไม่ขออนุญาต ระหว่างนั้นราซูลอฟก็โดนหมายศาล ทุกอย่างดำเนินไปอย่างทะลักทุเล หนังถ่ายเสร็จในเดือนมีนาคมปี 2024 ฟุตเตจทั้งหมดต้องแอบขนไปให้ “แอนดรูว์ เบิร์ด” มือตัดต่อที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี

และเบิร์ดเป็นคนนำฟุตเตจจริงจากการประท้วงตัดแทรกใส่เข้าไปในหนัง เพื่อแสดงให้เห็นความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งกระทำทารุณต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์

หลังจากถ่ายทำหนังเสร็จนั้น ผู้กำกับราซูลอฟเล่าว่าศาลจะตัดสินให้เขาติดคุกอีกครั้ง เขาจึงมีเวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้นในการตัดสินใจว่าครั้งนี้เขาต้องหนีออกจากประเทศอิหร่าน ราซูลอฟออกจากอิหร่านด้วยการเดินเท้าพร้อมกับทีมงานส่วนหนึ่ง ทิ้งข้าวของไว้ที่บ้านโดยแทบไม่ได้ขนอะไรมาเลย เขาใช้เวลา 28 วันกว่าจะถึงยุโรป

ตอนหนังฉายรอบปฐมทัศน์ที่เมืองคานส์ ทีมงานหลายคนไม่ได้มาร่วมเดินพรมแดงด้วย ราซูลอฟชูรูปถ่ายของ “โซไฮลา โกเลสตานี” และ “มิสซาจ ซาเรห์” สองนักแสดงนำของเรื่องที่โดนรัฐบาลสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

“The Seed of the Sacred Fig” ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์อย่างเอกฉันท์ ถูกยกย่องให้เป็น “หนังดราม่าการเมืองที่ทรงพลังที่สุดในรอบปี”

Dāne-ye anjīr-e ma'ābed Mahsa Rostami Missagh Zareh Mohammad Rasoulof Niousha Akhshi Setareh Maleki Soheila Golestani The Seed of the Sacred Fig دانه‌ی انجیر معابد เมล็ดพันธุ์คนดีย์