พูดคุยกับ “โจโก อันวาร์” เจ้าพ่อหนังสยองอินโด มัดรวมความหลอน พิธีกรรม ตำนานท้องถิ่น วัฒนธรรมหนังตะลุง ผ่านปมลับหมู่บ้านกลางป่าใน “Impetigore บ้านเกิดปีศาจ”

Impetigore-Joko-Anwar

 

กลับมาสร้างปรากฏการณ์หลอนสุดขั้วอีกครั้งกับ “โจโก อันวาร์” ผู้กำกับสายหลอนชาวอินโดเจ้าของผลงานภาพยนตร์สยองระทึกขึ้นหิ้งหลายเรื่อง อาทิ “Satan’s Slaves” (2017) และ “Ritual” (2012) ล่าสุด ผู้กำกับรุ่นใหม่รายนี้ได้สร้างตำนานความสยองให้หลอนระดับโลกกับ “Impetigore บ้านเกิดปีศาจ” ที่ฉายใน “เทศกาลหนังซันแดนซ์” และ “เทศกาลหนังรอตเทอร์ดาม” พร้อมกวาดคำชมและคะแนนรีวิวจากนักวิจารณ์ทั่วโลกได้สูงถึง 95 % รวมถึงยังเป็นภาพยนตร์ที่ติดท็อปลิสต์ “หนังทำเงินสูงสุดของอินโดนีเซีย” อีกด้วย

 

“Impetigore บ้านเกิดปีศาจ” เล่าเรื่องราวของ “มายา” และ “ดีนี” สองสาวเพื่อนซี้ที่ตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อหวังเอามรดกของครอบครัวที่หลงเหลือ แต่เมื่อก้าวเข้าหมู่บ้านพวกเธอเจอกับสายตาอันน่ากลัวของชาวบ้านพฤติกรรมที่ชวนสงสัยรวมไปถึงหลุมฝังศพเด็กที่เรียงราย คุณคิดว่าอะไรกำลังรอทั้งสองอยู่กันแน่…

 

Impetigore-Still20

 

ในความตั้งใจของคุณ “Impetigore” เป็นชื่อที่ฟังแล้วสะดุดหูมาก ชื่อนี้จะสื่อความหมายถึงอะไร

“Impetigore” เป็นคำที่ผมคิดขึ้นมาเพื่อหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ เล่นกับคำว่า “Impetigo” มันเป็นชื่อโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง มันเป็นโรคพบไม่ง่าย อาการของมันคือผิวหนังหลุดร่อน “Impetigore” คือการเป็นโรค “Impetigo” ขั้นร้ายแรงบวกกับการถูกสาป

 

“Impetigore” ได้ไปปรากฏสู่สายตาคนดูหนังในระดับโลก ปฏิกิริยาที่นักวิจารณ์ในเทศกาลหนังต่างๆ ที่คุณได้เห็นกับตาเอง พวกเขาเป็นยังไงกันบ้าง

เกินคาดเลยทีเดียวครับ ตอนที่เราเอา “Impetigore” ไปฉายที่ “เทศกาลหนังซันแดนซ์” เราคิดว่าผู้ชมต่างชาติอาจไม่เข้าใจบางองค์ประกอบของหนัง เพราะมันเกี่ยวข้องกับประเพณีและวัฒนธรรมของชาวอินโด ไม่ว่าจะเป็นบทพูดระหว่างตัวละคร มุมมองต่อผู้อาวุโส วิธีคิดของตัวละคร มันยึดตามประเพณีชวามากๆ แต่พอเราฉายที่ซันแดนซ์ผู้ชมดูและพวกเขาเข้าใจเนื้อเรื่อง ซึ่งหลายองค์ประกอบที่เราคาดว่ามันแปลกเกินไปสำหรับชาวต่างชาติ แต่กระแสการตอบรับที่ได้กลับมามันเกินกว่าที่เราคาดไว้ พวกเรามีความสุขมากที่ได้คำชมจากผู้ชม

 

คุณคิดว่าการนำวัฒนธรรมของท้องถิ่นมาใช้สร้างบรรยากาศในหนังสยองขวัญ มันช่วยยกระดับความน่ากลัวได้อย่างไรบ้าง

ผมแค่คิดว่าหนังควรมีธีมที่เป็นสากลให้ผู้คนทั่วไปเข้าใจในส่วนของเนื้อเรื่อง แต่เคลือบไว้ด้วยวิถีและประเพณีพื้นบ้าน เพราะมันจะมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้ผู้ชมต่างกับหนังที่มีแก่นหรือเรื่องราวที่คล้ายกันเรื่องอื่น นั่นคือความตั้งใจของผม การทำหนังสยองขวัญที่มีเรื่องราวที่เราคุ้นเคยกันดีแต่เติมความเป็นอินโดนีเซียลงไป

 

Impetigore-Sundance-Film-Fest-2020

Impetigore-Still01

 

อย่างเรื่องการนำเอา “หนังตะลุง” หรือ “Wayang” (วายัง) มาใช้เป็นปริศนาส่วนหนึ่งในหนัง ทำไมคุณถึงเลือกการแสดงหนังตะลุงมาใช้  

