ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 3 ยุทธนาวี (The Legend of King Naresuan 3)

วันเข้าฉาย: 31/03/2011 ดราม่า, ประวัติศาสตร์, แอ็กชัน 02 ชั่วโมง 26 นาที

เรื่องย่อ

การประกาศเอกราชที่เมืองแครง และสังหารสุระกำมาเหนือยุทธภูมิฝั่งแม่น้ำสะโตงของ “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” (สมเด็จพระนเรศ) ในปีพุทธศักราช 2127 ได้สร้างความตระหนกแก่ “พระเจ้านันทบุเรง” องค์ราชันหงสาวดีพระองค์ใหม่ ด้วยเกรงว่าการแข็งข้อของอยุธยาในครั้งนี้จะเป็นเยี่ยงอย่างให้เหล่าเจ้าประเทศราชที่ขึ้นกับหงสาวดีอาศัยลอกเลียนตั้งตัวกระด้างกระเดื่องตาม แต่จนพระทัยด้วยติดพันศึกอังวะ จึงจำต้องส่งเพียงทัพ “พระยาพะสิม” และ “พระเจ้าเชียงใหม่” เข้าประชิดกรุงศรีอยุธยา ทางหนึ่งนั้นพระเจ้านันทบุเรงทรงประมาทสมเด็จพระนเรศ ด้วยเห็นว่ายังอ่อนพระชันษาคงมิอาจรับมือจอมทัพผู้ชาญณรงค์ทั้งสองได้ ทางหนึ่งก็สำคัญว่ากรุงศรีอยุธยายังบอบช้ำแต่คราวสงครามเสียกรุง ไพร่พลเสบียงกรังยังมิบริบูรณ์คงยากจะรักษาพระนคร

 

ครั้งนั้นพม่ารามัญยกเข้ามาเป็นศึกกระหนาบถึง 2 ทาง ทัพพระยาพะสิมยกเข้ามาทางด่านพระเจดีย์สามองค์เลยล่วงเข้ามาถึงแดนสุพรรณบุรี ส่วนพระเจ้าเชียงใหม่-นรธาเมงสอมาจากทางเหนือ นำทัพบุกลงมาตั้งค่ายถึงบ้านสระเกศ แขวงเมืองอ่างทอง

 

กิตติศัพท์การชนะศึกของสมเด็จพระนเรศหลายครั้งหลายคราระบือไกลถึงแผ่นดินละแวก “เจ้ากรุงละแวก” มิได้ทอดธุระ ได้ลอบส่งจารชนชาวจีนฝีมือกล้านามว่า “พระยาจีนจันตุ” มาลอบสืบความที่กรุงศรีอยุธยาแต่ถูกจับพิรุธได้จนต้องลอบตีสำเภาหนีกลับกรุงละแวก สมเด็จพระนเรศทรงนำทัพเรือออกตามจนเกิดยุทธนาวี แต่พระยาจีนจันตุหนีรอดได้ เมื่อเจ้ากรุงละแวกได้ทราบกิตติศัพท์การณรงค์ของพระนเรศจึงเปลี่ยนพระทัยหันมาสานไมตรีกับอยุธยา และส่ง “พระศรีสุพรรณราชาธิราช” ผู้อนุชามาช่วยอยุธยาทำศึกหงสา หากแต่พระศรีสุพรรณผู้นี้ต่างจากเจ้ากรุงละแวกเพราะหาใคร่พอใจผูกมิตรด้วยอยุธยา  การได้พระศรีสุพรรณฯ มาเป็นสหายศึกจึงประหนึ่งอยุธยาได้มาซึ่งหอกข้างแคร่

 

King-Naresuan-3-Still01

King-Naresuan-3-Still19

 

ข้างสมเด็จพระนเรศเมื่อทรงประกาศเอกราชแล้วก็จัดเตรียมการรับศึกหงสาวดี แต่เพราะกำลังรบข้างอยุธยาเป็นรองจึงทรงวางยุทธศาสตร์รับศึกโดยมุ่งอาศัยกรุงศรีอยุธยาเป็นที่มั่นเพียงแห่งเดียว ครั้งนั้นได้โปรดให้เทครัวหัวเมืองเหนืออันเป็นแคว้นสุโขทัยเดิมลงมารวมกับครัวที่อยุธยา การณ์ปรากฏว่า “เจ้าเมืองพิชัย” และ “สวรรคโลก” ข้าหลวงเดิมแข็งเมืองไม่เทครัวลงมาสมทบจึงทรงยึดเมืองแล้วลงทัณฑ์มิให้เป็นเยี่ยงอย่าง

 

