โบอา งูยักษ์ (BOA)

วันเข้าฉาย: 27/04/2006 ผจญภัย, ระทึกขวัญ 01 ชั่วโมง 35 นาที

เรื่องย่อ

คุณจะไม่มีวันลืม ความสยองขวัญครั้งใหม่

ที่รอกลืนกินทุกคนอยู่ในความดิบเถื่อนของพงไพร

“โบอา งูยักษ์”

 

…ท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขาและพงไพร มีบางอย่างเร้นกายภายใต้ป่าลึกนั้นอย่างเงียบๆ…

 

“พนา” ชายหนุ่มที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ เขาชอบเดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ เพื่อเก็บภาพความสวยงามไว้เป็นที่ระลึก วันหนึ่งพนาได้ไปท่องเที่ยวในป่าแห่งหนึ่งแถวเขตชายแดน ขณะที่เพลิดเพลินกับการเก็บภาพธรรมชาติที่สวยงามอยู่นั้น โดยไม่ทันตั้งตัว เขาโดนบางอย่างลากไปกินอย่างน่าสยดสยอง

 

กลุ่มเพื่อนสนิทของพนาที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง คือ “คิน, โก้, เสิด, ก๋อย, สีดา” และ “แพร” แฟนสาวของพนา ทราบข่าวที่พนาหายไปอย่างลึกลับ จึงตัดสินใจที่จะเข้าไปตามหาพนาด้วยตัวของพวกเขาเองในป่า โดยการโดยสารไปกับบอลลูน ด้วยเหตุผลที่ว่าจะได้เห็นวิวด้านล่างของป่าอย่างชัดเจน

 

แต่แล้วพวกเขาก็ต้องมาผจญกับลมพายุฝนรุนแรงจนทำให้บอลลูนตกกลางป่าลึกแห่งหนึ่ง

 

ในค่ำคืนที่ฝนตกกระหน่ำ ทั้งหมดมาหลบฝนที่ใต้รูปปั้นแกะสลักพญานาค ทุกคนประหลาดใจจึงเดินขึ้นไปตามทางบันไดหินจนพบปากถ้ำ ทั้งหมดตัดสินใจเข้าพักแรมในถ้ำลับกลางป่าแห่งนั้น โดยหารู้ไม่ว่าพวกเขาได้ย่างกรายเข้าสู่อันตรายที่ยากจะต้านทานได้

 

…บางสิ่งกำลังเลื้อยออกจากการแฝงกายภายในถ้ำ เพื่อรับการมาเยือนของแขกผู้ไม่ได้รับเชิญโดยเฉพาะ…

 

“งูยักษ์” ที่อาศัยอยู่ในถ้ำลับนั้น ไม่รีรอที่จะออกมาต้อนรับเหล่าหนุ่มสาวกลุ่มนี้ด้วยการกลืนกินพวกเขาทีละคนๆ ไม่ต่างจากเหยื่ออันโอชะ

 

ผู้รอดตายจากคมเขี้ยวงูยักษ์ของค่ำคืนสยองนั้น จำเป็นต้องกระเสือกกระสนหาทางออกและวิธีทำลายงูยักษ์นั้น ก่อนที่มันจะคืบคลานเข้าใกล้พวกเขาอีกครั้งหนึ่ง

 

แต่เมื่อสุดทางหนี พวกเขาจึงต้องเผชิญหน้าสู้กับมันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน

 

นี่ดูเหมือนจะเป็นทางเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้พวกเขา…รอดชีวิต

 

BOA-Still10

 

บันทึกผู้กำกับ “ชนินทร เมืองสุวรรณ”

 

ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณพี่มานพที่ให้โอกาสและไว้วางไจให้ผมได้มากำกับเรื่องนี้ ถึงแม้ผมจะผ่านงานเบื้องหลังมานาน แต่พอเริ่มกำกับหนังเรื่องแรก ก็ถือว่านับหนึ่งใหม่เหมือนผู้กำกับน้องใหม่นะครับ เด๋อๆ ด๋าๆ เหมือนกัน โชคดีที่ได้ทีมงานที่เก่งและอดทนช่วยเหลือผมไว้มากจนผมสามารถลุยงานจนถึงเสร็จ ต้องขอบคุณทีมงานทุกคนด้วยนะครับ

