เผชิญหน้ากับสิ่งที่พ่อแม่ทั่วโลกกลัวที่สุด! “The Son” จาก “ละครเวทีสุดฮิต” สู่ “ภาพยนตร์คุณภาพ” ไม่ควรพลาดชม เริ่ม 26 มกราคมนี้ เฉพาะ “House สามย่าน”

“The Son” ผลงานบทละครเวทีเรื่องดังของ “ฟลอเรียน เซลเลอร์” ที่สร้างความฮือฮาทั้งในฝรั่งเศสและอังกฤษได้ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์คุณภาพว่าด้วยเรื่องของพ่อที่ต้องรับมือกับลูกชายวัยรุ่นซึ่งมีอาการซึมเศร้าอย่างรุนแรง พ่อพยายามทำทุกวิถีทาง ยอมเสียสละเวลาและความฝันของตนเองเพื่อมาแก้ปัญหาให้ลูกของเขา

 

 

ตอนที่ “The Son” เปิดการแสดงครั้งแรกในปี 2018 ก็กลายเป็นข่าวดังเพราะเนื้อหาของละครรบกวนจิตใจผู้ชมมาก จนถึงขนาดผู้ชมไม่ยอมลุกจากที่นั่งและต้องการพูดคุยกับนักแสดงพร้อมผู้กำกับ

 

“ผมเขียน ‘The Son’ ขึ้นมาเพราะต้องการสร้างบทสนทนาในสังคม” ผู้กำกับ-เขียนบท “ฟลอเรียน เซลเลอร์” กล่าว “บทละครเรื่องอื่นๆ ที่ผมเขียนมักจะมีโครงสร้างคล้ายกับเขาวงกต มีลูกเล่นในการเล่า แต่กับ ‘The Son’ แล้ว ผมเลือกที่จะเล่าแบบตรงไปตรงมาที่สุด โยนปัญหาให้คนดูเห็นและเผชิญหน้ากับมันตรงๆ”

 

“The Son” เล่าเรื่องราวของ “ปีเตอร์” (ฮิวจ์ แจ็กแมน) ที่กำลังตื่นเต้นกับชีวิตใหม่ งานกำลังไปได้สวย พร้อมๆ กับที่ “เบท” (วาเนสซา เคอร์บี) คนรักของเขาเพิ่งให้กำเนิดลูกตัวน้อย แต่ทุกอย่างคล้ายถูกฉุดกระชากลงฉับพลันเมื่อวันหนึ่ง “เคต” (ลอรา เดิร์น) ภรรยาเก่าของเขาที่เลิกรากันไปแล้วได้มาหาถึงหน้าบ้าน เคตมาเพื่อเล่าให้ฟังว่า “นิโคลัส” (เซน แม็กแกรท) ลูกชายวัยรุ่นของพวกเขากำลังมีปัญหาถึงขั้นอาจต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียน เคตหมดหนทางแก้ไขถึงได้บากหน้ามาให้ปีเตอร์ช่วยจัดการ ด้วยหน้าที่พ่อ ปีเตอร์ขอรับนิโคลัสมาอยู่ด้วย และพยายามทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยร่าเริง เปี่ยมไปด้วยความฝัน อะไรทำให้จู่ๆ ลูกชายของเขาแทบไม่เหลือพลังในการดำเนินชีวิตอีกต่อไป มันเป็นความผิดของเขาหรือเปล่า เขาเป็นพ่อที่แย่อย่างงั้นหรือ ปีเตอร์คิด หรือมันเป็นความผิดของใครกันแน่

 

 

“ฮิวจ์ แจ็กแมน” เป็นหนึ่งในคนที่ได้ดูละครเวทีเรื่อง “The Son” และประทับใจมาก ทันทีที่เขาทราบว่าเซลเลอร์กำลังดัดแปลงเรื่องนี้เป็นหนัง เขาก็อีเมลเพื่อเสนอตัวเองมารับบทพ่อในเรื่องทันที “ผมคิดว่ามันเป็นบทละครที่กล้าหาญมาก และผมอยากมีส่วนร่วมในงานนี้เหลือเกิน”

 

ผู้กำกับเซลเลอร์อธิบายว่า “ผมทำหนังเรื่องนี้เพื่อสื่อสารกับคนดูโดยตรง ให้พวกเขาได้เห็นในสิ่งที่พวกเขาหวาดกลัว สังคมเราเมินเฉยกับปัญหาซึมเศร้าด้วยความไม่รู้ เราอับอาย เราหวั่นใจที่จะพูดถึงมัน แต่การแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดสำหรับผมคือการยอมรับความจริง”

 

ทั้งนี้เซลเลอร์ไม่ได้เขียนบทละครอย่างไร้ความรับผิดชอบ เขาปรึกษานักจิตวิทยาหลายคน หาข้อมูลอย่างหนักก่อนลงมือเขียน “ผมไม่ได้ต้องการนำเสนอความเจ็บปวดของคนเป็นพ่อแม่ แต่ผมต้องการจะบอกว่าบางทีความรักอย่างเดียวอาจจะยังไม่พอ และจุดที่น่าสนใจสำหรับผมก็คือมีบางครั้งที่พ่อแม่รู้สึกว่าตนเองกลายเป็นคนหมดสิ้นพละกำลัง และจนตรอกที่จะแก้ปัญหา”

 

 

เซลเลอร์ทิ้งท้ายว่าเขาอยากให้ทุกคนมาดู “The Son” ไม่ว่าดูแล้วจะรู้สึกยังไงกับมันก็ตาม “ผมคิดว่าเวลามนุษย์เราเจอกับปัญหาหนักๆ เราจะรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ตามลำพัง แต่งานศิลปะจะช่วยให้มนุษย์เข้าใจได้ว่าเราไม่ได้อยู่ตามลำพัง แม้ในยามที่สิ้นหวังที่สุดก็ตาม”

 

“The Son” ฉบับภาพยนตร์ยังคงสร้างความฮือฮาเช่นเดิม นักวิจารณ์แบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน ทั้งคนที่รู้สึกว่าหนังรุนแรงเกินไป และอีกฝั่งที่ชื่นชมความกล้าหาญของหนังที่ไม่ประนีประนอมกับผู้ชม!

 

ห้ามพลาด! “The Son” พร้อมเข้าฉายไทย 26 มกราคมนี้เป็นต้นไป ที่โรงภาพยนตร์ “House สามย่าน” แห่งเดียวเท่านั้น

 


Featured News