From a House on Willow Street จับปีศาจมาเรียกค่าไถ่

วันเข้าฉาย: 20/04/2017 ระทึกขวัญ, สยองขวัญ 01 ชั่วโมง 30 นาที

เรื่องย่อ

“From a House on Willow Street จับปีศาจมาเรียกค่าไถ่” ภาพยนตร์สยองขวัญแนวใหม่ที่ผสมผสานหนังจารกรรมบุกบ้าน บวกกับจุดหักมุมที่ทำให้คุณต้องอ้าปากค้าง คือความแปลกใหม่ที่หนังเรื่องนี้ต้องการนำเสนอ

 

“เฮเซล, มาร์ก และ เอด” 3 สมาชิกแก๊งโจรกระจอกวางแผนเรียกค่าไถ่สาวน้อย “แคทเธอรีน” ลูกสาวคนสวยของสามีภรรยาเศรษฐี แต่มันกลายเป็นฝันร้ายของทั้ง 3 เมื่อแคทเธอรีนไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่พวกเขาคิด

 

เธอกลายมาเป็นตัวอันตรายที่จะปลดปล่อยปีศาจร้ายที่สยองเกินจินตนาการออกมา

 

แก๊งที่ลักพาตัวเธอมากลับตกเป็นฝ่ายที๋โดนตามล่าเสียเอง พวกเขาไม่รู้เลยว่ากำลังเล่นกับอะไรอยู่…

 

 

 

เกี่ยวกับงานสร้าง

“มีชาวแอฟริกาใต้ไม่กี่คนที่ทำหนังสไตล์ที่ อลาสแตร์ ทำอยู่ โปรดิวเซอร์ “ซิโน เวนทูรา” กล่าวถึงผู้กำกับ “อลาสแตร์ ออร์” ทั้งสองคนพบกันที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ก่อนที่ออร์จะไปทำเรื่อง “Indigenous” (2014) ที่ปานามา ให้กับบริษัท “Kilburn Media” หลังจากเสร็จกับ Indigenous ออร์กลับมาที่แอฟริกาใต้ ทั้งสองเตรียมงานหนังเรื่องใหม่กัน ตั้งแต่เริ่มแรกสองคู่หูดูโออยากให้หนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่สามารถแพร่หลายได้ทั่วโลก

 

“ผมอยากทำหนังที่เกี่ยวกับการลักพาตัว แต่ผมอยากเพิ่มลูกเล่นให้มัน ผมไม่อยากให้คนดูเดาออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ ออร์กล่าว เมื่อ เคท แบล็กแมน ศิลปินเมคอัพที่เคยร่วมงานกับออร์ในผลงานก่อนหน้านี้ของเขาทุกเรื่องให้คำแนะว่า ถ้าเหยื่อลักพาตัวคนนั้นถูกปีศาจสิงล่ะ เวนทูราและออร์รู้ทันทีว่า นั่นแหละคือส่วนผสมที่พวกเขากำลังหาอยู่

 

“มันต้องตื่นเต้นแบบไม่ให้พัก มีปีศาจเยอะแยะไปหมด ไม่ใช่แค่ตัวเดิมโผล่มาซ้ำๆ” โจนาธาน จอร์ดาน กล่าว เขาคือนักเขียนจากโจฮันเนสเบิร์กที่รับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ “เรารู้ตั้งแต่แรกว่าเราไม่ได้ทำหนังฮอลลีวูดฟอร์มใหญ่ทุนหนา เราเลยต้องฉลาดเลือกเข้าไว้”

 

ออร์กล่าวต่อ “ผมหางบเพิ่มได้ แต่ผมต้องหาคนที่ไว้ใจได้ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผมไปหาซิโน คือเขาปล่อยให้ผมจัดการตามวิธีที่ผมต้องการ เมื่อคุณทำหนังทุนต่ำ มันต้องเน้นไปที่ประเด็นเดียวและคนอื่นในทีมต้องเห็นตามนั้น คุณต้องหาคุณที่พร้อมจะสนับสนุนคุณไปสุดทางเพื่อให้ภาพในหัวคุณออกมาเป็นความจริง ซึ่งในสายตาของผม Fat Cigar (บริษัทสร้างของเวนทูรา) โดดเด่นกว่าใครเมื่อผมมองหาเพื่อสร้างหนังเรื่องใหม่ของผม”

 

“ดังนั้นในบทเราอัดตัวประหลาดเหล่านี้ไปเต็มที่ แต่เราจะทำให้มันออกมาเป็นภาพได้ยังไงวะ” เวนทูรากล่าว พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็ค้นพบยอดฝีมือที่อยู่ใกล้แค่หลังบ้านพวกเขาเอง “เจโค สไนแมน” เป็นหัวหน้าทีมออกแบบแต่งหน้าด้วยชิ้นส่วนสังเคราะห์ให้ “MaD Max: Fury Road” (2015)