 

หนังเรื่อง “โบอา งูยักษ์” เป็นหนังที่มีซีจีเยอะมากประมาณ 500 ช็อตได้ มีทั้งสลิง ทั้งซีจี ยังดีที่ไม่มีสัตว์และเด็ก…ไม่งั้นแย่แน่

 

หนังเรื่องนี้สนุกและท้าทายตรงที่จะทำยังไงให้ลบความรู้สึกที่ไม่ดีต่อซีจีหนังไทยของคนดูให้ได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งตอนผมเป็นคนดู ผมก็ยังร้องยี้เหมือนกัน

 

จากที่เคยด่างานของคนอื่นไว้ คราวนี้อาจจะต้องโดนเข้ากับตัวเองบ้าง…ก็ได้

 

หนังเริ่มเปิดกล้องเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2547 และปิดกล้องประมาณกลางเดือนกรกฏาคม 2548 ใช้เวลาถ่ายทำยาวนานถึง 8 เดือนกว่าๆ ก็มีหยุดพักกองบ้างเป็นช่วงๆ จนตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจวิธีการทำงานหนังแนวนี้ขึ้นมาพอสมควร โชคดีได้ “บริษัทสวีท อายส์” ที่มีฝีมือในการทำซีจีจากวงการโฆษณามาดูแลในส่วนนี้ คอยให้คำปรึกษาและอยู่ดูในช่วงการถ่ายทำตลอด

 

ส่วนด้านบทภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นเขียนโดย “พี่มานพ อุดมเดช” (โปรดิวเซอร์เรื่องนี้) กับ “พี่ชลัท ศรีวรรณา” (ผู้กำกับ “แรงเป็นไฟ ละลายแค่เธอ”) ซึ่งเป็นบทที่อ่านแล้วสนุกตื่นเต้น ถ้าผู้ชมชมแล้วสนุกก็ต้องยกความดีส่วนหนึ่งให้กับบทภาพยนตร์ด้วยครับ

 

ผมโชคดี นอกจากได้ทีมงานที่ดี ยังได้ทีมทำสลิงที่ดี ทีมทำซีจีที่ดี ค่ายหนังที่ดี ก็อยู่ที่ผู้ชมทุกท่านล่ะครับ เมื่อได้ดูแล้วจะสนุกอย่างที่ผมต้องการนำเสนอหรือเปล่า

 

ขอบคุณมากครับ

 

BOA-Still09

 

บันทึกโปรดิวเซอร์ “มานพ อุดมเดช”

 

หลังจากที่ได้สร้างภาพยนตร์เรื่อง “ตุ๊กแกผี” (2547) ผมพบว่าการทำภาพยนตร์ที่เน้นความตื่นเต้นระทึกขวัญเป็นงานที่ท้าทายมากยิ่งขึ้นและให้ความรู้สึกที่สนุกในการทำงาน เพราะมันต้องอาศัยจินตนาการสูงมาก ในงานเรื่อง “โบอา งูยักษ์” นี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ทำหน้าที่ในการกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเองก็ตาม แต่ก็รู้สึกได้ถึงความท้าทายที่ตัวเองได้เกี่ยวข้องกับงานที่ต้องการจินตนาการอย่างมากเรื่องนี้ นับตั้งแต่การมีส่วนร่วมในการเขียนบทภาพยนตร์นั้นแล้ว ผมกับ “คุณชลัท ศรีวรรณา” (ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “แรงเป็นไฟ ละลายแค่เธอ”) ได้ช่วยกันเขียนบทฯ เรื่องนี้ จำได้ว่าเราทำงานกันอย่างเคร่งเครียด มีการถกเถียงกันอย่างเอาจริงเอาจัง เพื่อให้ได้เนื้อหาที่ดีที่สุด เราทั้งคู่รู้ว่ามีภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับความดุร้ายและน่ากลัวของงูมากมายที่คนทำหนังในโลกนี้ได้ทำออกมาสู่ตลาดภาพยนตร์ แต่ละเรื่องต่างก็มีอะไรดีๆ ในตัวเองที่ผู้ชมชื่นชอบ หน้าที่ของเราจึงต้องหาอะไรที่ดีๆ ให้แก่เรื่องของเราเช่นเดียวกันและที่สำคัญต้องดูแตกต่าง ซึ่งตรงนี้เองที่ผมอยากจะบอกว่าเป็นความยากลำบากและเราทั้งคู่ได้ใช้จินตนาการอย่างมากทีเดียว ต้องเข้าใจว่าเราไม่ใช่คนที่ทำคนแรกที่ทำหนังเกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลานพวกนี้ อย่างไรก็ตาม เราสามารถหาสิ่งที่เราต้องการได้