ตอนผมอายุสิบขวบ พี่ชายบอกผมว่า “หนังตะลุง” มันทำมาจากหนังคน ซึ่งหนังตะลุงฮิตมากที่อินโดนีเซีย ถ้าเปิดทีวีดูคุณจะเห็นมันฉายทางทีวีบ่อยครั้ง ผมอาศัยอยู่ทางเหนือของสุมาตราบนเกาะติดกับชวาที่หมู่บ้านของผมยังมีการแสดงหนังตะลุงอยู่เลย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงใช้หนังตะลุงเป็นส่วนประกอบหลักของเรื่อง ทุกคนเลยรู้จักหนังตะลุงดี ตอนที่พี่ผมบอกว่าหนังตะลุงทำมาจากหนังคน ผมนอนฝันร้ายเลยแม้จะโตแล้วก็ตาม

 

“Impetigore” เป็นหนังสยองขวัญที่มีโปสเตอร์ดึงดูตามาก คุณได้ไอเดียในการออกแบบมาจากไหน

ผมชอบโปสเตอร์ที่เกริ่นเรื่องราวของหนัง ไม่ใช่แค่เอาดารามายืนโพสสวยๆ แม้ว่าหนึ่งในโปสเตอร์เราออกแบบโดยใช้หน้าตัวละครแต่ว่าดวงตาของเธอกลับแปลกออกไป ข้างหนึ่งเป็นตัวแทนของชีวิตเธอในปัจจุบัน อีกข้างเป็นตัวแทนของอดีตเป็นผู้หญิงคนหนึ่งจากหมู่บ้านของเธอ ทั้งหมดนั่นเพื่อสื่อว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับอดีตและปัจจุบันของตัวละคร ผมคิดว่าหนังมีความเป็นเฟมินิสต์นะเพราะตัวเอกเป็นหญิงแกร่งซึ่งแตกต่างจากปกติ ดังนั้นไอเดียที่ผมจับผู้หญิงสามคนห้อยหัวในโปสเตอร์มันแสดงถึงความสำคัญของผู้หญิงที่จะปรากฏในหนังแต่ไม่ได้เฉลยบทบาทของพวกเธอ คุณอาจบอกได้ว่า “มายา” คือตัวเอกแต่เธอกลับไปยังหมู่บ้านเพราะต้องการเงิน เธอไม่ได้เป็นคนดีอะไร นี่คือไอเดียหลักของโปสเตอร์รูปผู้หญิงห้อยหัวเพื่อแสดงความสำคัญของผู้หญิงในหนัง แต่ผู้ชมจะบอกไม่ได้ว่าพวกเธอเป็นตัวเอกหรือตัวร้าย

 

การถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้าง ต้องเผชิญกับอุปสรรคขนาดไหน

เราถ่าย “Impetigore” กันในสามเมือง ห้าเขตพื้นที่ซึ่งกระจายตัวอยู่รอบจังหวัดชวาตะวันออกในเวลาเพียงแค่ 28 วัน การถ่ายทำเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะเราต้องถ่ายกันในหมู่บ้านห่างไกลความเจริญและในป่าจริงๆ แถมตรงกับฤดูไข้เลือดออกระบาดพอดี แต่โชคดีที่มีทีมงานคนเดียวที่ป่วยนั่นคือผมเอง แต่เราทำงานกันอย่างเป็นระบบ ก่อนที่เราจะถ่ายกันจริงๆ ผมถ่ายวิดีโอบอร์ดแล้วตัดต่อทันที ก่อนจะส่งให้ทีมงานทุกคนในกองได้ดูเพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพตรงกัน ผมใช้ทีมงานเป็นสแตนด์อินแทนนักแสดงไปก่อน ซึ่งพวกเขาดูสนุกไปกับมันไม่น้อย

 

อยากให้ช่วยฝากถึงคนดูหนังว่า ทำไมถึงควรไปสัมผัส “Impetigore” ในโรงภาพยนตร์

หนังเรื่องนี้ “Impetigore” เหมือนเป็นจดหมายรักต่อหนังสยองขวัญทุกเรื่องที่ผมโตขึ้นมากับมัน ผมมีทีมงานชั้นเยี่ยมที่ช่วยกัน ทำหนังเรื่องนี้ให้เป็นจริงได้ แถมผมยังมีทีมนักแสดงในอุดมคติที่เต็มไปด้วยยอดฝีมือของวงการภาพยนตร์อินโดนีเซีย ผมยังเชิญชาวบ้านมาร่วมแสดงด้วยทุกครั้งที่เราทำงานในพื้นที่ เรามักเชิญชาวบ้านละแวกนั้นมาร่วมแจม ผมหวังว่าคุณจะสนุกไปกับมัน เพราะมันจะเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่เคยพบที่ไหน และเพื่อให้ได้อรรถรสเต็มที่ต้องดูมันในจอภาพยนตร์เท่านั้น รับรองว่าสนุกจนขวัญกระเจิงแน่นอน

 

ฮาโลวีนนี้ เตรียมพิสูจน์ความหลอนระทึกที่ส่งตรงจากอินโดโดยเจ้าพ่อหนังสยองขวัญ “โจโก อันวาร์” ที่คุณจะต้องผวาถึงขีดสุดใน “Impetigore บ้านเกิดปีศาจ” 29 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

Impetigore-Still16

Impetigore-Still19

 

Impetigore บ้านเกิดปีศาจ

Impetigore บ้านเกิดปีศาจ

ปรากฏการณ์ความสยองล่าสุดส่งตรงจากประเทศอินโดนีเซีย ฝีมือของผู้กำกับสายหลอน “โจโก อันวา” เจ้าของผลงานอย่าง “Satan’s Slaves เดี๋ยวแม่ลากไปลงนรก” (2017) และ “Ritual”...

รายละเอียดภาพยนตร์

Featured News