โกยเถอะเกย์ (Ghost Station)
เรื่องย่อ
ภาพยนตร์ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดแต่ปักใจให้ทุกคนได้ฮา
“ตุ๊ด ยุทธล่อม – ต้อม ยุทธเลิศ” ผู้กำกับมาดกวนประกาศเปิดสถานีความฮาครั้งใหม่
กับภาพยนตร์เรื่องที่ 7
“โกยเกอะเกย์” (Ghost Station)
ภาพยนตร์จาก “ก้น” บึ้งหัวใจ สถานีบริการอารมณ์ขันตลอด 24 ชั่วโมง
“หอย-เกียรติศักดิ์ อุดมนาค” (นางเอกเสียวสุด)
จูงมือเปิดประตู (หลัง) ประกาศรักครั้งใหม่สุดสยิวกิ้วหัวใจ
ในบทบาทชายชนท้ายชายกับ “เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย” (พระเอกสุดเตี๋ยว)
แบบมันส์ไม่มีแตะเบรก…
เตรียมพบสุขนาฏกรรมความเลิฟที่จะเติมทุกอารมณ์ความสุขสยองปนสยิวของคุณ…ให้เต็มถัง
เพราะสองเรา บริสุทธิ์ใจ ในความรัก
อยากฟูมฟัก ให้ยืนนาน ปานขุนเขา
แม้ยามสุข ยามทุกข์ ช่วยแบ่งเบา
อย่ามัวเอา ดุ้นหว่างขา มาใส่ใจ
เรื่องราวความรักระหว่าง “อู๊ด” (หอย-เกียรติศักดิ์ อุดมนาค) กับ “ใหญ่” (เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย) คู่รักพลพรรคชายรักชายที่ลงทุนทิ้งชีวิตอันวุ่นวายในเมืองหลวงมาซื้อปั๊มน้ำมันร้างแห่งหนึ่งที่อยู่ในหุบเขาห่างไกลความเจริญ เพื่อหวังเป็นรังรักไว้ครองคู่กันตราบฟ้าดินสลายสไตล์หนังโปรดแนวคาวบอยหนุ่มของทั้งคู่อย่าง “Brokeback Mountain” แต่ความจริงกลับไม่สวยงามอย่างที่คิดไว้เพราะอู๊ดจับได้ว่าใหญ่ดั๊นนน…ไป XXX ชนิดได้หน้าลืมหลังแบบอึ้ง-ทึ่ง-เสียว (โว้ย!!!) กับ “แตงโม” (อิม-อชิตะ สิกขมานา) ทอมสุดห้าวแฟนของดี้สาวนาม “เจนนี่” (ทราย-สุภัสสรา เรืองวงศ์)
เรื่องมาถึงจุดวิบัติเมื่อใหญ่ไม่รู้ว่าแตงโมเป็นทอม แตงโมไม่รู้ว่าใหญ่เป็นเกย์ มีแต่อู๊ดคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองถูกทอมหน้าหวานสวมเขา เมื่อความรักแบบสุดใจต้องพบกับความผิดหวังแบบสุดแรง มันก็ทำให้เกิดความแค้นแบบสุดโคตร คนจริงอย่างอู๊ดจึงวางแผนเปลี่ยนปั๊มแห่งรักให้กลายเป็นหลุมฝังศพของคู่เกย์ที่กล้าขยี้หัวใจสีชมพูดวงน้อยๆ ของเขาให้แหลกคามือพร้อมทั้งนังชะนีทอมที่กล้าเป็นมือที่สาม แต่เรื่องมันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อปั๊มที่ทั้งคู่อยู่นั้นไม่ใช่แค่ปั๊มร้าง แต่มันคือปั๊มเฮี้ยนที่มีเซอร์ไพรส์สุดหลอนรออยู่
เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร เกย์จะฆ่าทอม หรือว่าทอมจะฆ่าผี แล้วตกลงดี้จะฆ่าใคร
ความแค้นของใครจะรุนแรงกว่ากัน “ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค” ขอเชิญพิสูจน์ความมันส์แบบการันตีความฮาในหนังตลกฮาตกเก้าอี้
บันทึกผู้กำกับ “ต้อม ยุทธเลิศ” (Director’s Note)