 

หลังจากที่บทภาพยนตร์ของเราได้ผ่านการพัฒนาร่างแล้วร่างเล่า และในฐานะที่ผมเป็นผู้ดำเนินงานสร้างด้วย ผมพอใจร่างสุดท้ายที่เป็นแนวผจญภัยของกลุ่มเด็กวัยรุ่นในป่าดงดิบ ผมไม่อยากให้มีนักวิทยาศาสตร์หรือนักสัตววิทยา ไม่อยากให้มีนักล่าหรืออะไรประเภทนั้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ คอนเซปต์เกี่ยวกับเด็กวัยรุ่นโดนใจผมมากกว่า ผมมองว่าวัยรุ่นเป็นวัยที่มีพลังสูง เป็นวัยที่เต็มไปด้วยพลังและความตั้งใจ แต่ก็เป็นวัยที่ละเลยเรื่องความรอบคอบในเวลาเดียวกัน เป็นวัยที่ไม่ชอบลงในรายละเอียด พลังในวัยของพวกเขากระตุ้นให้เป็นเช่นนั้น สนใจแต่สิ่งที่พวกเขาอยากจะทำเท่านั้น และนี่เองจึงนำพวกเขาไปสู่ความผิดพลาดในชีวิตได้ง่าย ผมชอบความคิดนี้ ป่าดงดิบและงูยักษ์ในภาพยนตร์จึงเป็นซิมโบลแทนโลกในความเป็นจริงของคนเราในห้วงวัยที่คาบเกี่ยวระหว่างความเป็นเด็กและผู้ใหญ่

 

“โบอา งูยักษ์” ยังเป็นงานที่ท้าทายทางเทคนิคคอมพิวเตอร์อีกด้วย งูในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นงูที่สร้างขึ้นด้วยเทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟิกที่เรียกว่า 3D ทีมงานใช้เวลาในการทำงานนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 48 เพื่อสร้างโบอา มันยากมาก ยากจริงๆ เริ่มตั้งแต่การศึกษาโครงสร้างทางกายภาพของสัตว์เลื้อยคลานประเภทนี้ตลอดจนการเคลื่อนไหวของมัน ตอนแรกคิดกันว่าไม่ยาก เพราะมันเป็นสัตว์ที่ไม่มีขา ไม่มีเท้า แต่เอาเข้าจริงๆ ตรงนี้กลับเป็นเรื่องที่ยากที่สุด ถ้ามันมีขาและเท้าเสียอีกจะทำให้ง่ายขึ้น เพราะอวัยวะส่วนที่ว่าจะช่วยให้เราสามารถจับช่วงจังหวะของการเคลื่อนไหว แต่งูมันเลื้อย เราไม่รู้ช่วงจังหวะการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวหนังของมัน เรารู้ว่าเกล็ดใต้ท้องของงูช่วยในการเคลื่อนไหว แต่เราไม่สามารถเห็นเกล็ดเหล่านั้นทำงานจริงๆ ว่าเป็นอย่างไร มันอาจจะมีนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาและถ่ายทำเป็นภาพยนตร์ไว้ แต่เราไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนที่เราจะสามารถนำมาอ้างอิงในการทำงานได้ อินเทอร์เน็ตช่วยเราไม่ได้เลย จึงมีเพียงเครื่องมือสองอย่างที่ได้ช่วยในการทำงานครั้งนี้ คือความละเอียดและความรู้สึกและพวกเขาก็สร้างมันได้จริงๆ ในความรู้สึกของผม มันเป็นโบอาที่มีชีวิตจริงๆ ผมนึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะทำมันได้ดีขนาดนี้

