“โคเรเอดะ ฮิโรคาสุ” ผู้กำกับที่คอหนังตัวยงจะคุ้นชินกับผลงานของเขากันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น “Nobody Knows” (2004), “Air Doll” (2009), “I Wish” (2011), “Our Little Sister” (2013), “The Third Murder” (2017) และล่าสุด “Shoplifters” (2018) เจ้าของรางวัลปาล์มทองคำจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์
“The Truth” ถือเป็นภาพยนตร์โกอินเตอร์ครั้งแรกของเขาที่ใช้นักแสดงต่างชาติล้วนๆ นำแสดงโดย “จูเลียตต์ บิโนช” จากภาพยนตร์ไตรภาค “Three Colors: Blue” (1993) และโด่งดังสุดขีดจาก “The English Patient” (1996) ร่วมด้วย “แคเธอรีน เดอเนิฟ” เจ้าแม่แห่งวงการหนังฝรั่งเศสผู้โด่งดังจาก “Indochine” (1992) และ “8 Women” (2002) ปะทะฝีมือกับ “อีธาน ฮอว์ก” หนุ่มหล่อจาก “Before Sunrise” (1995)
จริงๆ แล้ว โคเรเอดะมีแผนอยากทำหนังเรื่อง “The Truth” มานานแล้ว เขาเขียนบทไว้ตั้งแต่ปี 2003 เพื่อจะทำเป็นละครเวทีก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้สร้างและแสดงจริง เขาเล่าว่าแม่ของเขาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการเขียนบท เพราะเธอถือเป็นคอหนังตัวยง เป็นตัวตั้งตัวตีในการพาครอบครัวออกไปดูหนัง โคเรเอดะยังเล่าอีกว่าแม่ของเขาชอบหนังฝรั่งเศสมากๆ เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาอยากทำหนังหรือร่วมงานกับทางฝรั่งเศสดูสักครั้ง
แม้ว่าเขาจะไม่มีความรู้เรื่องภาษาฝรั่งเศสเลย เมื่อต้องทำหนังเรื่องนี้เขาจึงเอาบทที่เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นไปแปลให้นักแสดงและทีมงานอ่าน และหากใครมีข้อสงสัยหรืออยากสนทนาด้วยเขาก็จะให้ล่ามช่วยคุยช่วยแปลอีกที
ท่ามกลางอุปสรรคทั้งหมดที่แทบมาจากภาษาทั้งนั้น โคเรเอดะกล่าวว่าวิธีการทำงานของคนญี่ปุ่นกับคนฝรั่งเศสแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรวดเร็วว่องไวของคนฝรั่งเศสซึ่งอาจเรียกได้ว่าไวกว่าคนญี่ปุ่นถึง 2 เท่า
โคเรเอดะแอบแซวเดอเนิฟว่า นักแสดงชาวฝรั่งเศสทั่วไปจะทำงานเพียงแค่วันละ 8 ชั่วโมง แต่เธอทำงานแค่ 6 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น “เพราะเธอไม่เคยมากองถ่ายก่อนเที่ยงเลย” ถึงอย่างนั้นเดอเนิฟก็เป็นเพียงคนเดียวในสายตาเขาที่เหมาะกับบทนี้ และหนังทั้งเรื่องจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเธอไม่นำแสดง โคเรเอดะยังชมว่าด้วยเสน่ห์และความสามารถเฉพาะตัวของเดอเนิฟ เธอจึงแบกชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของประเทศไว้บนบ่าของตัวเองได้อย่างดี และไม่มีนักแสดงคนไหนในญี่ปุ่นสามารถลอกเลียนหรือทำแบบเธอได้
“The truth ครอบครัวตัวดี”
6 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์