 

เขาเข้าร่วมทีมทันทีที่มีโอกาสได้สร้างหนังสยองขวัญในประเทศบ้านเกิดตัวเอง “เราดูหนังประเภทนี้ตลอดอยู่แล้วแต่ไม่เคยมีโอกาสได้ลองทำเองเลย” สไนแมนกล่าว

 

“เรื่องนี้ผมได้ปล่อยของเต็มที่ เอาฝันร้ายของตัวเองมาทำให้เป็นจริง” สไนแมนร่วมงานกับ Dreamsmith Studios ซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ทีมของเขาใช้เครื่องสแกน 3 มิติ แบบบ้านๆ ด้วยการให้นักแสดงนั่งบนเก้าอี้ล้อมรอบด้วยกล้อง DSLR 20 ตัว เมื่อพวกเขาได้โมเดล 3 มิติเต็มตัวของนักแสดงแล้วถึงจะเริ่มออกแบบชิ้นส่วนสังเคราะห์

 

ออร์ต้องการตัวละครหญิงแกร่งเป็นศูนย์กลางของเรื่อง “ผมต้องการนักแสดงหญิงที่ไม่ต้องให้ผู้ชายมาคอยช่วย ผมยังต้องการให้พวกเธอตัดสินใจและรับผิดชอบผลของมันด้วยตัวพวกเธอเอง ซึ่งนั่นทำให้เธอต้องพยายามแก้ปัญหาให้ได้”

 

การหาจุดศูนย์กลางระหว่างโจรลักพาตัวสุดโฉดและฮีโร่สาวที่คนดูต้องเอาใจช่วยไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ออร์ที่เป็นแฟนตัวยงของ You’re Next เขาส่งบทเรื่องนี้ให้ ชาร์นี วินสัน ซึ่งเธอเองตอบตกลงพร้อมบินไปผจญภัยในกองถ่ายถึงแอฟริกาใต้ ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกเพราะเธอเคยไปแอฟริกาใต้เพื่อถ่าย “Blue Crush 2” เมื่อหลายปีก่อน เอเยนต์ของออร์ในลอสแองเจลิส แนะนำนักแสดงที่กำลังมาแรง “คาร์ลิน เบอร์เชลล์” มารับบท “แคตเทอรีน” ซึ่งเธอชอบความลึกลับของตัวละครนี้  “เธอซ่อนอะไรหลายอย่างไว้ข้างในทั้งความลับและความเจ็บปวด ตลอดทั้งเรื่องคุณจะได้เห็นปริศนาเหล่านั้นเริ่มเผยตัว”

 

การถ่ายทำเริ่มขึ้นในเช้าสุดหนาวเหน็บในเดือนมิถุนายนในโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ ไม่ได้มีบ้านช่องสไตล์อเมริกันแต่ทีมงานพบฉากภายในที่ใช้แทนกันได้ ส่วนภายนอกพวกเขาเดินทางไกลออกไปเป็นร้อยไมล์ ฉากภายในถ่ายกันที่พิพิธภันฑ์ยุคอาณานิคมที่เป็นที่เก็บโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยก่อตั้งประเทศ ด้วยความที่มันเต็มไปด้วยของเก่าและเครื่องกระเบื้องที่แตกหักได้ ทีมงานพบกับความท้าทายที่ทำให้พวกเขาต้องเคลื่อนไหวช้าๆ อย่างระมัดระวังระหว่างทำงาน

 

“เราปิดหน้าต่างและใช้ไฟจำลองแสงจากถนน” เบรนแดน บาร์นส์ บรรยาย เขาร่วมงานกับออร์ในผลงาน 3 เรื่องล่าสุดของเขาในตำแหน่งผู้กำกับภาพ “ทุกอย่างเป็นแสงจริงหมด ทั้งแต่ไฟฉายไปจนถึงโคมไฟ ผมต้องการให้มันดูสมจริงยิ่งขึ้น” บาร์นส์กล่าว “มันต้องเต็มไปด้วยเงาและความมืด คุณต้องไม่รู้ว่าจมีอะไรซ่อนอยู่ที่หัวมุม” ออร์กล่าว

 