 

ความท้าทายประการสุดท้ายที่สำคัญที่สุดในการเป็นผู้ดำเนินงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง “โบอา งูยักษ์” นั่นคือผมตัดสินใจที่จะไม่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เหตุผลไม่มีอะไรมากไปกว่าผมต้องการมุมมองใหม่ๆ เพราะมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่คุ้นชินกับภาพในหนังที่ผมทำในฐานะผู้กำกับฯ แต่ครั้งนี้ผมอยากเห็นอะไรที่ผมอาจจะไม่เคยเห็นในมุมมองของคนอื่น ผมตัดสินใจที่จะเลือกใครสักคนที่มารับภาระนี้ ซึ่งผมได้เลือก “คุณชนินทร เมืองสุวรรณ” ซึ่งเป็นคนหนุ่มและมีประสบการณ์ในงานสร้างภาพยนตร์มามาก ภาพยนตร์เรื่อง “โบอา งูยักษ์” เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ แต่ประสบการณ์ที่ช่ำชองในงานสร้างภาพยนตร์ของเขา ทำให้ผมไม่รู้สึกผิดหวังที่ได้เขามากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาทำงานนี้ด้วยความอุตสาหะจนผมอดประทับใจไม่ได้กับการที่เขานำทีมงานบุกป่าดิบในภาคใต้เข้าไป เพื่อถ่ายทำฉากหนึ่งในดงทากและต้องคอยระวังพืชมีพิษบางชนิดอีกด้วยซึ่งค่อนข้างมีมากในหน้าฝน หรือการเข้าไปถ่ายฉากในถ้ำที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีที่มีความสูงจากพื้นดินกว่าสามสิบเมตรและลึกกว่าสองกิโลเมตร อากาศที่อับชื้นในถ้ำทำให้เขาและทีมงานหลายคนล้มป่วย แต่เขาก็สามารถนำพาการทำงานภายใต้ความกดดันนั้นผ่านไปได้ด้วยดีและมีประสิทธิภาพ

 

ผมบอกกับตัวเองเมื่อได้เห็นภาพยนตร์ซึ่งเสร็จสิ้นลงแล้วนั้นว่า ความท้าทายที่เสี่ยงที่สุดกับผู้กำกับฯ ชนินทรนั้น เป็นความท้าทายที่ผมตัดสินใจไม่ผิดพลาด เขาเป็นผู้กำกับฯ หน้าใหม่ มือใหม่ แต่ไม่อ่อนหัดแต่อย่างใดเลย ผมหวังว่าความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นรางวัลอันยิ่งใหญ่สำหรับความเหนื่อยยากที่เขาได้ทุ่มเทให้กับมันตลอดระยะเวลาร่วม 2 ปี…

 


นักแสดง

พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์
สิทธา เลิศศรีมงคล
นพพันธ์ บุญใหญ่
กีรติกร รัตน์กุลธร
ไอศิกา ตั้งศิริธานนท์
ต้องรัก อัศวรัตน์
ภูพาน คัญทัพ
กีรติ ศิวะเกื้อ
พงศนารถ วินศิริ

ผู้กำกับ

ชนินทร เมืองสุวรรณ

โปสเตอร์ภาพยนตร์


ตัวอย่างภาพยนตร์ / คลิป


รูปภาพ