สมเด็จพระนเรศทรงเห็นว่ากำลังข้างอยุธยายังเป็นรองพม่ารามัญ จึงทรงปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การรบเสียใหม่ โดยมิปล่อยให้ทัพพระยาพะสิมและนรธาเมงสอเจ้าเมืองเชียงใหม่เข้ามารวมกำลังผนึกล้อมร่วมกันตีกรุงศรีอยุธยา  ครั้งนั้นทรงจัดทัพออกรับศึกในแขวงหัวเมือง แลด้วยทัพพม่ารามัญแยกสายเข้าตีเป็นสองทางเดินทัพช้าเร็วไม่เสมอกัน จึงทรงเทกำลังเข้ารับศึกพระยาพะสิมที่เมืองสุพรรณบุรี ตั้งพระทัยจะตีทัพเบื้องประจิมทิศก่อน  แล้วจึงเทกำลังเข้าตีทัพพระเจ้าเชียงใหม่เบื้องอุดรทิศภายหลัง  การทั้งหมดทั้งสิ้นต้องทำแข่งกับเวลา หากพลาดท่าแม้เพียงก้าวอยุธยาก็ไม่พ้นพินาศ ถึงแม้ครั้งนั้นทัพพม่ารามัญจะมิได้ยกมาดั่งทัพกษัตริย์เช่นศึกพระเจ้าช้างเผือกบุเรงนอง แต่ไพร่พลก็มากเหลือประมาณเพียงพอจะสร้างความย่อยยับให้เหล่าอาณาประชาราษฎร์เกินคาดเดา

 

ภายใต้บรรยากาศกลิ่นอายสงครามนับแต่ศึกจีนจันตุ ตลอดถึงศึกพระยาพะสิมและศึกพระเจ้าเชียงใหม่ ในพระนครก็เกิดไฟรักโชติขึ้นท่ามกลางไฟสงครามกลายเป็นเรื่องรักระหว่างรบด้วย “เลอขิ่น” ธิดาเจ้าเมืองคังมีอันมาพบ “เสือหาญฟ้า” คนรักเก่าที่รอดชีวิตมาแต่ศึกเมืองคังโดยบังเอิญ เกิดขัดข้องเป็นรักสามเส้ากับ “พระราชมนู” คนรักใหม่ทหารเสือพระนเรศ ไฟรักยิ่งลุกลามเมื่อ “รัตนาวดี” ธิดาผู้ทรงเสน่ห์ของเจ้าจอมมารดาสายมาทอดไมตรีให้พระราชมนูเกิดเป็นปมรักซ้อนปมรบ

 

ทางฝ่ายหงสาวดีนั้น พระเจ้านันทบุเรงกษัตริย์พม่ารามัญพระองค์ใหม่มีใจพิศวาส “พระสุพรรณกัลยา” พระพี่นางในสมเด็จพระนเรศหมายจะได้มาแนบข้าง ซ้ำพระนเรศอนุชามาประกาศเอกราชท้าทายอำนาจของพระองค์ทำให้สถานะของพระสุพรรณกัลยาในฐานะองค์ประกันต้องสุ่มเสี่ยงต่อราชภัย พระสุพรรณกัลยาซึ่งขณะนั้นมีพระราชโอรสด้วยพระเจ้าบุเรงนองแล้วทรงถูกพระเจ้านันทบุเรงข่มขู่บีบบังคับให้ต้องเลือกระหว่างการยอมพลีกายถวายตัวเป็นบาทบริจาริกา  หรือยอมจบชีวิตด้วยการถูกย่างสดตามโทษานุโทษของพระอนุชา ชะตากรรมของพระพี่นางสุพรรณกัลยานั้นสุดรันทด

 

เมื่อพระเจ้าหงสาวดีทรงเสร็จศึกอังวะก็เตรียมการเปิดศึกกับอยุธยา ทรงระดมไพร่พลแต่งเป็นทัพกษัตริย์กองทัพใหญ่โตเหลือคณากว่าทัพบุเรงนองช้างเผือก เฉพาะไพร่ราบมีกำลังรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 240,000 คน ทัพนี้หมายมุ่งบดขยี้อยุธยาลงเป็นผุยผงหากทัพพระยาพะสิมและทัพพระเจ้าเชียงใหม่ตีกรุงไม่สำเร็จ แต่สมเด็จพระนเรศก็สู้ศึกนันทบุเรงและนำพากรุงศรีอยุธยาให้รอดจากภัยสงคราม กู้บ้านเมืองมิให้ต้องตกเป็นประเทศราชหงสาซ้ำสองได้ด้วยกุศโลบายการศึกที่เหนือชั้นด้วยพระอัจฉริยภาพ

 


นักแสดง

พันโท วันชนะ สวัสดี
นพชัย ชัยนาม
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ
อินทิรา เจริญปุระ
ฉัตรชัย เปล่งพานิช
จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์
นภัสกร มิตรเอม
สรพงษ์ ชาตรี
เกรซ มหาดำรงค์กุล
ดอม เหตระกูล
อคัมย์สิริ สุวรรณศุข
ศิรพันธ์ วัฒนจินดา
พันเอก วินธัย สุวารี
ชลัฏ ณ สงขลา
ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ

ผู้กำกับ

หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล

รางวัล

รางวัล “ชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 20” (ประจำปี 2554) – ภาพยนตร์ไทยทำเงินสูงสุดในรอบปี 2554


โปสเตอร์ภาพยนตร์


ตัวอย่างภาพยนตร์ / คลิป


รูปภาพ