พักหลังแผนการที่วางไว้ในการสร้างหนังของผมไม่ใคร่จะเป็นไปตามที่วางไว้นัก เพราะหลังจาก “กระสือวาเลนไทน์” (2549) ผมก็เตรียมจะสร้าง “โคตรมหาการ” ต่อ แต่ด้วยงบประมาณของผู้กำกับมันมีมากเกินงบประมาณของผู้สร้าง โคตรมหาการจึงต้องถูกชะลอไปในที่สุด ผมจึงต้องหาเอาโครงการที่อยู่ในงบประมาณของผู้สร้างซึ่งก็ได้เรื่อง “มนุษย์ไฟฉาย” ภาพยนตร์ตลกสะท้อนสังคมสำหรับครอบครัวชาวไทย ซึ่งวางแผนจะเปิดกล้องเมื่อได้คิวนักแสดงหลักในเดือนมีนาคม 2007 แต่ระหว่างที่เตรียมงานอยู่นั้น มีวันหนึ่งบังเอิญไปเดินเล่นแถวข้าวสาร ดันไปเจอ “พี่เปิ้ล นาคร” เข้า การพูดคุยอย่างออกรสทำให้เกิดภาพยนตร์ที่ไม่มีในแผนงานนั้นก็คือ “โกยเถอะเกย์”
“โกยเถอะเกย์” ตั้งชื่อตามลักษณะของหน้าหนังที่ชี้ให้เห็นชัดๆ ไปเลยว่านี่คือหนังตลก ปกติหนังของผมที่ทำมาส่วนใหญ่จะมีตลกเป็นส่วนผสมแทรกอยู่ในหนังแนวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังแอคชั่นแบบ “มือปืน/โลก/พระ/จัน” (2544), หนังสยองขวัญอย่าง “บุปผาราตรี” (2546) หรือหนังโรแมนติกแบบ “สายล่อฟ้า” (2547)
แต่ครั้งนี้ “โกยเถอะเกย์” จะเป็นครั้งแรกที่แนวตลกจะเป็นตัวนำ แล้วความสยองขวัญจึงค่อยๆ ตามมาพร้อมๆ กับความรัก และรักครั้งนี้ก็จะเป็นรักแบบชายกับชาย และหญิงกับหญิงที่ดันมีอันมาพันตูกันเข้า จะพันกันยังไงก็แล้วแต่ อารมณ์ของหนังมันก็จะออกมาตอบโจทย์ของตลกเป็นหลัก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหนังตลกจะถูกครองตลาดโดยนักแสดงตลกอาชีพ เรียกเป็นภาษาชาวบ้านก็คือเป็นยุคตลกคาเฟ่ครองตลาดหนังไทย เพราะถ้ามีตลกเล่นนำโอกาสทำเงินร้อยล้านเกิดขึ้นได้เสมอ ถือว่าเป็นยุครุ่งเรืองของตลกแนวคาเฟ่เพราะยังเป็นหนังแนวเดียวที่เข้าถึงรากหญ้าได้ดีกว่าตลกแนวอื่นๆ “โกยเถอะเกย์” จัดเป็นหนังตลกแนวอื่นที่ไม่ใช่แนวเดียวกับตลกคาเฟ่ โครงสร้างมุกตลกคงไม่แตกต่าง จะแตกต่างก็คงเป็นสไตล์ของตลกแบบคาเฟ่กับตลกแบบสาระแน เพราะฉะนั้น “โกยเถอะเกย์” จึงไม่ใช่หนังคู่แข่งของหนังตลกแนวคาเฟ่ แต่ “โกยเถอะเกย์” จะเป็นหนังทางเลือกอีกทางที่คนดูจะได้เข้าไปหัวเราะกับการแสดงตลกแบบเฉพาะตัวของ “เปิ้ล-หอย สาระแน” ซึ่งทั้งหมดผ่านการกำกับมุกแบบ “ยุทธเลิศ” ไม่มีใครรู้ว่า “โกยเถอะเกย์” จะทำได้ดีขนาดไหน แต่อย่างน้อยผมก็เชื่อว่า “โกยเถอะเกย์” น่าจะทำให้กลุ่มคนดูที่ชื่นชอบหนังตลกมีทางเลือกไว้หลีกหนีความจำเจเพิ่มขึ้น
ขอให้สนุกกับการชมภาพยนตร์ครับ
Ghost Station จารุณี บุญเสก นาคร ศิลาชัย มหาการพิคเจอร์ส ยุทธเลิศ สิปปภาค สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ สุภัสสรา เรืองวงศ์ อชิตะ สิกขมานา เกียรติศักดิ์ อุดมนาค โกยเถอะเกย์