จากนั้นการถ่ายทำย้ายไปที่รังลับของเหล่าโจรลักพาตัวที่โรงงานผลิตน้ำมันร้างกลางเมืองโจฮันเนสเบิร์ก บริเวณนั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อ แก๊สเวิร์ก เป็นที่ต้องห้ามสำหรับการถ่ายภาพยนตร์มาตลอด 20 ปีให้หลัง ในช่วงต้นยุค 2000 เกิดอุบัติเหตุพนักงานคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุตกจากที่สูง ทำให้เจ้าของที่ปิดตายโรงงานนี้ไม่ให้เข้ามาตั้งแต่บัดนั้น “เมอร์เรลล์ เวนทูรา” โปรดิวเซอร์อีกคน สามารถกล่อมให้ทางการอนุญาตให้ “From a House on Willow Street” เป็นหนังเรื่องแรกที่ได้ถ่ายที่นี่หลังเกิดอุบัติเหตุ “เราเป็นทีมเล็กๆ เป็นทีมที่ตั้งใจทำงานและให้เกียรติสถานที่” เวนทูรากล่าว “ทำให้เขาเชื่อใจมันลำบากพอควร แต่พวกเขาเห็นความตั้งใจของพวกเรา ฉันคิดว่าพวกเขาเองอยากเห็นโลเคชั่นนี้ในหนังสยองขวัญด้วยซ้ำ”

 

“อาริยี มาห์เด็บ” ผู้ที่รับหลายหน้าที่ในหนังเรื่องนี้ หนึ่งในนั้นคือการเป็นโคโปรดิวเซอร์และผู้ช่วยผู้กำกับ “ตัวบทมันทำให้ยากต่อการถ่ายทำไม่น้อย มันมีทั้งหลุมลึก ลวดหนามสนิมจับ หลังคาก็เปื่อย ถ้าคุณไม่ระวัง ก้าวผิดเพียงก้าวเดียวก็ฆ่าคุณได้” มาห์เด็บกล่าว “แต่มันก็คุ้มนะเพราะมันเพิ่มมูลค่าให้งานเรา”

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำกัน 25 วัน ทีมงานและนักแสดงรอดจากทั้งแมงมุมขนาดยักษ์, อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง และสิ่งเหนือธรรมชาติ

 

เหมือนหนังทุกเรื่องของเขา ออร์ตัดต่อด้วยตัวเอง “ข้อดีที่สุดในการตัดต่อหนังเอง คือผมจะรู้ว่าต้องถ่ายยังไงให้มันออกมาเวิร์กตอนตัดต่อ ไม่มีการเสียเวลาไปกับช็อตที่ไม่มีประโยชน์ แค่นี้เราก็ถ่ายกันลำบากอยู่แล้วสำหรับทีมงานและนักแสดงทุกคน ผมรู้ว่าผมต้องการอะไรดังนั้นจะไม่มีการย้อนกลับไปทำใหม่ เพราะว่าเราไม่ได้มีงบมหาศาล” ขั้นตอนการตัดต่อใช้เวลา 3 เดือน ก่อนที่จะส่งต่อให้บริษัทวิชวลเอฟเฟคต์  Loco ที่รับผิดชอบงานเอฟเฟคต์กว่า 100 ช็อตในเรื่อง “เราสร้างทั้งลิ้น ปากฉีกกว้าง และไฟ” จอร์จ เว็บสเตอร์ ผู้ดูแลด้านเทคนิคพิเศษกล่าว “นี่มันต่างจากงานปกติที่เราทำมาก” เว็บสเตอร์กล่าว “เรารู้ว่างานของเราดีตอนที่อลาสแตร์สำลักตอนได้เห็นครั้งแรก” เว็บสเตอร์พูดพลางหัวเราะ

 

Sound and Motion studios บริษัททำดนตรีและมิกซ์เสียงที่มาสาขาทั้งในโจฮันเนสเบิร์ก, เคป ทาวน์ และไนจีเรีย เข้าร่วมทีม “ริชาร์ด เวสต์” ผู้ดูแลด้านเสียงและผู้อำนวยการสร้างให้ “From a House on Willow Street” กล่าวว่า “มันกดดันจริงๆ เราไม่เคยทำอะไรที่คลั่งขนาดนี้มาก่อน มีแต่เสียงโหยหวนและดนตรีสุดระทึก มันสนุกมากที่ได้ทำให้คนดูต้องขนหัวลุก”


นักแสดง

คาร์ลิน เบอร์เชลล์ (Carlyn Burchell)
ซิโน เวนทูรา (Zino Ventura)
สตีเวน จอห์น วาร์ด (Steven John Ward)
ชาร์นิ วินสัน (Sharni Vinson)

ผู้กำกับ

อลาสแตร์ ออร์ (Alastair Orr)

โปสเตอร์ภาพยนตร์


ตัวอย่างภาพยนตร์ / คลิป


รูปภาพ